"โอ้ย เตะขาผมทำไมเนี่ย"
"จะมาทำไมไม่บอก"
สายหมอกคือลูกพี่ลูกน้องฉัน มันจัดว่าเป็นผู้ชายหน้าหวาน บางครั้งมีผู้ชายมาจีบมันก็มี แต่นิสัยมันต่างกับบุคคลิกโดยสิ้นเชิง มันทั้งห้าว กวน แถมบ้าอีก
"ก็ถ้าบอกจะเห็นตัวเองนั่งร้องไห้อยู่แบบนี้เหรอ"
"พูดมาก" ฉันยกมือเช็ดคราบน้ำตา ก่อนจะเดินนำสายหมอกไปตามถนน
" อกหักเหรอตัวเอง ต่อจากนี้สายหมอกจะมาเรียนที่เดียวกับตัวเองแล้วนะ บอกมาสิว่าใครรังแก สายหมอกจะจัดการให้เอง เอาให้นอนโรงพยาบาลเป็นเดือนเลยดีไหม หรือไม่ก็ฝังหลุมกลบไปเลย" ฉันกรอกตามองบนก่อนจะปัดมือมันออกจากไหล่
"เลิกพูดแบบนี้ได้แล้ว ขนลุกไม่พอ ไม่ดูตัวเองเลยว่าไปสู้เขาได้หรือเปล่า"
"แกล้งนิดแกล้งหน่อยทำเป็นงอน ไปผับเป็นเพื่อนหน่อยดิ" ไอ้เด็กนี่ มายังไม่ถึงวันก็คิดจะหนีเที่ยวอีกแล้ว
"ไม่ไปโว้ย แกอยากไปก็ไปคนเดียว ฉันจะกลับบ้าน"
" ผมจะพาเจ๊ไปลืมความรักที่ห่วยแตกเอง" พูดจบมันก็ลากฉันไปทันที โดยไม่คิดจะฟังในสิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้เลยสักนิด
ฉันรั้งสายหมอกไว้เมื่อถึงผับ ใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าดื่มจะช่วยทำให้ฉันเลิกคิดถึงเขาหรือเปล่า อีกใจหนึ่ง ผับมันคือสถานที่อโคจร ถ้าฉันเมาแล้วมีคนลากเข้าห้องล่ะ อย่างน้อยฉันก็ยังอยากเป็นสาวบริสุทธ์อยู่นะ
" ฉันยังไม่โทรบอกแม่" มันยิ้มส่งมาให้ฉันทันที
"ผมโทรบอกตั้งนานแล้ว" ทำไมฉันไม่เคยทันไอ้เด็กหมอกนี่เลยนะ
เสียงเพลงดังขึ้นไปตามทำนอง มีทั้งหญิงและชายต่างพากันโยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลง บ้างก็นั่งคลอเคลียกัน
ทว่า ความซวยดันบังเกิดเมื่อฉันเซถอยหลังยามมีคนเดินชน มันทำให้ฉันคลาดกับสายหมอก
"ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ฉันพยายามยิ้มก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
ฉันตัดสินใจเดินฝ่าผู้คน ก่อนจะเดินหลงมาอยู่ที่ใดที่หนึ่งของผับ บริเวณรอบๆค่อนข้างเงียบ
"มือถือก็ไม่ได้เอามา เฮ้อ ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ"
"คนสวย ทำไมมายืนอยู่คนเดียวละครับ สนใจไปต่อกับพวกพี่หรือเปล่า" ฉันก้าวถอยหลังทันทียามรับรู้ถึงการจู่โจม เมื่อผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามา ทว่ามือกลับถูกคว้าเอาไว้ก่อน แต่ไม่ทันไร ร่างผู้ชายคนนั้นก็เซล้มทันที
"เชิญคุณผู้ชายไปหาผู้หญิงอื่นเถอะครับ" ชายชุดดำหน้าตาไม่คุ้นเลยสักนิดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
" มึงมายุ่งอะไรด้วย"
" ขอประทานโทษครับ ผมจะไม่ยุ่งถ้าบุคคลที่คุณผู้ชายจะลวนลาม ไม่ใช่ผู้หญิงของเจ้านายผม"
"โถ่เว้ย" ชายคนนั้นเดินออกไปด้วยความไม่พอใจสักเท่าไหร่
"ขอบคุณนะคะพี่การ์ด" พี่เขาใช้วิธีที่นุ่มนวลจริงๆ
"ขอโทษนะครับ"
"คะ?" พรึ่บ เหมือนมีบางอย่างมาปิดจมูกไว้ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดดับไปเมื่อฉันสูดสม
ความรู้สึกแรก มันทั้งอึดอัด มันทั้งมืด งูตัวหนึ่งที่กำลังรัดฉันแน่น ไม่มีท่าทีจะคลายออก ก่อนที่มันจะค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ฉันหลับตาก่อนจะเบือนหน้าหนีจนรู้สึกถึงอะไรเย็นๆที่ต้นคอ
" อืม.." เสียง งูมีเสียง พรึ่บ!! ฉันลืมตาขึ้นในห้องๆหนึ่งที่มืดสนิท ก่อนจะรู้สึกถึงแรงกอดรัดจากทางด้านหลัง ฉันยังฝันอยู่หรอกเหรอ
ฉันนอนลืมตาในความมืดก่อนจะหยิกแขนตัวเอง
"โอ้ย" ความรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขนนั้นทำให้รู้ว่า.. ฉันไม่ได้ฝัน ตอนนั้นฉันยืนอยู่กับชายชุดดำที่ผับ แล้วจู่ๆฉันมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
จุ๊ฟ เฮือก ฉันเบิกตากว้างถึงสัมผัสถึงสิ่งเย็นชื้นนุ่มหยุนที่ต้นคอ "ยังไม่เช้าเลย" พร้อมกับเสียงทุ้มดังขึ้น
ด้วยความตกใจเผลอกรี๊ดออกมา ทว่า กลับถูกปิดปากเอาไว้เสียก่อน "ไออ้า อ่อยอ่ะ" ( ไอบ้า ปล่อยนะ) พูดอย่างไม่เป็นศัพท์ ฉันพยายามดิ้นโดยมีมือหนาของใครคนหนึ่งปิดปากและกอดรัดฉันอยู่
จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา ฉันนอนกับใครก็ไม่รู้ ทำไมต้องเกิดเรื่องบ้าๆกับฉันด้วย
"ไม่ร้องนะครับ" พี่คินทร์แมวน้ำขอโทษ
" ปล่อยฉันไปเถอะนะ" คนที่คร่อมฉันชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ ฉันที่เป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีสัมผัสนั้นไม่อยากให้ใครได้แตะต้องเลยสักนิด
ทว่า ไฟในห้องกลับสว่างขึ้นอีกครั้ง มันทำให้ฉันหลับตาลงทันที เพราะปรับสายตาไม่ทัน คางฉันถูกจับให้เงยหน้าขึ้น ฉันไม่อยากลืมตาเลยสักนิด ฉันหักหลังพี่คินทร์ ต่อจากนี้ฉันคงไม่บริสุทธ์อีกแล้ว
"อื้อ..." ฉันเบิกตากว้างพร้อมกับร้องประท้วง เมื่อริมฝีปากถูกกดจูบอย่างอ้อยอิง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสบตากับดวงตาคู่นั้น ตัวฉันเกร็งไปหมดเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าคือพี่คินทร์
ร่างสูงผละริมฝีปากออก ก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเองเมื่อรู้สึกถึงรสเค็มและฝาดของเลือด ใช่ ฉันเองที่เป็นฝ่ายกัดปากของเขา
ฉันก้าวลงจากเตียงมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ "นี่มันเกิดอะไรขึ้น แมวน้ำมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ฉันเดินไปตรงขอบกระจกก็ต้องตกใจ เครื่องบิน ฉันอยู่บนเครื่องบิน
"ถึงฮิลฟาราพี่จะบอกทุกอย่าง" ว่าไงนะ
"ทำไมแมวน้ำต้องไปด้วย" พูดจบฉันทำท่าจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อนหาโทรศัพท์ แต่ไม่ทันได้ก้าวออก ร่างก็ลอยขึ้นเหนือพื้นทันที ก่อนจะถูกวางไว้บนเตียงเช่นเดิม
" อย่าดื้อ พี่ไม่อยากทำร้ายเรา"
"แมวน้ำไม่ไป"
มือฉันถูกกดไว้เหนือศีรษะ ดวงตาร่างสูงฉายแววให้เห็นได้ชัดว่าเขากำลังไม่พอใจ
" เพราะผู้ชายคนนี้ใช่ไหม" ภาพผู้ชายกับผู้หญิงยืนกอดกัน ซึ่งเป็นภาพฉันและสายหมอก
"ใช่" เพราะด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทำให้ฉันตอบโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองก่อน ร่างสูงชะงักก่อนจะปล่อยมือฉันแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าฉายแววน่ากลัว
"เฮ้อ แกพูดอะไรออกไปเนี่ย"
ยามเช้าที่แสนสดใส แสงแดดที่สาดส่องลงมากระทบเปลือกตาทำให้รับรู้ว่าเช้าแล้ว และเครื่องบินก็ยังไม่ลงจอด ภายในห้องเงียบสงัดที่นอนข้างๆเย็นและว่างเปล่าราวกับว่าเจ้าของห้องไม่ได้เข้ามานอน
จู่ๆก็รู้สึกเหนียวตัวไปหมด จึงตัดสินใจอาบน้ำ แต่กลับไม่มีเสื้อผ้าใส่ สุดท้ายก็ต้องใส่เสื้อคลุมไปก่อน
แอ๊ด!! ฉันเปิดประตูพร้อมกับอ้าปากค้าง เมื่อพบกับความหรูหรา อย่าบอกนะว่ามันคือเครื่องบินเฟิร์สคลาส
ฉันตบหน้าตัวเองให้เลิกตื่นเต้นก่อนจะเดินหาห้องเสื้อผ้าเพี่อจะนำมาสวมใส่ แต่เพราะมัวแต่เดินมองซ้ายมองขวาจึงทำให้เดินชนใครเข้า ปรากฎว่าเป็นพี่คินทร์ ไม่สิ เจ้าชายวัลดัส
"ทำไมแต่งตัวแบบนี้ออกมา" สายตาดุๆมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า มันทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้
"ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนค่ะ" พยายามสื่อว่าหาเสื้อผ้าไม่เจอจึงใส่เสื้อคลุมออกมาก่อน
"ขอประทานโทษครับ" เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างของฉันถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด ฉันถูกเปลี่ยนให้มายืนตรงที่ที่ร่างสูงยืนโดยพี่คินทร์ยืนบังฉันอยู่และหันหลังให้ชายที่ใส่เสื้อผ้าแปลกตา
"มีอะไร"
"พนักงานเอาเสื้อผ้าไปให้เอ่อ... "
" ไม่ต้องแล้ว ท่านกลับไปเถอะ" ฉันพยายามโผล่หน้าไปมองแต่กลับเห็นแค่หลังผู้ชายคนนั้น จะว่าไปก็ดูคุ้น
ร่างฉันถูกปล่อยให้เป็นอิสระหลังจากผู้ชายคนนั้นเดินออกไป "ห้องเสื้อผ้าอยู่ด้านซ้ายมือ" ว่าจบร่างสูงก็เดินออกไปทันที นี่อย่าบอกนะว่ายังงอนอยู่
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งมองอาหารตรงหน้า
" เอ่อ พี่คินทร์ ไม่สิ เจ้าชายไม่มาทานข้าวเหรอคะ" ฉันเอ่ยถามองครักษ์แต่กลับได้ความเคารพและความเงียบกลับมาแทน เฮ้อ แมวน้ำปวดหัว
"เจ้าชายเสด็จไม่ทรงโปรดมื้อเช้าสักเท่าไร" เป็นพี่โยเดินมายืนอยู่ตรงหน้าด้วยชุดที่คลับคล้ายกับองครักษ์คนอื่น ๆ ใส่ แต่มีความแตกต่างตรงรูปดาวบนหัวไหล่
" ได้ไง ทานมื้อเช้ามันมีผลดีต่อสุขภาพนะคะ ตอนนี้เจ้าชายอยู่ไหนคะ"
เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูพร้อมกับเคาะห้องขออนุญาต แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน ฉันจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปก่อนจะพบว่าร่างสูงนั่งอ่านอะไรสักอย่าง
" ทำไมไม่ทานข้าวเช้าคะ" ร่างสูงแค่เงยหน้ามองฉันแล้วก้มอ่านหนังสือเหมือนเดิม
"พี่ยังไม่หิว" น้ำเสียงเรียบนิ่งที่ถูกเปล่งออกมา ก่อนที่มือหนาจะยกกาแฟขึ้นดื่ม ทว่า ฉันไวกว่าคว้ากาแฟมาดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะวางลงบนโต๊ะคืน แล้วเลือกนั่งลงตรงข้ามกับพี่คินทร์
"ถ้าพี่ไม่กินข้าวเช้า แมวน้ำก็จะไม่กิน" ถึงจะหิวมากก็เถอะ
บรรยากาศถายในห้องเงียบขึ้นมาทันที หรือว่าพี่คินทร์จะโกรธเรา
"ขอโทษค่ะที่แสดงกิริยาไม่ดี แต่ถ้าไม่ทานอาหารเช้า มันจะมีผลเสียต่อสุขภาพนะ พี่คินทร์เองก็เป็นหมอ น่าจะรู้ดีกว่าแมวน้ำ"
"และก็ขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วย ผู้ชายที่แมวน้ำกอดเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแมวน้ำ เราสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ อีกอย่าง สายหมอก..ชอบผู้ชายค่ะ" ขอโทษนะเว้ยสายหมอก
อธิบายจนหมดเปลือก พี่คินทร์ก็ยังไม่พูดไม่จาเช่นเดิม แต่กลับจ้องหน้าฉันอย่างเดียว และฉันไม่สามารถรับรู้ความคิดของเขาได้แม้แต่น้อย