มาถึงร้านอาหารไอ้ยักษ์ก็นั่งรออยู่แถมหน้ามันน่ะมีรอยช้ำอีกแล้ว ไอ้ยักษ์กับเขานิสัยคล้ายกันตรงที่ใจร้อนมาก เอะอะมือเท้าไปก่อนเหตุผลเสมอจนกล้าเรียกได้ว่าเปิดก่อนถามทีหลัง
“นี่กูตาฝาดปะเนี่ยมึงพาเมียมา?” ร้อยวันพันปีไม่เคยจะพามาได้เลย แล้วนี่มันเกิดอไรขึ้นวะเนี่ย
“พี่ยักษ์สวัสดีค่ะ แล้วคนอื่นละคะ?” ผู้ชายกลุ่มนี้หน้าตาดีทุกคนแต่นิสัยก็คล้ายกันจนน่าเอือมระอาในบางครั้ง แต่คนนิสัยดีๆก็มีแต่ที่แน่ๆไม่ใช่ผู้ชายสองคนนี้หรอก
“เดี๋ยวก็มา เออไอ้ไมเรื่องบ้านมึงน่ะไม่คิดจะกลับเลยรึไง?”
“เอ้า! มึงกลัวผีเหรอถึงอยู่คนเดียวไม่ได้?”
“กูแค่ถามปะ?”
“กูอยู่กับเมียที่โรงแรมไม่ว่างไปค้างวะ ถ้ามึงว่างก็ไปดูแลจัดการห้องว่างอีกห้องให้หน่อยนะ เดี๋ยวอีกประมาณสองเดือนมั้งน้องกูจะมาอยู่ด้วย ตอนนั้นกูก็น่าจะกลับไปอยู่บ้าน”
“น้องสาวเหรอ?” เธอหมายถึงคนที่เขาโทรคุยทุกวันนานเป็นชั่วโมงแล้วอารมณ์ดีเสมอที่ได้คุย
“ใช่ที่รัก ก็พี่โทรคุยทุกวันเคยได้ยินอยู่ไม่ใช่เหรอ หรือคิดว่าพี่มีกิ๊กห่ะ?”
“ก็ไม่เคยเห็นนี่เลยสงสัยไง” ที่ผ่านมาเธอคิดมากเองแล้วพึ่งจะได้สติว่าถ้าผัวมีกิ๊กคงจะไม่คุยเสียงดังขนาดนั้นหรอก
“เดี๋ยวก็มาแล้วได้รู้จักแน่ บอกเลยนะว่าพี่โคตรหวงเลย”
“แล้วฉันละ?”
“หวงหมดแหละทั้งเมียทั้งน้อง”
“เดี๋ยวน้องสาวมาฉันก็กลายเป็นหมาหัวเน่าแล้วมั้ง!” เธอไม่ได้น้อยใจอะไรเลยแต่พี่ไมโลมองกันเพียงแค่เเป๊ปเดียวก็หันหน้าหนีเลย ใช่…เธอไม่ควรพูดแบบนี้เลย! นั่นน้องสาวนะไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่นที่เธอจะต้องระแวงได้
“พูดอะไรคิดบ้างนะเดียร์” สั้นๆนะถ้าให้เลือกระหว่างเมียกับน้องสาวแน่นอนว่าเขาเลือกน้องสาวอยู่แล้ว แต่ว่าน้องสาวไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่าหรือหวงพี่ชายเลยสักนิด
เขารู้สึกว่าเธอกำลังกดดันให้เราเลิกกัน
“ก็แค่พูดเล่นจะอะไรนักหนาห่ะ?”
“แค่พูดเล่น หึ!”
“เอ๊ะ! พี่ไม…”
“จะทะเลาะกันโชว์เพื่อนรึไงวะ เรื่องในบ้านค่อยเคลียร์กันทีหลังดิ ตอนนี้หิวจะกินข้าวโอเคไหมวะ?” ยักษ์พูดแทรกพร้อมจ้องหน้าเพื่อนให้มันใจเย็นๆก่อน ความจริงเรื่องแค่นี้แม่งโคตรปัญญาอ่อนเลยนะ แล้วไอ้ไมโลมันก็เป็นคนพูดตรงๆไร้ความหวานมานานแล้วเดียร์น่าจะรู้และชินได้แล้ว
ไททันเดินมาพร้อมกับปืนและเมย์ที่มาหลังสุดพอดีกับอาหารกลางวันยกมาเสิร์ฟพอดี เขานั่งคุยกับเพื่อนตามปรกติแต่ก็แอบมองเมียที่เล่นโทรศัพท์ท่าทางมีความสุขจนน่าสงสัยว่าคุยกับใครนักหนาถึงไม่สนใจกันเลยสักนิดเดียว
ความจริงมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ในรถแล้วนะ
หรือจะเป็นไอ้เวรนั่น
“เป็นอะไรวะหง่อยๆ?” ปืนถามเพื่อนไปตรงๆ เพราะมันดูเหมือนจะไม่สนุกเท่าไรกับมุกกากๆที่เล่นกันประจำ
“เปล่าวะ กูแค่…” เขากำลังจะตอบแต่เมียเงยหน้ามายิ้มหวานให้ เขาเงียบลงเพื่อรอฟังว่าเธอจะพูดอะไร
“พี่ไมเดี๋ยวฉันมานะไปเข้าห้องน้ำแป๊ปหนึ่ง” เธอยิ้มกว้างให้เขาแล้วรีบลุกออกไปทันที
“อะไรของเมียมึงวะ ข้าวปลาไม่แดกเล่นแต่โทรศัพท์อย่างเดียว” ไททันถามเบาๆปนหัวเราะแต่ถูกเมย์หยิกแขนจนต้องหยุด สายตาไอ้ไมโลมองตามเมียตลอดก่อนจะถอนหายใจ
“เดี๋ยวกูมานะ กูคิดว่าจะคุยกับเมียนิดหน่อย” เขากำลังจะลุกแต่ไอ้ยักษ์มันจับแขนรั้งเอาไว้ก่อน
“ใจเย็นๆดิมึง บางทีอาจจะไม่มีอะไรแล้วก็ได้” ยักษ์บอกอย่างเหนื่อยใจแล้วแค่นหัวเราะออกมา บังเอิญว่าโลกกลมเกินไปถึงได้เจอไอ้เหี้ยเวย์อยู่ที่นี่ตอนนี้
“ไอ้เวย์มาวะมึง มันไม่กลัวเจ้าหนี้ตามกระทืบแล้วเหรอวะ?” ไททันถามติดตลกทั้งที่ไม่ตลกเลยสักนิด เมื่อวานยังสงสัยอยู่เลยว่ามันไปมุดหัวอยู่ไหนแล้ววันนี้จู่ๆก็โผล่หัวมา แม่งจะบังเอิญเกินไปรึเปล่าวะ
“บางทีอาจจะเป็นกูที่กระทืบมันก่อนคนอื่นก็ได้ไอ้สัตว์!” ไอ้คนเหี้ยอย่างมันไม่มีทางหรอกที่จะเจอกันแบบบังเอิญ
“เห้ย! มึงใจเย็นก่อนไอ้เวร นี่มันกลางห้างเดี๋ยวพ่อมึงโทรมาด่าอีกหรอก”
“งั้นกูไปหาเมียก่อนพวกมึงดูมันไว้ให้ดีแล้วกัน!” ไอ้เวย์มันยิ้มมุมปากได้โคตรกวนส้นตีน แล้วยังจ้องหน้าแบบหาเรื่องอีกด้วย นี่มันตัดผมทรงกุมารทองไงวะ! เขาส่ายหน้าเล็กน้อยเพราะไม่อยากจะมีเรื่องทั้งที่เอาเมียมาด้วยไม่งั้นแย่แน่
ไอ้เวย์มันเป็นพวกหมาลอบกัดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ปัญหาระหว่งเขากับมันสักวันก็ต้องจบลงแต่จะเป็นแบบไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เขาจะไม่ยอมให้มันยุ่งกับเมียเด็ดขาดและทุกอย่างต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่น้องสาวจะมาอยู่ด้วย
เขาเป็นห่วงเมียมาก
แต่เขาเป็นห่วงน้องสาวมากกว่า
เขาเดินออกไปตามเมียที่ไม่รู้ว่าเข้าห้องน้ำที่ไหนถึงนานขนาดนี้ แต่ในระหว่างที่คิดอะไรอยู่เกี่ยวกับปัญหาที่รุมเร้า มันบังเอิญว่าสายตาดีมากพอจะเห็นผู้หญิงคล้ายเมียกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับใครบางคนในร้านกาแฟคนละฝั่งกับร้านอาหารและห่างจากห้องน้ำด้วยแน่นอนว่าเดินไปหาทันที
อยู่กับเขามันอึดอัดขนาดกินข้าวไม่ได้เลยเหรอ
เขาเจ็บมากแต่ทนเอาไว้ก่อน
เธอดื่มกาแฟลาเต้ปั่นกับขนมเค้กชิ้นเล็กๆ พร้อมคุยโทรศัพท์กับกันถึงเรื่องเมื่อคืนที่คุยค้างไว้ เธอขอโทษแทนพี่ไมที่ทำให้เจ็บหนักขนาดนั้น แล้วเราก็เคลียร์ในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะการพยายามของกันที่จะเข้ามาเป็นมือที่สาม เธอบอกชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไรและไม่มีวันจะนอกใจพี่ไมเด็ดขาด สุดท้ายเราเลยตกลงเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น
เธอมีแฟนแล้วถึงดูน่าเบื่อแล้วก็เถอะ!
นี่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเบื่อพี่ไมโลตั้งแต่เมื่อไร?
“ค็อกเทลเมื่อคืนดีนะฉันชอบอะ นายละ?”
(อยากเมาอีกวะ อยากดื่มกับเธอด้วยแต่อย่าให้ผัวรู้ละ แม่งมือหนักฉิบหาย เล่นฉันซะจนหัวแตกเลยนะเว้ย)
“กลัวเหรอ?”
(ถ้าได้ดื่มกับเดียร์ก็ไม่กลัวหรอก เราเป็นเพื่ิอนกันนี่)
“คุยกับนายนี่สนุกดีนะ ถ้าคุยทุกวันได้คงดี”
(ก็โทรมาดิว่างเสมอแหละถ้าเป็นเดียร์)
“เดี๋ยวก็มีปัญหาตามมาหรอก จบแค่นี้น่ะดีแล้ว”
ถามสิว่าเขาเจ็บไหมที่มาได้ยินเมียคุยกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ เขาไม่ได้ยินว่าคนในสายพูดอะไรแต่สายตาและท่าทางของเมียบอกหลายอย่าง แล้วคนในสายคงทำให้รู้สึกดีมากกว่าเขา
“ขอเวลาอีกคืนเถอะเดียร์” ขออย่าพึ่งเบื่อกันเลยนะ เขาแค่ยุ่งมากกับงานหนักมากจริงๆ แล้วคนแข็งกระด้างที่มีความรักให้หมดทั้งใจทุ่มเทได้ทั้งตัวทั้งเงินทองให้เธอคงจะสู้กับพวกปากหวานแต่ก้นเปรี้ยวได้ใช่ไหม
เขายังคงยืนแอบฟังเดียร์คุยโทรศัพท์อย่างมีความสุขและหัวเราะบ่อยๆแบบที่คนอย่างเขาไม่สามารถจะทำได้ แม่งเจ็บฉิบหายแต่ก็เสือกรักเกินกว่าจะยอมรับความจริงได้ ในที่สุดเขาก็ส่งข้อความหาเธอแล้วรีบเดินกลับร้านอาหารแล้วซ่อนความเจ็บปวดสาหัสภายใต้แว่นกันแดดสีชา
Milo : เข้าห้องน้ำนานไปแล้วนะรีบกลับมา
Milo : อย่าให้พี่ต้องไปตามเอง
Dear : อืม
คำตอบสั้นๆ ของเมียมันไม่ได้ทำอะไรเขาได้เลยถ้าไม่ติดว่าเมื่อกี้ไปได้ยินเธอคุยกับคนอื่นด้วยท่าทางอารมณ์ดีมากขนาดนั้น เขายังไม่อยากทะเลาะเรื่ิองมือที่สามถึงจะเริ่มมั่นใจแล้วว่ากำลังจะมี เขาเชื่อนะว่าเธอจะไม่ทำร้ายกันเพียงเพราะเหงาจนเอาคนอื่นเข้ามาแทนคนที่มันรักเธอหมดหัวใจ
แต่สมองบอกในสิ่งที่หัวใจไม่ยอมรับฟัง
เดียร์จะใจร้ายกับเขาแน่นอน