12

1254 Words
12 “อย่าหวังว่าจะได้ไปจูบใคร พี่ไม่ยอม” เสียงเข้มเอ่ยชิดปากสวยล่อตาล่อใจ “พี่ริโก้มีสิทธิ์อะไรมิทราบ เป็นแค่พี่ชายนอกไส้ ไม่ใช่พ่อนะถึงได้มาห้าม” เธอสวนกลับจนเขาเลือดขึ้นหน้าอีกรอบ “สิทธิ์ที่พี่เป็นคนแรกที่จูบเบลล์ยังไงล่ะ แล้วพี่ก็จะเป็นคนสุดท้ายที่จะได้จูบเบลล์ด้วย” เสียงเข้มๆ ดังเหนือเรียวปากช่างเถียง “ถ้าอย่างนั้นพี่ริโก้ก็หมดสิทธิ์ เบลล์จะไปหาผู้ชายสักคนมาจูบทับรอยจูบของพี่ริโก้ แค่นี้พี่ริโก้ก็ไม่ได้เป็นคนสุดท้ายที่จูบเบลล์แล้ว” วราลีแข็งใจพูดโต้กลับไป ทั้งๆ หัวใจสาวเริ่มเต้นแรง ใจหวาดหวั่นกับความใกล้ชิดในครั้ง อีกทั้งยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับลมหายใจอุ่นร้อนของชายที่ตนหลงรักที่กระทบกับปลายจมูกของตนเองด้วย สาวน้อยจอมดื้อคงไม่รู้ตัวว่าทำเรื่องผิดพลาดอย่างมหันต์กับคำพูดประโยคนี้ มันเหมือนมีเชื้อไฟปะทุอยู่ในใจของเขา “อย่าฝัน อย่าคิดว่าพี่จะยอม” เขากัดฟันพูด กรามขบกันแน่นจนเห็นเส้นเลือดโปนปูด “จะคิดพี่ริโก้จะทำไม ไม่ได้คิดเท่านั้นนะจะทำด้วย” เสียงถือดีลอดผ่านปากสาว “ฝันไปเถอะ” ดวงตาเจ้าของเสียงน่ากลัวเหลือเกิน ลุกโชนไปด้วยแรงโทสะและความหึงหวง แล้วจากอารมณ์ที่คุกรุ่นในใจบวกกับปากสาวที่อยู่ใกล้ชิดแค่ไม่ถึงคืบ ช่างยั่วปากยั่วลิ้นของเขาเหลือเกิน ทำให้เขาทำบางอย่างที่พี่ชายไม่สมควรทำกับผู้หญิงที่คิดเพียงน้องสาว “พะ...” ยังไม่ทันที่วราลีจะพูดประโยคที่ตนเองตั้งใจจะขับออกไป ปากหนามีเสน่ห์วิ่งตรงดิ่งมาปิดปากสาว ยุติการสนทนา การโต้เถียงในฉับพลัน ชายหนุ่มรูปหล่อใช้โอกาสงามๆ สอดลิ้นเข้าลุกล้ำเข้าสู่โพรงปากหอมๆ หวานๆ ละมุนลิ้นที่เขาถวิลหาต้องการครอบครองมานานหลายวัน อาการตกใจของวราลียังไม่ทันจางหาย อาการมึนงงเข้ามาแทรกอีกทำนบ อาการดังกล่าวมาจากปากหนาที่บดเคล้าริมฝีปากของตนเอง ไม่เพียงเท่านั้นลิ้นใหญ่ยังรัดเกี่ยวลิ้นบางชื้นที่ทำอะไรไม่ถูก จะตวัดรัดโต้ตอบก็ทำไม่เป็น จะหลีกหนีทำไม่ได้เนื่องจากเขาไล่ต้อนจนเธอจนมุม ความมึนงง สมองไม่สั่งการจึงบังเกิดขึ้น และนั่นทำให้ร่างสาวไร้การต่อต้านไปครู่ใหญ่ เฟอเดอริโกกวาดลิ้นไปทั่วช่องปากสาว ดื่มด่ำกับความหอมหวานที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร เขารู้สึกถึงความเย็นที่ไหลอาบทั้งร่าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความร้อนรุ่มที่ค่อยๆ สุมกาย ไฟสวาทค่อยๆ ลุกโชนทีละนิดทีละหน่อย จนมันสุมเป็นไฟกองใหญ่ ก่อนจะกระจายอาบไปทั้งร่าง เธอเหมือนเชื้อไฟดีดีนี่เอง...แล้วเขาก็เหมือนน้ำมัน ริมฝีปากบางคู่นี้ทำให้เขาหลงลืมสถานะที่เคยตั้งมั่นไปโดยสิ้นเชิง สมองของเขาละเว้นความคิดนั้น สมองสั่งการเพียงอย่างเดียวว่า จะไม่มีใครหน้าไหนมาจูบเรียวปากหอมของเธอได้ จะมีเพียงเขาคนเดียว มือที่จับข้อมือสาวเอาไว้แน่นในคราแรก เริ่มคลายออกจนกระทั่งปล่อยเป็นอิสระ มือใหญ่ข้างเดิมไล้ไปตามแผ่นหลังสาวผ่านชุดสวยที่เธอสวมใส่ ไล้จนเกิดความร้อนแผ่ซ่าน กระดูกสันหลังของเธอวูบวาบ ดั่งมีไฟลูกเล็กลามเลีย บวกกับรสจุมพิตเร่าร้อนและเรียกร้อง ยิ่งทำให้วราลีสาวแสบแต่ไร้ประสบการณ์ถึงกับอ่อนระทวย สยบอยู่ในอ้อมกอดของเฟอเดอริโก ความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นในร่างกายของวราลีไม่ได้หยุดอยู่แค่กระดูกสันหลังเท่านั้น บัดนี้มันลามไปทั่วทั้งร่าง หวามไหวด้วยความรู้สึกแปลกๆ อยู่ตรงบริเวณใจกลางร่างสาว ที่คล้ายกับว่ามีลูกคลื่นบางอย่างแล่นพล่านตามซอกขาแล้วมารวมตัวกันดุจพายุหมุนในความเป็นอิสตรีเพศ สาเหตุของอาการเหล่านั้นเกิดจากฝ่ามือใหญ่ได้เคลื่อนย้ายมาจับต้องคลึงเคล้นทรวงอกลูกโตหลบซ่อนตัวอยู่ในชุดราคาแพง “เฮือก...” เสียงเรียกลมหายใจของวราลีดังหลายครั้งหลังจากที่ปากหนาได้รูปถอยห่างปากบอบบางที่บดจูบยาวนาน แต่ปากหนุ่มคู่นั้นไม่ได้ละไปไหนไกล ปาดป่ายอยู่บริเวณผิวแก้มแล้วกำลังเลื่อนไปยังใบหู สติที่เตลิดไปไกลของสาวเจ้าจึงหวนคืนกลับมา มือเล็กออกแรงผลักร่างบุรุษสูงใหญ่ที่กำลังง่วนอยู่กับความหอมจากรุ่นกลิ่นกายสาว “เพี้ยะ...” ใบหน้าหนุ่มชาเป็นแถบตรงข้างที่ถูกฝ่ามือสาดฟาดเต็มแรง ก่อนที่เจ้าของมือพิฆาตจะขยับตัวมานั่งริมประตูคว้ากระเป๋าและตำราเรียนที่วางอยู่ใกล้ๆ มากอดไว้ จ้องมองใบหน้าหล่อนิ่ง น้ำตาสาวเอ่อไหล “ถ้าคิดกับเบลล์แค่น้องสาว ก็อย่าทำอย่างนี้กับน้องสาวของพี่อีก” พูดจบประตูบานใกล้ตัวก็เปิดออกด้วยมือเล็กสั่น เป็นโชคดีของวราลีที่ว่า รถยนต์สุดหรูได้จอดนิ่งสนิทหน้ามหาวิทยาลัยที่เธอศึกษาพอดี วราลีจึงไม่รีรอที่จะนำพาตนเองออกไปจากรถโดยไม่หันกลับมามองมาเฟียหนุ่มเลยแม้แต่น้อย “โธ่โว้ย!!...กูทำอะไรลงไปเนี่ย” เฟอเดอริโกสบถออกมาคำโต ก่นถามตัวเองกับการกระทำเมื่อครู่นี้ เหตุใดยามใกล้ชิดกับวราลี เขาถึงได้หลงลืมทุกสิ่งอย่าง หลงลืมไปว่าเธอคือน้องสาวของเพื่อนสนิท เธอคือผู้หญิงที่เขาเห็นมาตั้งแต่วัยแรกรุ่น เป็นผู้หญิงที่เขาคิดเสมอว่าเป็นน้องสาว จนกระทั่งเมื่อหนึ่งปีก่อน หนึ่งปีที่เธอมาเรียนต่อยังดินแดนแห่งนี้ โดยที่บุพการีและพี่ชายของ วราลีฝากฝังเธอไว้กับเขา ความคิดนั้นก็ค่อยๆ ถดถอยลงเรื่อยๆ ความเสียใจ ความละอายใจก่อเกิดขึ้นในใจของเขาเต็มเปี่ยม เขาตั้งใจว่าจะก้าวตามร่างหุ่นงามไปพร่ำขอโทษในสิ่งที่ตนเองทำลงไป แต่ใจเขาก็ฉุกคิดได้ว่า เวลานี้วราลีมีแต่ความโกรธง้องอนไปก็คงไม่เป็นผลสำเร็จ ไว้กลับมาจากอังกฤษค่อยมางอนง้อก็ยังไม่สาย วินาทีนี้ เฟอเดอริโกจึงทำได้เพียงส่งสายตาสำนึกผิดไปยังร่างระหงที่เดินลิ่วๆ เข้าไปในมหาวิทยาลัยเท่านั้น คาร์เตอร์ถือดอกไม้ช่อใหญ่มายืนคอยใครบางคนอยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์สุดหรูใจกลางกรุงโรม วันนี้เป็นวันดีที่เขาจะเริ่มลงมือทำตามแผนการ “ขยี้ใจมาเฟีย” เพราะสืบทราบมาว่าเฟอเดอริโกเดินทางไปอังกฤษ กว่าจะกลับมาก็ประมาณสี่ถึงห้าวันข้างหน้า ตลอดวันที่อีกฝ่ายไม่อยู่จึงเป็นวินาทีทองของเขา “สวัสดีครับเบลล์” เสียงของคนที่ยืนรอวราลีดังขึ้น เมื่อร่างสาวเดินพ้นประตูอพาร์ทเม้นท์ คนที่ถูกทักชะงักเล็กน้อยกับการพบเจอคาร์เตอร์แบบไม่คาดฝัน แต่ถึงกระนั้นความที่เป็นคนรักษามารยาทจึงทักทายตอบกลับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD