บทที่1
หนูเหมยลี่
ประเทศไทย
ร้านดอกไม้
เสียงฮัมเพลงอินดี้ดังมาจากด้านหลังพนักงานสาวคนสวยกำลังจัดดอกไม้ให้ลูกค้าหนุ่มที่กำลังวางแผนเซอร์ไพรส์ขอแฟนสาวแต่งงานวันนี้เธอจัดเป็นดอกกุหลาบขาวแซมด้วยสีชมพูเล็กน้อยเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็นำมาส่งให้ลูกค้าเธอทำงานอยู่ร้านดอกไม้มาได้ 3 ปีแล้วหลังจากเรียนจบเธอก็อยากมีร้านดอกไม้เป็นของตัวเองแต่เสียอย่างเดียวครอบครัวเธอไม่มีเงินมากพอที่จะเปิดร้านดอกไม้ได้ ทำให้เธอต้องยอมมาเป็นลูกจ้างให้กับร้านดอกไม้ของรุ่นพี่ที่เธอรู้จัก
"เหมยลี่วันนี้พี่ฝากร้านด้วยนะพอดีว่าแฟนพี่จะพาไปเที่ยวต่างจังหวัดสัก 2-3 วัน"
"ค่ะพี่ออย ไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวทางนี้เหมยลี่จัดการให้ค่ะ"
"งั้นพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวจะซื้อของมาฝากบ๊ายบายจ้ะ"
หลังจากที่โบกมือลาเจ้านายแล้วเธอก็หมุนตัวกลับมาจัดดอกไม้ใส่แจกันตกแต่งร้านเหมือนเดิมเธอจดความรู้ทุกอย่างลงในสมุดแถมเธอยังบอกกับเจ้าของร้านตรงๆ ว่าความฝันของเธอคืออยากเปิดร้านดอกไม้แต่เธอไม่มีทุนมากพอที่จะลงทุนเปิดร้านจึงต้องมาทำงานเป็นลูกจ้างร้านดอกไม้ไปก่อน ซึ่งเจ้าของร้านก็เข้าใจและก็ให้กำลังใจพร้อมให้ความรู้เธออย่างเต็มที่
"สวัสดีค่ะสั่งดอกไม้หน่อยค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณลูกค้าสนใจดอกไม้แบบไหนคะใช้ในงานอะไรหากเลือกไม่ได้เหมยลี่แนะนำให้ได้นะคะ" เธอรีบหันไปยกมือไหว้พร้อมแนะนำดอกไม้แต่ละชนิดให้ลูกค้าคนสวยได้ฟัง
"พอดีว่าฉันอยากซื้อดอกไม้ไปเซอร์ไพรส์แฟนค่ะ แฟนฉันจะกลับมาจากต่างประเทศในวันนี้น่าจะมาถึงช่วงค่ำๆ"
"ว่าแต่แฟนของคุณลูกค้าเป็นคนแบบไหนคะ"
"เป็นคนนิ่งๆ พูดน้อยเป็นคนที่ยิ้มยากมากด้วยค่ะแต่ไม่ใช่หนุ่มเนิร์ดนะคะ เขาเป็นพวก introved บ้างานด้วยค่ะ"
"เป็นดอกทานตะวันดีไหมคะที่ร้านมีดอกทานตะวันดอกเล็กกับดอกใหญ่สามารถจัดเช่ารวมกันได้คุณลูกค้าสนใจไหมคะ"
"ก็ดีค่ะแฟนฉันชอบสีเหลืองด้วยรถหรูของเขาที่เพิ่งออกมาใหม่ก็เป็นสีเหลืองถ้าอย่างนั้นรบกวนด้วยนะคะ"
"คุณลูกค้านั่งรอได้เลยค่ะขอเวลาเหมยลี่สักครู่^^"
เหมยลี่หันกลับไปสนใจงานของตัวเองต่อส่วนลูกค้าคนสวยก็ยังคงนั่งเซลฟี่ถ่ายรูปอัปลงโซเชียลจนสุดท้ายเวลาผ่านไปประมาณ 25 นาทีเหมยลี่ก็นำดอกไม้มาให้ลูกค้าได้ดูว่าประมาณนี้เธอชอบไหมซึ่งเธอชอบมากเพราะเหมยลี่จัดดอกไม้ได้สวยและเก่งคุ้มค่ากับเวลาที่รอเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็เดินกลับมานำเงินเก็บใส่ลิ้นชักพร้อมลงบัญชีเอาไว้ให้เจ้านายทราบ
หลังจากเลิกงานเธอก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อกับข้าวสำเร็จกลับเข้าบ้านเรื่องราวของเธอมันไม่ได้สวยหรูเหมือนกับรอยยิ้มที่หลายคนได้เห็นเธอเสียแม่ไปตั้งแต่เด็กต้องอยู่กับพ่อแต่พ่อก็ดันมาเสียหลังจากที่เธอเรียนจบได้ 1 ปีทำให้เธอต้องอยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง
ครืดดดด
เสียงโทรศัพท์สั่นบนหัวเตียงในตอนกลางดึกเหมยลี่ใช้มือควานหาจนคว้าโทรศัพท์มารับสายแล้วแนบไปที่ใบหูเธอรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงียแต่เมื่อปลายสายตะโกนมาบอกข่าวดีว่าศิลปินซีรี่ส์จีนที่เธอชอบเดินทางมาถึงสนามบินในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า FC ตัวแม่ตัวมัมมีหรือจะทนอยู่เฉยได้เธอรีบลุกพรวดแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วนั่งแท็กซี่ตรงมายังสนามบินเพื่อมาหาเพื่อนสาวของเธอ
"เหมยๆๆ ฉันอยู่ตรงนี้!!" ลิ้นจี่ตะโกนเรียกเหมยลี่จนเธอโบกมือกลับแล้ววิ่งไปหาด้วยความเร็ว
"แกท่านสัจจเทพฉันจะมาหรือยังฉันมาทันใช่ไหม"
"ตอนนี้น่าจะกำลังรอเดินเข้ามานั่นไงๆ มาโน่นแล้ว“
ศิลปินดาราจีนเดินเข้ามาพร้อมโบกไม้โบกมือให้แฟนคลับแต่สายตาของเหมยลี่ดันมองทะลุไปด้านหลังชายหนุ่มรูปงามเดินหน้านิ่งลากกระเป๋าเดินทางของตนเองมาทางเดียวกันเขาไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องของเราแฟนคลับดาราที่ดังกึกก้องไปทั้งสนามบินเลยแม้แต่น้อย
"หล่อมาก..." ที่ว่าหล่อคือเขาไม่ใช่สัจจเทพของเธอเลย เธอมองจนเขาเดินผ่านหน้าเธอไปกลิ่นน้ำหอมผู้ดี๊ผู้ดียังคงติดจมูกเธอไม่หาย
"อัสนีคะ!!"
เสียงที่คุ้นหูทำให้เหมยลี่หันไปมองและก็เป็นอย่างที่เธอคิดเจ้าของเสียงน่ารักนี้เป็นเสียงของลูกค้าที่มาสั่งดอกทานตะวันไปเมื่อช่วงบ่ายที่แท้ผู้ชายคนนั้นก็เป็นแฟนของลูกค้าเธอนั่นเองเธอจึงหันกลับมาสนใจดาราจีนคนโปรดของเธอต่อ
"หล่อมากแกเอ๊ยทำยังไงฉันถึงจะได้มีผัวแบบท่านสัจจเทพนะ ฉันจะยอมโดนอสนีบาตเลยฮ่าๆๆ"
"แกนี่มันจริงๆ เลยลิ้นจี่ฉันคงไม่ตามไปส่งเขาที่โรงแรมหรอกนะว่าจะกลับไปนอนต่อแล้ว ว่าแต่ทำไมจู่ๆ คุณสามีฉันถึงได้มาประเทศไทยด่วนกะทันหันแบบนี้ล่ะ"
"น่าจะปิดกล้องแล้วมาเลยมั้งฉันก็ไม่รู้เพราะไม่มีในตารางงานฉันคิดว่าน่าจะมาพักผ่อนก่อนเปิดตัวซีรีส์เรื่องใหม่น่ะ"
ทั้งสองเดินคุยกันจนถึงด้านนอกเหมยลี่หันไปเห็นลูกค้าคนสวยของเธอเดินขึ้นรถของตนเองไปแต่ไม่เห็นแฟนหนุ่มของเขาเลยเธอจึงขอตัวเอาแก้วน้ำของเธอไปทิ้งถังขยะแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อในถังขยะมีดอกทานตะวันที่เธอตั้งใจจัดช่ออย่างสวยงามนอนแอ้งแม้งอยู่
"ทำไมเอาดอกไม้มาทิ้งแบบนี้ล่ะ" เธอมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครจึงหยิบช่อดอกทานตะวันที่เธอตั้งใจจัดมันขึ้นมาปัดเศษขยะออกแล้วยัดใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่ของเธอก่อนจะขอตัวแยกย้ายกับลิ้นจี่เพื่อกลับบ้านมาพักผ่อน
กลับมาถึงบ้านเธอก็วางช่อดอกทานตะวันลงบนโต๊ะพร้อมนั่งถอนหายใจอยู่หลายครั้งหรือว่าความรักของลูกค้าของเธอจะไม่สมหวังถึงได้นำช่อดอกไม้มาทิ้งแบบนี้ สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเก็บช่อดอกไม้นี้ไว้โดยปักมันใส่แจกันทั้งช่อนี่แหละอย่างน้อยก็เป็นช่อดอกไม้ดอกแรกที่เธอทำงานตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เธอได้นำกลับมาบ้าน
วันต่อมา
เหมยลี่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาเปิดร้านดอกไม้ ที่ร้านมีทั้งดอกไม้จริงและดอกไม้ปลอมราคาเริ่มต้นที่หลักสิบถึงหลักหมื่น อากาศวันนี้ค่อนข้างสดใสเด็กน่ารักสดใสแบบเธอกลายเป็นที่สนใจของผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาใครผ่านมาทางนี้ก็ต่างหันมามองความน่ารักของเธอที่ยืนยิ้มร้องเพลงเวลาจัดดอกไม้อยู่ในร้านแม้แต่รถสปอร์ตคันสีเหลืองที่จอดติดไฟแดงอยู่เขายังหันมามองเธอผ่านแว่นสีดำนิ้วชี้เคาะพวงมาลัยเบาๆ จนสัญญาณไฟแดงหายไปรถสปอร์ตหรูก็เคลื่อนตัวออกจากหน้าร้านเธอด้วยความเร็ว
บรื้นนนน!!!!!
เสียงท่อรถสปอร์ตดังพอที่จะทำให้คนตัวเล็กอย่างเหมยลี่เงยหน้าขึ้นมามองเธอไม่ทันได้เห็นรถสปอร์ตหรูคันนั้นเพราะเจ้าของรถขับออกไปด้วยความเร็ว
"จะรีบไปตายหรือไง-_-!"
หลังจากที่บ่นเสียงรถสปอร์ตคันนั้นแล้วเธอก็หันกลับมาทำงานของเธอต่อวันนี้มีรายการจัดดอกไม้ไปส่งให้กับบริษัทเอกชนซึ่งเธอจำได้ดีว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทเก่าแก่ที่พ่อของเธอเคยทำงานอยู่และเธอก็ไม่ได้ไปที่นั่นมาหลายปีแล้ว
ตรีมงานวันนี้จะเป็นสีเหลืองสีขาวเป็นการต้อนรับผู้บริหารคนใหม่ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใครรู้เพียงแต่ว่าดอกไม้สีเหลืองกับสีขาวเธอต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเราจึงเลือกใช้ดอกทานตะวันดอกเล็กและดอกใหญ่สลับกันและแซมด้วยดอกเดซีสีขาวไม่รู้ทำไมสองวันมานี้เธอถึงได้เลือกใช้แต่ดอกทานตะวันหรือมันเป็นความรู้สึกความชอบส่วนตัวเธอพยายามมองหาดอกทิวลิปและดอกลิลลี่แล้วแต่มันกลับไม่สดใสเหมือนดอกทานตะวัน ระหว่างที่เธอจะชอบเธอก็ถ่ายรูปตัวอย่างส่งให้ลูกค้าซึ่งลูกค้าก็ชอบดอกทานตะวันเหมือนกับเธอแล้วบอกว่าดอกทานตะวันเป็นดอกที่ท่านประทานชอบมากเธอจึงไม่ติดใจอะไรดีจัดช่อให้สวยงามแล้วรอคนส่งมารับช่อดอกไม้นี้ไป
"ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีกอย่าบอกนะว่าฉันต้องไปเอง"
_________________________
จะรีบไปตายหรือไงฮ่าาาา ขอสัก20คอมเมนต์ได้ไหมคะ ไรท์จะปิดเรื่องอาจารย์มารุตแล้วจะเปิดเรื่องคุณหมอต่อ มีใครรออยู่ไหมเอ่ยยย