~ อติกร ~
“อยู่นี่นี่เอง ลูกชาย” ปู่ของผมจรัสย์ หริณะ เขาพูดก่อนจะเดินมาข้างผมบริเวณทะเลสาบ
นี่เป็นส่วนที่ผมชอบในบ้านหลังนี้ ผมจะกลับมาที่นี่แล้วมองดูวิวบริเวณนี้ตลอด โดยเฉพาะในเวลาที่มีหลายสิ่งหลายอย่างวนอยู่ในหัวผมเช่นตอนนี้
“จะไม่คุยกับปู่ด้วยเหมือนกันเหรอ” เขาถามในระหว่างที่เขามองไปที่ทะเลสาบเหมือนกับผม
“ไม่รู้สิ” ผมพูด “ปู่เกี่ยวอะไรกับงานแต่งงานนี้ไหม”
เขายิ้มขึ้น “งานแต่งงานนี้เป็นความคิดของแม่แกน่ะ แต่ปู่ก็ไม่ได้ขัดอะไรนะ ปู่รู้อยู่แล้วว่าแกจะไม่เห็นด้วยกับพวกเรา แต่สาริญเหมาะกับครอบครัวเรามากกว่าอัณญานะ นอกจากนี้ พี่น้องแกจะอยู่เพื่อเธอเอง มันไม่ยุติธรรมถ้าพวกแกทั้งสามคนจะมีแฟนเป็นคนเดียวกัน มันมีแต่จะทำให้ครอบครัวเราเศร้าใจนะ นี่เป็นงานแต่งงานที่จำเป็นต้องมีนะ ปู่เชื่อว่าผู้หญิงอย่างสาริญจะช่วยให้แกออกห่างจากอัณญาได้ สุดท้ายเธอก็ต้องเลือกใครสักคนอยู่ดร มันไม่มีทางที่แกทั้งสามคนจะอยู่กันแบบนี้ไปได้ตลอดหรอก พวกเรากำลังช่วยให้แกไม่ต้องเจอเรื่องปวดหัวใจอนาคตนะ”
“ปู่พูดเหมือนกับปู่รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกผมเป็นคนสุดท้ายในชีวิตเลย” ผมพูดเสริม
ปู่ยักไหล่ของเขา “ถ้าเธอจะต้องเลือกคนหนึ่ง ปู่มองแบบไม่โลกสวยเลยนะ แกไม่ใช่ตัวเลือกแรกแน่ ๆ ปู่แต่กำลังจะบอกว่าการแต่งงานกับสาริญจะทำให้ท้ังแกและพี่น้องนั้นทำอะไรได้ง่ายขึ้นน่ะ”
“ทำไมผมต้องเป็นคนเสียสละด้วยล่ะ” ผมถาม
“เพราะแกเป็นลูกคนโตไงล่ะ” เขาตอบ “ในฐานะที่เป็นพี่คนโต แกจะต้องเสียสละมากมายเพื่อพี่น้องระหว่างการเติมโตนี้ แกเป็นลูกที่ดีมาตลอด เชื่อฟังพ่อแม่ เชื่อฟังปู่และย่า ถ้าเกิดย่ายังมีชีวิตอยู่ ย่าจะต้องพูดเหมือนกับที่ปู่พูดแน่ ๆ การแต่งงานของเราก็เป็นการจัดเตรียมขึ้นเหมือนกัน แต่เราก็รักกันมาก และมันจะเกิดขึ้นกับแกได้เหมือนกัน”
ย่าของผม ชื่ออรุณี หริณะ เธอเสียไปเมื่อสองปีก่อน การตายของเธอทำให้ครอบครัวของเราเสียศูนย์ พวกเราพยายามจะรับมือกับมันให้ได้ บางคนอาจบอกว่าเวลาสองปีมันเพียงพอที่จะหยุดเศร้าโศกได้แล้ว แต่ย่านั้นเป็นเหมือนนางฟ้า ย่าทำทุกอย่างให้กับเรา
“ปู่คิดว่าย่าจะอยากให้ผมแต่งงานกับสาริญทั้ง ๆ ที่แฟนของผมคืออัณญางั้นเหรอ” ผมถามปู่
ผมเคารพการตัดสินใจของเธอเสมอ ผมหวังว่าย่าจะยังมีชีวิตอยู่แล้วตอบคำถามนี้ด้วยตัวของย่าเอง
ปู่พยักหน้า “ย่าของแกรักสาริญมาก พวกเธอจะไปเจอกันนอกบ้านของพวกเรา น่าไม่เคยบอกแกแค่บอกปู่ตลอดว่าย่านั้นเอ็นดูเธอมากแค่ไหน และหวังว่าสักวันเธอจะแต่งงานเข้ามาในบ้านเรา”
ผมกัดฟันแน่น คำพูดของปู่แทงใจผม ทำไมย่าถึงอยากให้สาริญแจ่งงานกับคนในครอบครัวเรานะ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพวกเขาสนิทกันขนาดนี้ ผมรู้ว่าสาริญมาร่วมงานศพด้วย แต่ผมคิดว่าเธอโดนครอบครัวของเธอบังคับมา
“ปู่พยายามจะบอกอะไรกับผม” ผมถาม
“แกรู้อยู่แล้วว่าปู่อยากจะบอกว่าอะไร แกควรจะเติมเต็มความต้องการของย่าแกด้วยการแต่งงานกับสาริญ แกสงสัยว่าถ้าย่ายังมีชีวิตอยู่ย่าจะพูดว่าอะไร ปู่บอกแกได้เลยว่าย่าจะบอกให้แกแต่งงานกับเธอ ปู่ไม่ได้พูดแบบนี้เพราะเป็นสิ่งที่ปู่หรือพ่อแม่แกต้องการนะ ที่ปู่พูดก็เพราะมันเป็นสิ่งที่ย่าต้องการน่ะ”
ผมยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะมองไปที่ทะเลสาบ พร้อมกับคำพูดของปู่ที่วนอยู่ในหัวของผม ผมชำเลืองมองปู่ แล้วผมก็รู้ว่าปู่กำลังทำให้ผมจนมุม ปู่พูดคำที่จับใจผม ปู่พูดในสิ่งที่จะทำให้ผมยอมแต่งงานกับสาริญ
การเติมเติมความต้องการของคุณย่าเป็นสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอด ถึงแม้มันจะต้องทำลายความสุขของผม การแต่งงานกับสาริญ รัตนชลาลัยอาจจะพรากทุกอย่างไปจากผม แต่ผมก็เต็มใจจะทำมัน เพราะคุณย่า
“พ่อแม่ของผมให้ปู่มาที่นี่หรือเปล่า” ผมถามปู่
ปู่หัวเราะ “พวกเขาอาจจะได้บอกอะไรกับปู่บ้าง แต่ปู่ไม่ได้ทำเพื่อเขานะ แต่ทำเพื่อแกและผู้หญิงที่อยู่บนฟ้าของปู่ไงล่ะ”
ผมหันมาทันควัน “ผมว่าผมควรจะไปบอกข่าวดีกับพวกเราแล้วละ’
เขาพยักหน้า “มันจะทำให้วันนี้เป็นวันดี ๆ ของพวกเขาเลยละ แน่นอนเลย ถึงแม้ว่าแกจะไม่ได้เต็มใจมาก แต่ปู่รู้ว่าพวกเขาจะต้องหาทางโน้มน้าวแก แล้วพ่อแม่แกจะจัดการทุกอย่าง”
ผมรับกลับเข้าไปในบ้านพลางมีบางอย่างอยู่ในหัวของผม ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่สวน ดวงตาทุกคู่ต่างมองมาที่ผม
ผมได้เห็นเธออีกครั้ง สาริญ ภรรยาในอนาตคของผม
ผมพยายามจะไม่สนใจความสวยของเธอที่ยืนอยู่ข้างดอกช่อดอกไม้สีแดงพร้อมกับสายลมก่อน ๆ ที่พัดผมยาวสีบลอนด์ของเธอ ผมกำหมัดแน่นก่อนจะเดินผ่านเธอไปหาพ่อแม่ของผม
ผมรู้ได้ทันทีว่าพวกเขายังคงไม่พอใจกับสิ่งที่ผมทำไปก่อนหน้านี้ ผมรู้ว่าพวกเขาไม่คิดว่าผมจะยอมรับการแต่งงานนี้ อย่างน้อยก็ไม่เร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะตั้งแต่ที่ผมมบอกพวกเขาว่าผมจะแต่งงานกับอัณญาคนเดียวเท่านั้น
“ผมพร้อมแล้ว” ผมบอกพวกเขา “ที่จะแต่งงานกับสาริญ พวกคุณเริ่มเตรียมงานได้เลย ผมจะไม่ขวางงาน”
แม่ชายตาขึ้นด้วยความสุข จากนั้นแม่ก็เข้ามากอดผม “แม่ภูมิใจในตัวลูกมาก ลูกชาย” แม่พูดด้วยรอยยิ้ม “แม่รู้ว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตลูก สาริญจะเป็นสมบัติล้ำค่าของลูก”
“นี่แหละ ลูกชายพ่อ” พ่อของผมพูดก่อนจะเข้ามากอดผมต่อ “นี่จะต้องเป็นงานแต่งงานแห่งปีแบบไม่ต้องสงสัยเลย ในที่สุด ตระกูลรัตนชลาลัยก็ได้แต่งงานกับตระกูลหริณะ”
พ่อแม่ของสาริญก็กอดเช่นเดียวกัน พวกเขาเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในพวกเรา คงจะมีคนคิดว่าดีใจจนเหมือนพวกเขาจะได้แต่งงานเอง
สาริญเข้าร่วมกับพวกเรา แล้วเธอก็ดูตกใจที่ผมตอบตกลงจะแต่งงานกับเธอ
เธอเปิดปากเพื่อจะพูดบางอย่าง ในตอนที่โทรศัพท์ของผมดังขึ้นพอดี
ผมมองไปที่เบอร์ที่โทรมา แล้วตัวผมก็นิ่งไป
อัณญา