ตอนที่สาม เติมต้องการ 1

1999 Words
เติมต้องการ คอฟฟีแอนด์สปา หลังจากที่แวะส่งเหมือนแพรที่คอนโดมิเนียมแล้วศรัณย์ก็ขับรถเลยมาที่ร้านกาแฟของปฐพีและน่านฟ้า ซึ่งทั้งสองร่วมหุ้นกันเปิดร้านกาแฟ และสปาที่บริการโดยพนักงานผู้ชายรูปร่างหน้าตาดี... เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลมาพักหนึ่งแล้วว่าบาร์โฮสต์ของที่นี่งานดี ก่อนหน้านั้นคนมาใช้บริการเยอะจนล้นร้าน ต้องไปนัดกันที่ร้านอาหารอิตาลีข้างร้านกาแฟเติมต้องการ แต่วันนี้กลับแปลกไป เพราะว่าสองคนนั้นนัดที่ร้านกาแฟ มีอยู่สองอย่างคือขยายร้าน กับกระแสนิยมเริ่มซา ทำให้ลูกค้าไม่แน่นเหมือนตอนแรก... คนเป็นหมอที่ต้องทำธุรกิจและบริหารงานไปด้วยวิเคราะห์ในใจ ตอนที่จอดรถและเดินเข้ามาในร้าน เขาเห็นผู้หญิงหลายคน ทุกคนเคยเข้าใจว่าคนที่มาใช้บริการบาร์โฮสต์จะเป็นสาวเปลี่ยว สาวแก่ แต่เอาเข้าจริงๆ มันค่อนข้างเปิดโลกมากที่เห็นสาวสวยหลายคนมาที่ร้านกาแฟแห่งนี้ ปฐพีเล่าให้ฟังว่าบางคนที่มาก็คงแค่อยากมาผ่อนคลายสายตา หรือดูอะไรแปลกใหม่ เพราะโฮสต์ที่เติมต้องการ เป็นหนุ่มหล่อระดับไฮเอนด์ทั้งนั้น เขานึกถึงเหมือนแพรแล้วก็ส่ายหัว เธอเคยบอกว่าจะมาใช้บริการที่นี่แล้วเขาห้ามเธอแล้วเป็นคนที่ทำให้เธอไม่ซิงเสียเอง ซ้ำเขายังเป็นเพื่อนกับเจ้าของเติมต้องการอีก เขาจะเข้าข่ายเป็นโฮสต์ไหมนะ สายตาของคนในร้านกาแฟที่ไม่ได้น้อยเลยมองมาที่เขา การเป็นผู้ชายแล้วอยู่ที่นี่ย่อมตกเป็นจุดสนใจอยู่บ้าง... ศรัณย์เหมือนอยากจะยกมือปิดหน้าตัวเองไว้เพราะกลัวเจอคนรู้จัก "ไอ้หมอ ทางนี้" เขามองไปทางเสียงเรียก เห็นน่านฟ้ากวักมือเรียก เขาเหมือนจะเอามือปิดหน้าแล้วตอนโดนเรียกอย่างนั้น ไอ้เพื่อนเวร ชื่อมีไม่ยอมเรียก คนที่ห่วงภาพลักษณ์เป็นหนักหนาเดินก้มหน้างุดไปที่โต๊ะเพื่อน ยังดีหน่อยที่มันเลือกโต๊ะที่เป็นส่วนตัวหน่อย หวังว่าเมื่อกี้คงไม่มีใครที่รู้จักเขาอยู่แถวนี้หรอกนะ ไม่อย่างนั้นเขาคงโดนลือแน่ว่าไม่มาสมัครเป็นบาร์โฮสต์ ก็มาใช้บริการบาร์โฮสต์ ฟังดูแล้วสยองทั้งสองอย่าง ป้าเขาได้ยินเข้าคงเรียกเขาเข้าพบแล้วตัดออกจากกองมรดก แม้ว่าเขาจะเป็นทายาทคนเดียว แต่เขาเชื่อว่าท่านต้องยกทุกอย่างให้การกุศลแน่นอนถ้าเรื่องนี้ถึงหูท่าน... "ไง" ปฐพีทักบ้าง ศรัณย์พยักหน้าแล้วก็นั่งลง กวาดตามองน่านฟ้า ผู้ชายตัวโตหน้าคมพราวเสน่ห์แถมยังเจ้าชู้จัด ส่วนปฐพีนั้นหน้าตาหล่อตี๋กระเดียดไปทางพระเอกเกาหลีแต่ก็ตัวโตสูงใหญ่พอๆ กับน่านฟ้า... เขารู้จักทั้งสองสองผ่านเก้าทัพ หลังๆ มานี้ก็เลยสนิทกับสองคนนี้ด้วย พอได้รู้จักก็มีเรื่องให้คุยมากขึ้นเพราะน่านฟ้าเล่นหุ้นและถนัดงานบริหาร เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าที่เขาเพิ่งเดินมาวันนี้ ส่วนปฐพีนั้นเป็นสถาปนิกฝีมืออันดับต้นๆ ของไทยและเป็นทายาทบริษัทใหญ่ นอกนั้นแล้วสองคนนี้ยังบ้าระห่ำมากพอที่จะเป็นเจ้าของกิจการบาร์โฮสต์ หลังๆ เขาเลยมาเจอเพื่อนกลุ่มนี้ได้บ่อยเพราะว่าเรื่องที่คุยกันเป็นเรื่องนอกโรงพยาบาล เพราะเพื่อนหมอที่รู้จักกันมักจะคุยเเต่เรื่องงานแม้ในเวลาพักผ่อน เลยอยากอยู่ในโลกอื่นบ้าง "สบายดี มีเรื่องปวดหัวเป็นระยะว่ะ" เขานั่งลงแล้วถอนหายใจเมื่อนึกถึงปิ่นโตขึ้นมา "ปวดหัวเรื่องอะไร แล้วเรื่องเด็กที่บอกให้หามาเลี้ยงแก้เหงา จะได้ไม่ต้องเศร้าตอนสาวที่แอบชอบมาตั้งแต่เด็กไปหมั้นนี่ คืบหน้าแค่ไหนแล้ววะ" น่านฟ้าถามขึ้นมาตรงกับเรื่องที่กำลังวิ่งวนในหัวตอนนี้พอดี ศรัณย์จำได้ว่าเขารู้จักกับเอ้ ผู้จัดการผับที่จัดหาเด็กให้เพราะว่าน่านฟ้ากับปฐพีที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในผับนี่ล่ะแนะนำให้ ก็เรื่องแบบนี้ก็ต้องเป็นคำแนะนำจากเพื่อนดีๆ แบบนี้แหละ "ก็นี่ล่ะที่ปวดหัว... ผู้จัดการผับพวกเอ็งย้อมแมวชะมัด เด็กยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย อินโนเซนส์ซะข้ารู้สึกบาปที่เอามาใช้งานไม่ถูกวิธี" "ไม่ได้ย้อมแมวหรอก" ปฐพีบอก ศรัณย์กับน่านฟ้าเลยหันไปหาเจ้าตัว "คือพี่เอ้ก็มาปรึกษาข้า ว่าไอ้แซมให้หาเด็กแบบไม่ผูกพันมาอยู่เป็นเพื่อนสักเดือนสองเดือน ครั้นจะเอาคนที่เคยเรียกใช้กันอยู่ก็กลัวว่าเด็กจะหลงเสน่ห์เอ็งจนไม่ยอมปล่อย เพราะเอ็งทั้งหล่อทั้งรวยไงวะไอ้หมอ แล้วเด็กคนที่ส่งให้เอ็งพี่เอ้ก็มาขอให้ข้าช่วยเพราะว่ายังเรียนแล้วโดนผัวแม่เลี้ยงตามตอแยอยู่ ข้าสงสารเลยบอกส่งให้เอ็งอ่ะไอ้หมอ" "อ้าว... เป็นเอ็งเรอะที่เป็นตัวการ" ศรัณย์โวยวาย "เขามาขอให้เอ็งช่วย โยนให้ข้าได้ไง" "มันมีเด็กของมันอยู่แล้ว ใช่ไหมไอ้ป้อง"​ น่านฟ้าบอก มองหน้าเพื่อนอย่างรู้ทัน ศรัณย์เลยถึงบางอ้อ ปรกติปฐพีจะใจดีแพ้ลูกอ้อนของทุกคน จนเพื่อนๆ เรียกว่าไอ้พ่อพระ เเต่มันสงสารแล้วส่งเธอมาเป็นปิ่นโตให้เขาแทน แม้ว่าเขาไม่ต้องการอะไรแบบนี้ เพราะว่ามันมีเด็กแล้วนี่เอง "อย่ามาแซวข้านะเว้ย... เอ็งก็ใช่ย่อย หลงเมียอย่างกับแมวติดสัด บอกเลิกกิ๊กน้ำตาร่วงไปกี่คนเเล้ว" ปฐพีไม่ยอมเเพ้ "โห นี่วางมือจากวงการเพลย์บอยเหรอพวกเอ็ง ดี ข้าจะได้ไม่ต้องคอยส่งคนจากบีเจซีมาเจาะเลือดให้บ่อย รู้จักทำตัวปลอดภัยขึ้นมาก็ดี" เหมือนเพื่อนจอมเจ้าชู้จะมีตัวจริงขึ้นมา เพราะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องผู้หญิงขึ้นมาสักที เขาเลยได้ทีเลยล้อ แม้ว่าไอ้พวกเพื่อนที่ค่อนข้างเป็นงานหยาบไม่ค่อยรู้จักความอาย แต่เขาก็เห็นเหมือนว่าพวกมันสองคนวางตัวไม่ถูก... เหลือเชื่อจริงๆ ไม่เห็นกับตาไม่เชื่อแน่ๆ "ทำมาล้อเพื่อนนะไอ้แซม เอ็งก็เหมือนกัน ระวังดีๆ เหอะ ปิ่นโตเอ็งน่ะ เปิดกินแล้วระวังจะติดใจเข้าล่ะ พี่เอ้บอกว่าสวยมากซะด้วย จากที่กลัวว่าเขาจะเกาะติดตัวเองเเจจนสลัดไม่ออก เอ็งควรกลัวว่าจะติดหนึบจนไม่ยอมปล่อยน้องเขาไปแล้วกัน" ปฐพีดักคอเขา "ไม่มีวันหรอก ดียังไงก็ต้องปล่อย ตอนที่ข้าสบายใจขึ้นแล้วอยู่ด้วยตัวเองได้ ก็ต้องปล่อยไป ไม่ได้รักนี่หว่า" "เอ็งนี่มั่นคงในรักชะมัด ขนาดเด็กพี่เอ้ยังเปลี่ยนใจเอ็งไม่ได้ ถ้าน้องรักเอ็งขึ้นมา คงน่าสงสารน่าดู" "ข้าจับเซ็นสัญญาแล้ว ข้อแรกในสัญญาเลยคือไม่มีการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น เขายอมรับและรู้ดีเว้ยว่าต้องทำตัวยังไง" ศรัณย์บอก ไม่เข้าใจว่าไอ้เพื่อนตัวดีจะดึงดราม่าทำไม มันบอกเองแท้ๆ ว่าให้เขาหาเด็กมาอยู่ด้วยเเก้เหงาจะได้มีเพื่อนคุยด้วยตอนเศร้า ไม่ได้หามาเป็นเมีย เป็นแม่ของลูกเสียหน่อย "เปลี่ยนเรื่องเหอะว่ะ โทรหาไอ้เก้าดีกว่า เเชตหามันเมื่อกี้ มันบอกว่าง" หมอหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง ชวนกันวิดีโอคอลหาเก้าทัพเพื่อคุยกันประหนึ่งว่าหมอนั่นอยู่ด้วย เพราะห้องที่นั่งดื่มกันอยู่ตกแต่งคล้ายห้องประชุม ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเลยไม่ต้องกลัวรบกวนลูกค้าคนอื่น ต่อวิดีโอคอลหาครู่เดียว เก้าทัพก็รับสาย เขาสวมชุดนอนเพราะเวลาที่ต่างกัน ถึงที่ไทยจะมืดแล้ว แต่ที่อเมริกาเพิ่งจะเช้าอยู่ "ว่าไงไอ้แซม เอ็งอยู่ไหนวะ ข้าจะบอกพอดีว่า พี่กันต์ให้จองคอนโดใกล้ๆ โรงพยาบาลให้ด้วย" เก้าทัพไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนเลยบอกธุระเรื่องพี่ชายของมันที่อายุห่างกันแค่ปีเดียวเกี่ยวกับเรื่องที่พักเพราะว่ากันต์จะมาทำงานที่โรงพยาบาลบีเจซี ตอนแรกศรัณย์รู้จักกับกันต์ก่อนเพราะเป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมา แล้วมาสนิทกับเก้าทัพตอนเรียนเฉพาะทางที่ต่างประเทศ เขาเลยเป็นเพื่อนสนิทกับทั้งพี่ทั้งน้อง ไม่ได้เรียกกันต์ว่าพี่เหมือนที่เก้าทัพเรียก "ออ ป้าข้าจัดการให้แล้ว วันที่ไอ้กันต์มาเริ่มงานมาเอากุญแจห้องที่เลขาแพทย์ได้เลย ว่าแต่เอ็งไม่อยากทำงานเหรอวะ แผนกศัลย์ยังขาดคนนะ" พอวกเข้าเรื่องงานเลยหว่านล้อมเก้าทัพที่มักจะทำตัวไม่เหมือนหมอ และลืมไปด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นหมอเพราะทำงานอื่นทั้งเขียนหนังสือทั้งบริหาร ล่าสุดนี้ซื้อกิจการเติมต้องการ ออกทะเลไปเรื่อย เขาพยายามลากมันกลับเข้าวงการแพทย์เพราะเสียดายฝีมือมัน "ข้ายังสนุกกับการทำงานอื่นอยู่ เดี๋ยวไปขึ้นพาร์ทไทม์เป็นระยะเอาแล้วกันว่ะ" "เออ มาช่วยหน่อยก็ดี ได้ไอ้กันต์มาคน โรงพยาบาลข้าก็ดึงคนไข้มารักษาได้เยอะแล้ว ต้องหาหมอมาทำทีมผ่าให้พอด้วย ว่างๆ เอ็งก็มาช่วยแล้วกัน นี่ๆ จบเรื่องงานก่อนนะไอ้เก้า นี่เอ็งดูสิ ข้าอยู่กับใคร" เขาหมุนกล้องไปทางน่านฟ้า กับปฐพี ที่นั่งเงียบอยู่เพราะว่าสองคนนั้นยังไม่รู้จักกันต์ คาดว่าสองพี่น้องกลับมาอยู่ไทยพร้อมหน้าเมื่อไหร่ เก้าทัพคงแนะนำให้รู้จักกันทีหลัง เพราะเงินที่เอามาซื้อกิจการของเติมต้องการ ทั้งผับ ทั้งร้านกาแฟและสปา กว่าครึ่งเป็นเงินของกันต์ด้วย ยังไงก็ต้องรู้จักกันหมดอยู่ดี ถึงตอนนั้น กลุ่มชายโฉดของพวกเข้าคงใหญ่ขึ้น "เฮ้ย พวกเอ็งนัดกันไม่รอข้า แล้วว่าแต่ไปทำอะไรกันวะ ระดับอย่างพวกเอ็งสามคนรวมตัวกัน ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ" มันบอกติดจะขำๆ เพราะว่าเป็นคนแนะนำให้ศรัณย์รู้จักกับน่านฟ้าและปฐพีเอง ตอนแนะนำยังบอกหน้าตาเฉยว่าคุณชายอย่างศรัณย์ควรรู้จักกับเพื่อนสายดาร์กน่านฟ้าและปฐพีไว้บ้างชีวิตจะได้เจอเรื่องโลดโผนและตื่นเต้น "นัดเจอกันปรกติเว้ย ไม่ได้สุมหัวกันก่อการร้าย" ปฐพีเอ่ยแทรก "เหรอวะ บอกตรงๆ เห็นพวกเอ็งทีไร รู้สึกเลยว่ามีเรื่องไม่น่าไว้ใจเกิดขึ้นแน่" สามหนุ่มรวมทั้งอีกคนที่อยู่อีกซีกโลกฮาครืน พวกเขาวีรกรรมน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ "ตอนนี้ไอ้พวกนี้กำลังจะวางมือเเล้วว่ะ เอ็งเห็นเสือสิ้นลายสองตัวไหมวะ" ศรัณย์ล้อเลียนเพื่อน "เออ ข้าว่ามันสิ้นตั้งแต่พยายามขายบาร์โฮสต์ให้ข้าถูกๆ เพราะเมียไม่ปลื้มแล้วว่ะ" เก้าทัพล้อ "ไอ้แซมกำลังจะเป็นตัวที่สาม" น่านฟ้าเอ่ยขึ้นมา "เฮ้ย อะไรวะ ข้าตกข่าวอะไรไป" "อย่าไปเชื่อมันเว้ยไอ้เก้า ข้าไม่มีวันเป็นเสือสิ้นลายตัวที่สามแน่นอน" ศรัณย์เถียงเพื่อนอย่างแน่นหนัก... ไอ้พวกนี้ดูมั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่าเขาจะหลงรักปิ่นโตตัวเอง แต่เขากลับคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีวันเป็นไปได้เเน่นอน เพราะเขาเป็นเจ้าของหัวใจตัวเอง เขาย่อมรู้ดีว่าตอนนี้ เขารักใครอยู่เต็มหัวใจ รักมากจนไม่คิดว่าจะมีใครมาเเทนที่ได้...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD