บทที่2
จำได้หรือเปล่า
บริษัทA
สุดท้ายเธอก็ต้องเดินทางมาส่งดอกไม้ด้วยตัวเองแถมยังต้องประคองดอกไม้พร้อมขับรถจักรยานไฟฟ้ามาส่งให้บริษัทที่อยู่ไม่ไกลจากร้านดอกไม้ของเธอ มาถึงเธอก็รีบโทรหาผู้จัดการแต่ทางฝ่ายผู้จัดการแจ้งให้เธอนำช่อดอกไม้ขึ้นมาส่งที่ชั้น 40 เพราะเป็นชั้นจัดงานต้อนรับผู้บริหารคนใหม่เธอจึงกดลิฟต์ไปยังชั้น 40 แล้วขอพรภาวนาให้ทุกอย่างราบรื่นไปได้ด้วยดี
มาถึงชั้น 40 ภายในงานไม่มีอะไรมากเหมือนจะเป็นแค่การกล่าวเปิดพิธี มีนักข่าวนั่งรอภายในงานส่วนดอกไม้ก็เป็นดอกไม้จากทีมออแกไนซ์ที่มาจัดไว้อย่างเรียบหรูช่างเข้ากับดอกทานตะวันที่เธอนำมาเหลือเกิน
"น้องเหมยลี่ทางนี้ครับ" ผู้จัดการของบริษัทโบกมือทักทายเธอจึงรีบเดินไปหาพร้อมยกมือไหว้ทำความเคารพ
"สวัสดีค่ะพี่อาร์ม"
"มาทันเวลาพอดีเลยอีกครึ่งชั่วโมงท่านประธานจะมาแล้วว่าแต่น้องเหมยลี่เถอะทำไมวันนี้มาสายคนส่งไม่อยู่เหรอ"
"ปกติหนูก็มาส่งนี่แหละค่ะแต่พอดีว่าเจ้านายไม่อยู่ร้านหนูเลยต้องมาส่งเองเมื่อเช้าโทรตาม grab แล้วแต่ไม่เห็นมาเลยต้องรีบมารีบกลับค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นน้องเหมยลี่รีบกลับไปเฝ้าร้านเถอะครับ ขอบคุณมากที่อุตส่าห์มาส่งให้ถึงที่เลยส่วนนี่ค่าดอกไม้กับค่าขนมนะครับพี่ให้เป็นรางวัล"
"ขอบคุณมากเลยค่ะพี่อาร์มไว้ใช้บริการเหมยลี่ใหม่นะคะ"
เมื่อเธอทำหน้าที่ของเธอเสร็จแล้วเธอก็เดินลงลิฟต์มาชั้นล่างเพียงแค่ประตูลิฟต์เปิดสองขาก็ก้าวเดินออกมาโดยไม่สนใจเลยว่าชายหนุ่มใส่สูทที่ยืนอยู่จะเป็นใครเธอเดินฮัมเพลงออกมาคร่อมรถจักรยานไฟฟ้าที่จอดอยู่หน้าบริษัทแถมยังจอดเทียบเคียงคู่กับรถสปอร์ตหรูคันสีเหลืองราคาหลายสิบล้านเสียด้วย
อีกด้าน
อัสนีมองตามแผ่นหลังของสาวแก้มกลมจนเห็นเธอเดินไปคร่อมรถจักรยานไฟฟ้าก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็วเขาเดินล้วงกระเป๋ากลับเข้ามาในลิฟต์เพื่อเดินทางไปห้องจัดงานชั้น40 มาถึงเขาก็พบกับเหล่าหัวหน้างานของแต่ละแผนกที่ขึ้นมาต้อนรับมากมายรวมถึงนักข่าวหลายสำนัก
"สวัสดีครับคุณอัสนี"
"คุณอาร์มใช่ไหม?" เขาถามขณะที่สายตากวาดมองพนักงานคนอื่นๆ ที่ลุกขึ้นยืนเพื่อต้อนรับการมาของเขาในวันนี้
"ใช่ครับผมอาร์มเป็นผู้จัดการของที่นี่ครับ"
"เสร็จงานเลี้ยงแล้วไปพบผมที่ห้องทำงานด้วยผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ"
"ได้ทำคุณอัสนี"
เมื่อถึงเวลามอบดอกไม้อัสนีมองช่อดอกไม้ในมือเขาเห็นป้ายร้านซึ่งเขาจำได้ว่าเขาเห็นร้านนี้เมื่อเช้าตอนเดินทางมาที่นี่และเป็นป้ายร้านเดียวกันกับช่อดอกไม้เมื่อคืนนี้ที่ถูกเขาทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี
"ร้านดังหรือไงกันได้มาสองวันติดแล้ว"
กลับมาถึงห้องทำงานผู้จัดการก็รีบเดินตามเข้ามาเพื่อคุยธุระสำคัญกับผู้บริหารคนใหม่ อัสนีต้องการทราบรายได้ย้อนหลังรวมถึงรายจ่ายย้อนหลังทุกอย่างเพราะเขาต้องการเปลี่ยนแปลงระบบหรือเรียกได้ว่าอาจจะต้องมีพนักงานบางส่วนย้ายออกไปอยู่สาขาอื่นหรือไม่ก็เลิกจ้างเพื่อลดปริมาณพนักงานที่เกินความจำเป็น
"เรื่องนั้นคุณอัสนีไม่ต้องห่วงครับผมจะรวบรวมรายได้และแผนผังการทำงานของแต่ละแผนกมาส่งภายในวันพรุ่งนี้สวนดอกไม้ให้ผมตามแม่บ้านมาจัดใส่แจกันไหมครับ"
"ไม่เป็นไรปล่อยเอาไว้ตรงนั้นแหละ"
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณอัสนี"
เขาพยักหน้าสองมือล้วงกระเป๋าสายตามองไปยังช่อดอกทานตะวันช่อใหญ่จนกระทั่งอัสนีเดินมามองบรรยากาศของกรุงเทพฯ ผ่านกระจกใสแต่สายตาของเขาแต่มองไปเห็นร้านดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลเขาเพ่งสายตามองเห็นพนักงานกำลังเดินเข้าเดินออกย้ายตรงนั้นมาวางตรงนี้ไม่รู้เขาใช้เวลายืนดูเธอไปนานเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แม่ของเขาโทรมาหาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการทำงานวันแรก
การสนทนา
"ครับแม่"
(อัสนีเป็นยังไงบ้างลูกทำงานวันแรกเหนื่อยไหม)
"แม่ทำอย่างกับว่าผมอยู่เมืองนอกผมไม่ได้ทำงานอย่างนั้นแหละ อีกอย่างผมยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยยังเดินตรวจไม่ครบทุกแผนกเลยด้วยซ้ำ"
(แม่รู้แล้วแม่ขอโทษคือแบบนี้นะอัสนีเย็นวันนี้หนูแก้วตาจะมาทานข้าวกับเราแม่อยากให้เรารีบกลับบ้านจะได้ทานข้าวพร้อมกันลูก)
"แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบแก้วตาทำไมถึงได้ยัดเยียดให้ผมนัก"
(อัสนีแม่ก็อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตดีๆ สักทีแม่เป็นห่วงเรามากนะจนป่านนี้ยังไม่คิดมีใครเลย)
"ผมยังไม่พร้อมครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอวางนะครับผมจะทำงาน"
จบการสนทนา
เมื่ออัสนีหันมามองร้านดอกไม้อีกครั้งก็พบว่าเธอปิดร้านไปแล้วเขาจึงมองเวลาที่ข้อมือนี่ก็ยังไม่ถึงเวลา 5 โมงเย็นเลยทำไมถึงได้ปิดร้านไวแบบนี้ เขาไม่รอช้ารีบเดินตรงออกมาจากห้องทำงานเหล่าพนักงานที่ยืนอยู่รีบหยุดแล้วยกมือไหว้ให้เขาเดินเข้าลิฟต์ไปเพียงลำพัง
อัสนีขับรถมาจอดอยู่หน้าร้านดอกไม้เขามองเข้าไปด้านในตอนนี้ร้านดอกไม้ปิดสนิทด้านในไม่มีคนอยู่พอนึกขึ้นได้เขาก็หัวเราะให้กับตัวเองเป็นบ้าไปหรือเปล่าจู่ๆ ก็มาร้อนเป็นฟืนเป็นไฟทำอย่างกับว่าผู้หญิงคนนั้นคือดวงใจของเขาที่หายไป
บรื้นนน!
เอี๊ยดดดดด!!!!
เมื่อรถสปอร์ตออกตัวมาได้ไม่ไกลเขาก็ต้องเบรกกะทันหันเมื่อจู่ๆ ก็มีรถจักรยานไฟฟ้าขับโผล่พ้นออกมาจากปากซอยที่สำคัญคู่กรณีของเขาดูท่าจะบาดเจ็บหนักเสียด้วย อัสนีรีบลงจากรถเพื่อไปดูคนบาดเจ็บพอเห็นว่าเป็นผู้หญิงที่อยู่ในร้านดอกไม้เขาก็ขออาสาพาเธอมาโรงพยาบาลเพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างแม้เธอจะปฏิเสธแต่เขาก็ขอรับผิดชอบถือเสียว่าเป็นการไถ่โทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"เจ็บมากไหม" อัสนีรีบถามเมื่อเหมยลี่ถูกบุรุษพยาบาลพานั่งรถเข็นวิลแชร์ออกมา
"เจ็บสิคะ หนูต้องขอโทษคุณด้วยพอดีว่าหนูไม่เห็นรถของคุณจริงๆ"
"ไม่เป็นไรผมเองก็ขอโทษด้วยผมไม่ควรขับรถเร็วดีที่เบรกทันไม่งั้นคุณคงไม่ได้มานั่งคุยกับผมตรงนี้หรอก ว่าแต่บ้านคุณอยู่ที่ไหนเดี๋ยวผมไปส่ง"
"อยู่ไม่ไกลจากที่นี่หรอกค่ะ หนูรบกวนคุณช่วยแวะร้านกับข้าวถัดจากโรงพยาบาลให้หนูหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้สิเดี๋ยวผมแวะให้"
อัสนีพาเธอนั่งรถออกมาจนถึงน้ำข้าวแกงที่เธอบอกเขาอาสาลงไปซื้อกับข้าวมาให้เธอเองวันนี้เขาเอาต้มพะโล้กับต้มแซ่บกระดูกหมูและข้าวสวยร้อนๆ เมื่อได้ทุกอย่างมาแล้วเขาก็รีบขับรถพาเธอมาส่งที่บ้านแต่ด้วยสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้คงจะเดินเข้าไปลำบากเขาจึงช่วยพยุงเธอเข้าไปส่งในบ้าน
"ขอบคุณมากนะคะคุณคงเสียเวลากับหนูแย่เลย"
"ไม่หรอก ว่าแต่พ่อแม่ไปไหนทำไมบ้านดูเหมือนไม่มีคนอยู่เลย"
"พ่อกับแม่หนูเสียไปแล้วค่ะ นั่นรูปพ่อกับแม่ของหนูมีรูปหนูตอนเด็กๆ ด้วยนะคะอ้วนๆ ชูสองนิ้วนั่นไงคะ"
ขวับ!!
------------------------------
จะจำได้ไหมจะจำได้หรือเปล่า