หากมีคนพูดว่า ‘ความรักเป็นสิ่งสวยงาม’ ก็คงไม่ผิด เพียงแต่วันนี้ความรู้สึกของคนเราเปลี่ยนไปได้เท่านั้นเอง ประทีปมองไปยังเมียรัก เวลานี้เธอควรจะอยู่ที่บ้านไม่ใช่หรือ เขามาเจอเธอในโรงแรมที่เขาเพิ่งจะจอดรถเพื่อส่งพลอยใสได้อย่างไรกัน
เขากระชากแขนเธอออกจากการโอบกอดของผู้ชายคนหนึ่ง ดูจากการแต่งตัวแล้วคงมีฐานะไม่ใช่น้อย
“นี่มันอะไรกันพิมพ์!”
พิมมาดามองหน้าผู้ชายที่เธออยู่ด้วยมาตลอดสิบปี เวลานี้เขาควรจะอยู่ที่ไหนสักแห่งสิ ไม่ใช่ที่ตรงนี้
“นี่มันอะไรหนูพิมพ์” อนุชินพ่อม่ายวัยห้าสิบปีถามอย่างตกใจ
“คุณอาไปรอที่ห้องก่อนนะคะ เดี๋ยวพิมพ์ตามไป” พิมมาดาบอกชายวัยคราวพ่อให้ไปรอที่ห้อง ก่อนจะหันมามองชายหนุ่มตรงหน้า
“ทีป เราเลิกกันเถอะนะ”
“อะไรนะพิมพ์!” ประทีปเข่าอ่อนแทบทรุด
“เราเลิกกันเถอะ ทีปดีเกินไป เราอยู่กับทีปแล้วบอกตรง ๆ ว่าเราไม่มีความสุข เอ่อ คือ...เอ่อ...คือ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าเราเข้ากันไม่ได้” พิมมาดาเม้มปาก เรื่องนี้เธอตัดสินใจมาสักพักแล้ว ประทีปดีทุกอย่าง แต่เธอต้องการผู้ชายที่ให้เธอได้มากกว่านี้ เขายังให้เธอไม่มากพอ
“พิมพ์ วันนี้เรายังคุยกันดี ๆ อยู่เลย เกิดอะไรขึ้น” ประทีปรู้สึกว่าตอนนี้เหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทลาย
“ลาก่อนนะทีป ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” ทุกอย่างจริง ๆ เขาส่งเธอเรียนต่อจนจบปริญญาโท ตอนนี้เธอเองกำลังเรียนในระดับปริญญาเอก กำลังจะเป็นดอกเตอร์ เป็นอาจารย์ที่มีคนนับหน้าถือตา แต่เขาเป็นเพียงขี้ข้ารองมือรองตีนของรองประธานบริษัท ถึงเงินเดือนเขาจะมากพอส่งเธอเรียน แต่มันก็ไม่มากพอให้เธอมีหน้ามีตาในสังคมมากกว่านี้
ผิดกับอนุชินพ่อม่ายวัยห้าสิบปีคนนั้น เขามีหน้าที่การงานที่ดี เป็นถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เธอทำงาน เธอสามารถฝากอนาคตของเธอไว้กับเขาได้
พิมมาดาเดินจากไป ทิ้งให้ประทีปยืนนิ่งอยู่กับที่ พลอยใสไม่ได้ยินว่าทั้งคู่พูดอะไรกัน แต่คิดว่าเรื่องราวคงไม่ดีเท่าไร เพราะสีหน้าของทั้งคู่เครียดมาก
“พี่ทีป มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คุณน้องพลอย ขอทีปอยู่กับคุณน้องพลอยได้ไหมครับ ทีปไม่มีที่ไปจริง ๆ”
พลอยใสไม่คิดว่าจะต้องมาโอบกอดผู้ชายตัวโตที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับอกเธอแบบนี้
‘ช่วงนี้ทำไมงานเข้ากูไม่หยุดวะ’ พลอยใสได้แต่บ่นกับตัวเอง จบจากเรื่องของเจนิตา ก็มาต่อเรื่องของรริดาเพื่อนของเธอ นี่ยังไม่ทันจบสิ้นก็มีเรื่องของประทีปอีก
ทั้งสองเปิดโรงแรมที่ห่างออกไปอีกหลายกิโลเมตร คนอกหักกินเหล้าไปด้วยร้องไห้ฟูมฟายไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ประทีปไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับตัวเอง แต่สุดท้ายมันก็เกิดจนได้สินะ เขากับพิมมาดารักกันมาจะสิบปีแล้ว ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีสอง
“พี่ทีป อยากระบายอะไรก็ระบายออกมาให้หมดค่ะ ไม่ต้องเก็บไว้ พลอยยินดีรับฟัง” พลอยใสนั่งดื่มเป็นเพื่อนประทีป เธอเองก็อดสงสารผู้ชายแสนดีคนนี้ไม่ได้ คนดีมักกลายเป็นเหยื่ออย่างที่ชวีพี่ชายของเธอบอกไว้
“คุณน้องพลอยครับ ทีปแค่ไม่เข้าใจว่าความรักของคนเราเปลี่ยนแปลงได้ภายในวันเดียวจริงเหรอครับ” ประทีปนั่งมองแก้วเหล้าในมือ
“ความรักคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงในวันเดียวหรอกค่ะ แต่บางอย่างบางเหตุการณ์เราสามารถตัดสินใจได้เลยในวันเดียว พลอยว่าพี่ทีปปล่อยใจให้สบายดีกว่าค่ะ”
พลอยใสกล่าวออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าการบอกให้คนที่เพิ่งอกหักมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงทำใจ เป็นเรื่องยากถึงยากมากที่สุด หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย เธอรู้เพราะเคยเป็นมาก่อนเมื่อนานมาแล้ว เธอรู้ว่ารักแรกลืมยากแค่ไหน
“ทีปไม่ดีตรงไหน ทำไมเขาต้องทิ้งทีปด้วย” ประทีปยังคงฟูมฟายไม่เลิก พลอยใสก็เข้าใจนะ คนเมา และยังเป็นคนเมาที่อกหัก พูดวนไปมาแต่เรื่องเดิม ๆ
“พี่ทีปคะ พี่ทีปเป็นคนดีค่ะ แต่เรารักใครไม่ได้เลือกจากความดีหรือความเลวนะคะ ความรักมันเลือกไม่ได้” พลอยใสถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้าพลางก้มมองนาฬิกา นี่จะตีสองแล้ว พ่อคุณก็ไม่ยอมเลิกดื่มสักที
“คุณน้องพลอย เบื่อทีปก็ไปนอนเถอะครับ ปล่อยทีปอยู่ตรงนี้แหละ คนอย่างทีป อยู่คนเดียวก็ดีแล้ว” คนเมานอกจากจะเมาแล้ว ยังขี้น้อยใจอีกต่างหาก
“พลอยไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นนะคะ คือตอนนี้ตีสองแล้ว พลอยง่วงแล้วน่ะค่ะ ขอพลอยนอนตรงโซฟานี้ได้ไหมคะ” พลอยใสง่วงจนจะนั่งไม่อยู่แล้ว ตอนนี้เธออยากนอน ส่วนพ่อคุณประทีปสุดประเสริฐนี่ก็ปล่อยให้เมาอยู่แถวนี้ไปก็แล้วกัน
พลอยใสเลื้อยตัวขึ้นไปนอนบนโซฟา คนตัวโตที่น้ำตายังไหลรินนั่งพิงหลังกับโซฟาที่เธอนอนลง
“คุณน้องพลอยปลอบทีปหน่อย” ประทีปขยับตัวเข้าไปใกล้เธออีก เขาอยากให้ใครก็ได้ช่วยกอดเขาหน่อย
พลอยใสตีพุงตัวเองอย่างเหนื่อยใจ คนอะไรทำตัวเป็นเด็ก เธอได้แต่ถอนหายใจ แต่ก็อดสงสารไม่ได้ ด้วยเพราะเข้าใจว่าความรักทำให้อะไรต่ออะไรหลายอย่างยากไปหมด
ประทีปแนบหน้าลงบนพุงหมาน้อยของพลอยใส พลอยใสลูบหลังเขาไปด้วย พร้อมกับหลับตาลงเพราะง่วงนอน คนนอนซบบนพุงเธอปล่อยน้ำตาไหลนองจนเปียกพุงเธอหมดแล้ว