ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... ‘พู่กัน’ สาวน้อยรูปร่างอวบอิ่ม ผิวขาวผ่อง และมีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา เงยหน้าจากแฟ้มเอกสารกองโตบนโต๊ะพร้อมกับเอ่ยคำอนุญาตให้ผู้มาเยือนด้านนอกเข้ามาด้านในได้
“ว่าไงจ๊ะเพื่อนสาว เลิกงานได้แล้ว วันนี้ไม่มีเดทกับแฟนรึไงจ๊ะ” เหมยเดินเข้ามาหาเพื่อนสนิทในห้องทำงาน พลางเอ่ยแซวเพื่อนสาวคนสนิทที่ดูช่วงนี้จะติดแฟนน้อยลงมากกว่าช่วงแรก ๆ เยอะ
“อย่าพูดถึงเลย ช่วงนี้พี่อลันมีคดี เลิกดึกแทบทุกวันเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเดท แค่คุยโทรศัพท์กันยังน้อยเลยอ่ะ เหมยทนได้ไงเวลาพี่นัทยุ่ง ๆ แล้วไม่มีเวลาให้อ่ะ” พู่กันวางปากกาลงบนโต๊ะ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหนักพร้อมกับทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้เหมือนคนหมดแรง
“เหมยไม่ได้ทนนะ แค่ทำความเข้าใจ เราต้องเข้าใจว่าคนที่เรารักกำลังทำเพื่อคนอื่นอีกมาก เราต้องไม่งอแง ถ้าพู่คิดจะมีแฟนเป็นตำรวจ จุดนี้พู่ต้องทำความเข้าใจและผ่านมันไปให้ได้” เหมยแนะนำเพื่อน
“เอาจริง ๆ คบกันมาเกือบปี ได้เดทกันแค่ช่วงแรก ๆ ที่เริ่มคบกันอ่ะ หลัง ๆ มาทั้งพู่เองที่ยุ่งเพราะโรงเรียนเปิด พี่อลันก็มีคดีตลอด มันเลยเหมือนห่าง ๆ กันไป เหมยว่ามันจะรอดมั้ย” พู่กันเอ่ยเสียงอ่อน
อลันเป็นตำรวจสังกัดกองปราบปรามยาเสพติดเหมือนกับสารวัตรนัทแฟนของเหมยเพื่อนสนิทเธอ แต่อยู่คนละทีม ทั้งสองคนเริ่มต้นความสัมพันธ์กันมาหลังจากงานแต่งงานของสารวัตรนัทและเหมย
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เหมือนเป็นพรหมลิขิตในความรู้สึกพู่กัน อลันเป็นเพื่อนสนิทของ เพชร พี่ชายคนรองของพู่กัน ที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เรียนจบมัธยมไป แม้อลันและพู่กันจะเคยเจอกันบ้างตอนเด็ก ๆ แต่เมื่ออลันและพี่ชายเธอแยกสายกันเรียน ก็ทำให้ขาดการติดต่อกันไปช่วงนึง
จนกระทั่งอลันได้มาเจอกับพู่กันอีกครั้งในงานแต่งงานของสารวัตรนัทและเหมย ในงานนั้นพู่กันดูน่ารักและสะดุดตาอลันในทันทีที่ได้เห็น แม้จะรู้สึกคุ้นตาแต่อลันก็ยังไม่กล้าพอที่จะเดินเข้าไปทำความรู้จัก
หลังวันงานแต่งงาน อลันที่กำลังเลื่อนฟีดเฟสบุ๊คอยู่ก็เข้าไปเห็นภาพของพู่กันที่อยู่ในงานแต่งงาน รอยยิ้มของอลันปรากฏขึ้นเมื่อเห็น เพชร เพื่อนสนิทสมัยมัธยม คอมเม้นท์ใต้ภาพนั้นของพู่กัน เมื่อรู้ว่าพู่กันเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิท อลันก็ต่อสายตรงหาเพื่อนและเริ่มเดินหน้าจีบน้องสาวเพื่อนในทันที
ทางด้านพู่กัน เธอเองไม่ได้มีใครในใจ ประกอบกับสเปคหนุ่มในฝันของพู่กันเองก็คือหนุ่มในเครื่องแบบอยู่แล้ว อีกทั้งยังได้รับการชงอย่างเข้มข้นจากพี่ชาย ทำให้พู่กันเปิดใจยอมรับอลันได้ไม่ยาก
ทั้งสองตกลงคบกันหลังจากนั้นไม่ถึงเดือน อลันดูแลพู่กันอย่างดี พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว พาไปคาเฟ่ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง แต่หลังจากคบกันได้ไม่กี่เดือน พู่กันก็เริ่มยุ่งกับโรงเรียนที่เปิดร่วมกับเหมย ส่วนอลันเองก็มีคดีเข้ามา ทำให้ทั้งสองคนเริ่มห่างกันไป และเป็นที่มาให้พู่กันนั่งหน้างอปรับทุกข์กับเพื่อนอยู่ตอนนี้
“หมวดอลันไม่ว่างมาหา พู่ก็ไปหาเองสิ บางทีทำงานเหนื่อย ๆ ก็ต้องมีคนคอยดูแลนะ” เหมยแนะนำเพื่อน
“แล้วจะรู้ได้ไงว่าพี่อลันจะว่างเจอพู่ เกิดไปแล้วพี่เค้ายุ่งอยู่ มันจะยิ่งทะเลาะกันเปล่า ๆ มั้ยอ่ะ” แม้จะสนใจในสิ่งที่เพื่อนแนะนำ แต่พู่กันก็ยังคงกังวล
“เอางี้ เดี๋ยวเหมยถามพี่นัทให้” เหมยยักคิ้วให้เพื่อน ก่อนจะกดโทรศัพท์หาสารวัตรนัท สามีสุดที่รัก
‘ว่าไงคะหนู พี่กำลังจะออกไปรับหนูที่โรงเรียนพอดี จะเอาอะไรมั้ยคะ’ สารวัตรกดรับพร้อมเอ่ยถามกลับมาทันที เมื่อเห็นคนรักโทรหา
“ไม่เอาอะไรค่ะ หนูแค่อยากรบกวนพี่นัทสืบให้หน่อย ว่าทีมหมวดอลันยุ่งมั้ย วันนี้หมวดอลันมีเวรรึเปล่า ยัยพู่เค้าจะไปเซอร์ไพรส์แฟนเค้าให้หายคิดถึงหน่อย” เหมยยิ้มแซวเพื่อนที่นั่งหน้าแดงอยู่อีกฝั่งของโต๊ะทำงาน
‘นอกจากเป็นภรรยาตำรวจแล้วยังจะเป็นแม่สื่ออีกหรอคะ เดี๋ยวพี่ไปดูให้ หนูถือสายรอแปปนะคะ’ เหมยตอบรับคำสารวัตร พร้อมเปิดลำโพงให้เพื่อนที่กำลังรอฟังคำตอบฟังพร้อมกัน
‘ทีมหมวดอลันแยกย้ายกันกลับไปแล้วนะคะหนู พี่เจอแต่หัวหน้าทีมที่กำลังจะกลับเหมือนกัน’ สารวัตรให้คำตอบสองสาวที่กำลังรอฟังอย่างใจจอใจจ่อ
“ขอบคุณค่ะพี่นัท หนูรอที่โรงเรียนนะคะ พี่นัทมาถึงแล้วทักมาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูออกไปหา” เหมยเอ่ยลาสารวัตรก่อนจะกดวางหูโทรศัพท์ไป
“เอาไงต่อ หมวดอลันว่าง เหมยว่าน่าจะกลับบ้าน พู่เคยไปบ้านหมวดอลันมั้ย” พู่กันพยักหน้ายิ้มตอบเพื่อน
“พี่อลันอยู่คอนโดอ่ะ เคยไปครั้งสองครั้ง หยุดยิ้มเลยเหมย แค่แวะไปเอาของเฉย ๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” พู่กันตอบพร้อมชี้นิ้วหยุดความคิดของเพื่อนไว้
“ไม่มีอะไรจริงอ่ะ ถึงไหนและถามได้ป่ะ” เหมยยื่นหน้าผ่านโต๊ะทำงานมากระซิบถามเพื่อน
“ไม่มีจริง ๆ ไม่ถึงไหนทั้งนั้นแหละ มากสุดแค่หอมแก้ม ไม่มีอะไรมากกว่านี้เลย ว่าแต่สุภาพบุรุษในชุดตำรวจนี่เค้าเป็นแบบนี้กันทุกคนมะ” พู่กันถามเพื่อนกลับ เพราะสมัยที่เหมยคบกับสารวัตรใหม่ ๆ กว่าจะมีจูบแรกก็คบกันมานานเช่นกัน
“ไม่รู้สิ เหมยว่ามันอยู่ที่คนมากกว่าแหละ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นแบบนี้ แต่ก็ดีแล้วหนิ หมวดอลันก็ดูเป็นสุภาพบุรุษคนนึง เค้าให้เกียรติเพื่อนเหมยก็ดีแล้ว หรือพู่เสียดายจ๊ะ” เหมยแซวเพื่อน
“บ้า!! เสียดายอะไรเล่า” พู่กันโวยวายแก้เขิน
“โอเค ๆ ไม่แซว ๆ ตกลงเอาไงต่อจ๊ะ” เหมยหัวเราะที่ทำเพื่อนเสียอาการ ก่อนจะเอ่ยถามถึงแผนต่อไป
“พู่ว่าจะแวะซื้อของกินเข้าไปให้พี่อลันที่คอนโดอ่ะ ไม่ได้หยุดมาหลายวัน ป่านนี้กลับไปนอนหลับปุ๋ยไปแล้วมั้ง ไม่ค่อยหาข้าวกินหรอก เดี๋ยวพู่จะบำรุงเอง” พู่กันยิ้มด้วยความภูมิใจกับแผนที่มีในหัว
“บำรุงขนาดนั้นไม่ทำไปให้กินเองเลยล่ะ” เหมยยิ้มถาม
“กลัวพี่อลันเข้าโรงพยาบาลก่อน เหมยก็รู้ว่าพู่ไม่เข้าครัว” ทั้งสองคนพากันหัวเราะ เพราะรู้ดีว่าฝีมือการทำอาการของพู่กันนั้นแย่แค่ไหน
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของพู่กันดังแทรกเสียงหัวเราะของสองสาวขึ้น เมื่อพู่กันหยิบขึ้นมาอ่าน ใบหน้าก็ปรากฎรอยยิ้มกว้างขึ้นมาทันที
“ไม่ต้องถามเนอะว่าใครทักมา ยิ้มกว้างขนาดนั้น” พู่กันเงยหน้ามายักคิ้วให้เพื่อน ก่อนจะส่งข้อความตอบกลับไปให้อีกคน
“พี่อลันไลน์มาบอกว่า กลับถึงคอนโดแล้ว แต่คงจะนอนเลยเพราะเพลียมาหลายวัน” พู่กันเล่าให้เพื่อนฟัง
“งั้นก็เข้าแผน แสดงว่าหมวดอลันอยู่คอนโดแน่ ๆ แล้ว เดินหน้าได้เลย เตรียมแต่อาหารไปให้หมวดอลันก็พอนะจ๊ะ ไม่ต้องเตรียมตัวเองไปเป็นอาหารให้หมวดเค้า” เหมยยื่นมือมาจับหน้าเพื่อนส่ายไปมา
“พอเลยยัยเหมย!! ตั้งแต่แต่งงานนี่ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ” พู่กันแยกเขี้ยวใส่เพื่อน
“แหม เรื่องธรรมชาติเนอะ” เหมยยิ้ม “พู่รู้ว่าเหมยแค่แซวเล่น เรื่องแบบนี้ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า อีกอย่างถ้าไม่มั่นใจว่าจะรักกันไปตลอดชีวิต ก็อย่าทำเลย เราต้องทำให้ตัวเองมีคุณค่า เข้าใจมั้ยคะเด็กหญิงพู่กัน”
“เข้าใจค่ะคุณแม่ กลับบ้านไปได้แล้วค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อจะรอนาน นู่น เดินยิ้มแป้นมานู่นแล้ว” พู่กันชี้นิ้วให้เพื่อนมองผ่านกระจกห้องทำงานออกไป
“งั้นเหมยกลับบ้านแล้วน้า ขอให้โชคดี สวีทหวานชดเชยเวลากันให้เต็มที่นะจ๊ะเพื่อนพู่” เหมยโบกมืออวยพรเพื่อนก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปหาสารวัตรที่เดินมารับด้านในตึก
พู่กันมองตามเพื่อนสนิทที่เดินควงแขนสารวัตรไปด้วยรอยยิ้ม เธอพยายามมองภาพนั้นซ้อนทับด้วยภาพของอลันและตัวเอง พลางนั่งยิ้มให้กับสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดในหัว
หลังจากเก็บของเรียบร้อย พู่กันก็ขับรถออกจากโรงเรียนมุ่งตรงมาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้กับคอนโดของอลัน ก่อนจะใช้เวลาเกือบชั่วโมงเดินเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปฝากอีกคน
เมื่อได้ของครบตามที่วางแผนไว้ พู่กันก็ขนของทั้งหมดกลับมาที่รถ ขณะที่กำลังจะเลี้ยวออกจากที่จอดรถ เธอก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าเธอจะไปหาอลันก็ต้องมีคีย์การ์ด ไม่อย่างนั้นก็ต้องให้อลันลงมารับอยู่ดี
พู่กันควานหาคีย์การ์ดคอนโดของอลันที่เค้าเคยให้ไว้ในกระเป๋า แต่หลังจากพยายามค้นจนแทบจะเททุกอย่างออกจากกระเป๋าแล้วกลับหาไม่เจอ พยายามค้นดูในรถแทบทุกซอกทุกมุมแล้วก็ไม่มี ทำให้ในหัวพู่กันตอนนี้เริ่มสับสนว่าจะตรงไปที่คอนโดแล้วโทรให้อลันลงมารับ หรือกลับไปหาคีย์การ์ดให้เจอก่อนดี
ในที่สุดความคิดที่อยากเซอร์ไพรส์แฟนก็ชนะ พู่กันตัดสินใจขับรถกลับไปที่โรงเรียนเพื่อหาคีย์การ์ด เธอเก็บมันไว้ในกระเป๋าตลอด และที่เดียวที่คีย์การ์ดจะอยู่ได้ นอกจากในกระเป๋าและบนรถก็ต้องเป็นที่โต๊ะทำงาน และมันก็เป็นอย่างที่เธอคิด คีย์การ์ดถูกเก็บไว้ในกระเป๋าบัตรที่เธอหยิบออกมาวางไว้บนโต๊ะเมื่อเช้านี้เอง
พู่กันคว้ากระเป๋าบัตรติดตัวขึ้นมาบนรถ ก่อนจะเหยียบคันเร่งตรงไปที่คอนโดของอลันอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมง หลังจากที่อลันส่งข้อความมาหาเธอ ตอนนี้พู่กันเพิ่งขับรถเข้ามาจอดในที่จอดรถของคอนโดได้สำเร็จ หลังจากฝ่าฟันสภาพการจราจรที่เริ่มหนาแน่นขึ้นในช่วงค่ำ
พู่กันหอบหิ้วอาหารและของบำรุงกำลังทั้งหมดที่ซื้อมาจากห้างเมื่อเย็น เข้ามาด้านในคอนโด พร้อมกับใช้นิ้วที่เหลือจากการหอบของหนีบคีย์การ์ดไว้ พนักงานสาวที่นั่งประจำอยู่ด้านล่างคอนโดเห็นเข้า เธอจึงอาสาเข้ามาช่วยถือของไปส่งพู่กันด้านบน
“ขอบคุณนะคะ ไม่คิดว่าของจะเยอะขนาดนี้” พู่กันเอ่ยกับพนักงานเมื่อเดินเข้ามาด้านในลิฟท์เรียบร้อย
“ไม่เป็นไรค่ะ มาหาคุณอลันหรอคะ” พู่กันพยักหน้าตอบพร้อมรอยยิ้ม พนักงานคนนี้เคยเห็นเธอมาพร้อมอลัน คงจะจำได้ถึงได้เข้ามาช่วยเหลือเธอ
“เดี๋ยวส่งแค่นี้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย” พู่กันเอ่ยขอบคุณพนักงาน เมื่อเธอช่วยยกของมาถึงหน้าห้องของอลัน หลังจากพนักงานเดินกลับไป พู่กันจึงเตะคีย์การ์ดเปิดประตู ก่อนจะหอบหิ้วทุกอย่างเดินเข้าไปด้านในห้องของอลัน
ห้องพักของอลันเป็นคอนโดขนาดกลาง มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วนอยู่ด้านขวา ส่วนด้านหน้าเป็นห้องครัว พื้นที่ทานอาหารและห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด
พู่กันตัดสินใจเดินแยกออกไปที่ห้องครัว แล้ววางของทุกอย่างลงบนเคาน์เตอร์ครัวก่อน เธอไม่ได้กดเปิดสวิทช์ไฟ แต่ใช้แสงไฟจากภายนอกให้ความสว่างแทน เพราะของในมือค่อนข้างเยอะ ในขณะที่เธอกำลังลำเลียงขวดเครื่องดื่มเข้าตู้เย็น แสงไฟในโซนครัวทั้งหมดก็สว่างขึ้น
พู่กันสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อคิดได้ว่าคงจะเป็นอลันที่ได้ยินเสียงผิดปกติจากเธอจึงเดินออกมาเปิดไฟดู ทำให้พู่กันหันกลับไปมองต้นทางด้วยรอยยิ้ม ราวกับคนร้ายที่ถูกจับได้ขณะกำลังทำความผิด แต่ภาพตรงหน้าที่เธอเห็น กลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
ผู้หญิงตรงหน้ายืนกอดอกมองตรงมาที่เธอ พู่กันยืนจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ในชุดนอนสุดเซ็กซี่สีดำตรงหน้าด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ความคิดในหัวของพู่กันตอนนี้ไม่มีเรื่องดีดีให้เธอคิดเข้าข้างตัวเองได้เลย
“เธอเป็นแม่บ้านหรอ มาไม่รู้จักเวลาล่ำเวลา นี่มันดึกแล้วเข้ามาได้ยังไง” ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจ
“คุณเป็นใคร” สิ่งเดียวที่หลุดออกมาจากปากพู่กันตอนนี้ ไม่ใช่คำตอบของคำถามที่ผู้หญิงตรงหน้าถามเธอ แต่กลับเป็นสิ่งที่เธอสงสัยที่สุด
“นี่หล่อน!! ฉันถามเธอก่อน ยังจะมาย้อนถามอีก ไร้มารยาท” ผู้หญิงคนนั้นเหวี่ยงกลับมา
“พี่อลันไปไหน” อีกครั้งที่คำถามหลุดออกมาจากปากของพู่กัน น้ำตาเริ่มเอ่อคลอขึ้นมาด้วยความกลัว
“เธอเป็นใครกันแน่ กล้าดียังไงมาเรียกผัวฉันว่าพี่ อลันเป็นลูกคนเดียวไม่ได้มีน้องสาวที่ไหนให้มานับญาติด้วย ตอบมาเธอเป็นใครกันแน่ แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง” ผู้หญิงตรงหน้าเริ่มขึ้นเสียงใส่พู่กัน
“เอะอะอะไรหญิง” เสียงคุ้นหูของอลันดังขึ้นจากด้านในห้องนอนที่อยู่ด้านหลังของผู้หญิงคนนั้น “พู่!!!” อลันเรียกพู่กันเสียงดังด้วยความตกใจ
“มันเป็นใครอลัน คุณรู้จักหรอ” ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยถาม
“พู่มาได้ยังไง จะมาทำไมไม่บอกพี่ก่อน” อลันเดินแทรกเข้ามาหาพู่กันที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้า
“ถ้าพู่บอกพี่ พู่จะได้เห็นภาพนี้หรอคะ ทำไมพี่นอกใจพู่” พู่กันเอ่ยเสียงสั่น “พี่ทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว พี่ทำแบบนี้กับพู่ได้ยังไง” พู่กันปล่อยเสียงสะอื้นออกมาพร้อมคำถามที่ค้างอยู่ในใจ
“พู่ฟังพี่ก่อน พี่ไม่ได้นอกใจพู่นะ กับผู้หญิงคนนี้ก็แค่เซ็กส์ แค่คู่นอน พี่ไม่ได้รักเค้า พี่รักพู่คนเดียว” อลันพยายามเดินเข้ามาหาพู่พร้อมกับอธิบาย แต่พู่กันก็พยายามถอยหนี
“อลัน!! พูดแบบนั้นได้ยังไง นอนด้วยกันทุกวันแบบหญิงเนี่ยต้องเรียกเมีย ไม่ใช่คู่นอน” ผู้หญิงตรงหน้ากรีดร้องโวยวายใส่อลัน
“เงียบปากไปเลย!! กลับไปได้แล้ว” อลันหันไปไล่ผู้หญิงอีกคนออกจากห้อง
“ไม่ต้อง!!” พู่กันตะโกนแทรกเสียงของทั้งคู่ขึ้น “มีความสุขกันต่อเถอะ ส่วนเราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก คีย์การ์ดห้องคุณ พู่วางไว้บนนั้น” พู่กันคว้ากระเป๋าก่อนจะเร่งฝีเท้าก้าวออกจากห้อง
“เดี๋ยวพู่!!! ฟังพี่ก่อน” อลันวิ่งตามมาดึงแขนพู่กันไว้
“ปล่อย!! คุณกลับไปหาเมียคุณเถอะ!!” พู่กัดสะบัดแขนออกจากอลันอย่างแรง ก่อนจะผลักอลันออก พร้อมกับเอ่ยทิ้งท้ายไว้ แล้ววิ่งหนีออกไปทันที โดยไม่สนใจเสียงเรียกของอลันที่ดังตามหลังมาแม้แต่น้อย