CHAPTER 2 “แตกสลาย”

2594 Words
พู่กันเพ่งสายตามองถนนตรงหน้าผ่านม่านน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด เท้าที่เหยียบคันเร่งค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนักลง ก่อนจะเปลี่ยนไปเหยียบเบรคพร้อมกับเปิดไฟเลี้ยวจอดข้างทางเมื่อรู้สึกว่าตนไม่สามารถขับรถต่อไปได้อีก “เหมย...” พู่กันต่อสายหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว น้ำเสียงสะอื้นเรียกชื่อเพื่อนออกไป ทำให้ปลายสายผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรงด้วยความตกใจทันที ‘พู่!! เกิดอะไรขึ้น พู่เป็นอะไร’ เหมยรัวคำถามจนสารวัตร รวมถึงคุณพ่อและคุณแม่ของสารวัตรที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นพากันหันมามอง “เหมย...พี่อลัน...พี่เค้า” พู่กันได้แต่สะอื้นร้องไห้อย่างหนัก ไม่สามารถเอ่ยเล่าอะไรออกมาได้ในตอนนี้ ‘พู่ใจเย็น ๆ นะ หายใจเข้าลึก ๆ ตอบเหมยก่อน ว่าตอนนี้พู่อยู่ไหน แชร์โลเคชั่นให้เหมยก็ได้ เดี๋ยวเหมยไปหา’ เหมยพยายามปลอบเพื่อน สายตาก็พลางส่งสัญญาณบอกสารวัตรให้เตรียมตัวออกไปหาเพื่อน “เหมย...เหมยมาหาพู่นะ” พู่กันทิ้งท้ายไว้เท่านั้น ก่อนจะวางสายไปแล้วส่งโลเคชั่นตำแหน่งที่อยู่ในเพื่อน “เกิดอะไรขึ้นคะหนู” สารวัตรถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน หลังจากทั้งสองพากันขึ้นมานั่งบนรถแล้วเรียบร้อย “ไม่รู้ค่ะ พู่ร้องไห้หนักมาก” เหมยนั่งบีบมือตัวเองแน่น ในใจนึกเป็นห่วงเพื่อน แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ฟังจากน้ำเสียงที่ได้ยิน เพื่อนเธอต้องกำลังเสียใจอย่างมาก สารวัตรขับรถตามเส้นทางที่พู่กันส่งมาให้ได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็เจอรถของพู่กันจอดกระพริบไฟอยู่ข้างถนนด้านหน้า สารวัตรรีบเปิดไฟเลี้ยวขอทางแล้วหยุดรถต่อท้ายรถของพู่กันทันที เสียงเคาะกระจกรัว ๆ เรียกทำให้พู่กันที่นั่งฟุบหน้าปล่อยน้ำตาอยู่กับพวงมาลัยเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนรักของตัวเอง ก็รีบเปิดประตูลงมากอดเหมยแน่น พร้อมกับปล่อยเสียงร้องไห้โฮ “เหมยอยู่นี่แล้วนะพู่ ใจเย็น ๆ อยากร้องก็ร้องออกมาให้เต็มที่ เหมยจะอยู่กับพู่นะ” เหมยกอดปลอบเพื่อน พยายามห้ามน้ำตาของตัวเองที่พร้อมจะไหลไปกับเพื่อนด้วย “พาไปที่บ้านก่อนดีมั้ยคะหนู” เหมยพยักหน้าตอบสารวัตร “รถทิ้งไว้นี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวให้ปืนกับนิกมาขับไป หนูพาเพื่อนขึ้นรถเลย เดี๋ยวพี่เอาของไปให้” สารวัตรเปิดประตูหยิบกระเป๋าของพู่กันในรถ ก่อนจะกดล็อกรถแล้วเดินตามสองสาวไป ระหว่างทางกลับบ้าน ไม่มีเสียงพูดคุยใดนอกจากเสียงร้องไห้ของพู่กัน เหมยเองก็ทำได้เพียงกอดปลอบเพื่อนไว้ เมื่ออีกคนยังไม่พร้อมที่จะเล่า เธอก็ยังไม่อยากเร่งรัด สารวัตรขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน ปล่อยให้เหมยพาพู่กันเดินเข้าบ้าน ส่วนตัวเองแยกไปหาปืนและนิกเพื่อให้ทั้งสองคนจัดการเรื่องรถของพู่กันให้ “เกิดอะไรขึ้นลูก เพื่อนน้องเป็นอะไร” คุณแม่ของสารวัตรเดินเข้ามาถามลูกชาย “ยังไม่ทราบเลยครับ น้องเอาแต่ร้องไห้ คุณพ่อกับคุณแม่ไปพักก่อนก็ได้ครับเดี๋ยวผมไปดูน้องก่อน” สารวัตรตอบคำถามคุณแม่ “บอกน้องค่อย ๆ คุยนะ มีอะไรก็ไปเรียกพ่อ เดี๋ยวพ่อให้คนจัดห้องนอนแขกไว้ให้ คืนนี้ก็ให้นอนที่นี่ไปก่อน” ท่านรองชนะตบบ่าลูกชายเบา ๆ ก่อนจะเดินแยกไปสั่งคนงานแล้วขึ้นไปพักผ่อนด้านบน “คืนนี้พู่กันนอนที่นี่ได้เลยนะ คุณพ่อเตรียมห้องไว้ให้แล้ว หนูอยู่กับเพื่อนนะคะ พี่ขึ้นไปข้างบนก่อน” สารวัตรเดินมาบอกเหมยในห้องนั่งเล่น “ไม่เป็นไรค่ะ พี่นัทอยู่ด้วยกันก็ได้” ไม่ใช่เหมย แต่กลับเป็นเสียงพู่กันที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นของตัวเองไว้ พลางเงยหน้าออกมาจากอ้อมกอดเพื่อน สารวัตรเพียงส่งยิ้มกลับมาอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ เหมยอีกด้าน “พร้อมจะเล่าก็เล่าออกมานะพู่ ยังไงเหมยก็อยู่กับพู่ตรงนี้เสมอ” พู่กันพยักหน้าให้เพื่อน พร้อมกับสูดหายใจเข้าปอด เพื่อเรียกสติให้กับตัวเอง “พู่เจอผู้หญิงอยู่ในห้องของพี่อลัน” พู่กันค่อย ๆ เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เหมยฟัง หลังจากได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เหมยทั้งโกรธ ทั้งเสียใจแทนเพื่อน ที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ตลอดเวลาที่รู้จักและสนิทกับพู่กันมาเธอไม่เคยมีความรักและไม่เคยมีแฟน ไม่เคยชอบใคร หรือแอบรักใคร เพราะเธอไม่มีความมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ พู่กันเป็นสาวน้อยตัวกลมที่แสนน่ารักของเพื่อน ๆ เธอเป็นคนร่าเริง สนุกสนานและเข้ากันได้กับทุกคน จนวันนึงที่เธอแอบได้ยินเพื่อนในห้องนินทาเรื่องรูปร่างของเธอ เหมยจำได้ดีว่าวันนั้นเพื่อนของเธอแอบมาร้องไห้กับเธอหนักแค่ไหน หลังจากวันนั้นมา พู่กันก็เปลี่ยนไปเป็นพู่กันคนใหม่ ที่ไม่ยอมเปิดใจให้เพื่อนคนไหนอีกเลยนอกจากเหมยคนเดียว เธอคุยกับทุกคนได้ ทำความรู้จักได้ แต่ก็ไม่เปิดใจให้ใครเข้ามาสนิทด้วยอีก แม้ว่าหลังจากเรียนจบมา รูปร่างของเธอจะไม่ได้อวบอ้วนเท่ากับตอนเด็ก ๆ แล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้ผอมเพรียวหุ่นนางแบบเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ทำให้เธอยังคงมีปมเรื่องนี้ติดอยู่ในใจเสมอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอกลัวความผิดหวัง กลัวว่าถ้าไปรักใครแล้วจะอกหัก เพราะตัวเองไม่ได้สวยและหุ่นดีเหมือนคนอื่น ๆ ทำให้เธอไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รักใคร จนกระทั่งมาเจอกับอลัน คนที่มาสารภาพกับเธอว่า ชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอที่งานแต่ง ทำให้เธอกล้าจะเปิดใจให้เค้า แต่สุดท้ายเธอก็ต้องผิดหวัง “แล้วพู่จะเอายังไงต่อ” เหมยถามขึ้นหลังจากพู่กันเล่าจบ “พู่จะเลิก ยังไงพู่ก็จะเลิก มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ฟังขึ้นสำหรับคนที่นอกกายกัน และพู่ไม่มีโอกาสให้สำหรับคนที่ทำแบบนี้” พู่กันยืนยันหนักแน่น “เหมยว่า อันดับแรกพู่ต้องทำอะไรซักอย่างกับโทรศัพท์นั่น” เหมยชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์ของพู่กันที่หน้าจอยังคงแสดงชื่อ อลัน เป็นสายเรียกเข้าไม่หยุดตั้งแต่เธอไปรับเพื่อนมา “พู่ไม่อยากคุย พู่บอกไปหมดแล้วว่าเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก” พู่กันส่ายหน้าตอบ “งั้นพี่แนะนำให้พู่กันโทรบอกที่บ้านว่าจะค้างกับเหมย แล้วปิดเครื่องไปเลยดีกว่าครับ อย่างน้อยที่บ้านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” สารวัตรแนะนำ พู่กันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดตัดสายเรียกเข้า ก่อนจะเปิดเข้าโปรแกรมไลน์แล้วส่งข้อความบอกพ่อกับแม่ไว้ เพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว ไม่อยากโทรไปรบกวนการนอนของพวกท่าน “ไม่ต้องคิดมากนะพู่ ไปนอนพักมั้ย เดี๋ยวเหมยไปนอนเป็นเพื่อน จะได้พักผ่อน” เหมยยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่ยังคงเปื้อนอยู่บนหน้าเพื่อน “ไม่เป็นไร พู่อยู่คนเดียวได้ เหมยไม่ต้องห่วงพู่นะ เหมยไปพักเถอะ ขอบคุณพี่นัทด้วยนะคะวันนี้” พู่กันหันมายกมือไหว้สารวัตร “อย่าคิดมาก ยังไงพู่กันก็เป็นเพื่อนสนิทของเหมย ก็เหมือนน้องสาวพี่คนนึง ยังไงพี่ก็ต้องช่วยครับ” สารวัตรยิ้มตอบ “เดี๋ยวพี่ไปยืมชุดคุณแม่มาให้เปลี่ยนใส่นอนนะ ส่วนชุดเราเดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านเข้าไปเอามาซักให้ พรุ่งนี้จะได้มีใส่” พู่กันยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณสารวัตรอีกครั้ง “ไปพักกันดีกว่า เดี๋ยวเหมยไปอยู่เป็นเพื่อนก่อน จะนอนแล้วค่อยแยกย้ายเนอะ” เหมยจับมือเพื่อนลุกขึ้น ก่อนจะพากันเดินไปที่ห้องนอนแขกที่เตรียมไว้ให้พู่กัน “ส่งแค่นี้ก็ได้เหมย พู่อยู่ได้จริง ๆ สัญญาว่าถ้ามีอะไรจะขึ้นไปรบกวน โอเคมั้ย” พู่กันย้ำกับเหมยอีกครั้งเมื่อทั้งสองคนเข้ามาในห้องนอนแขกเรียบร้อย “ก็ได้ มีอะไรต้องเรียกเหมยทันทีนะ พักผ่อนเยอะ ๆ ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว อะไรที่มันผ่านไปก็ช่างมัน ยังไงพู่ก็ยังเป็นเพื่อนที่น่ารักของเหมยเสมอ รู้มั้ย” เหมยกอดเพื่อนอีกครั้ง ก่อนเสียงเคาะประตูหน้าห้องจะดังขัดจังหวะทั้งสองคนขึ้น “พี่เอาเสื้อผ้ามาให้ พู่กันเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเอาใส่ตะกร้าวางหน้าห้องเลยนะครับ เดี๋ยวแม่บ้านมาจัดการให้ ส่วนนี่กระเป๋า กุญแจรถพี่ใส่ไว้ในกระเป๋าให้แล้ว” สารวัตรวางเสื้อผ้าไว้ปลายเตียง พร้อมกับกระเป๋าของพู่กัน “ขอบคุณมากนะคะพี่นัท ฝากขอบคุณทุกคนด้วยที่ต้องวุ่นวายเพราะพู่” พู่กันเอ่ยขึ้นด้วยความเกรงใจ “ไม่เป็นไรเลย พี่บอกแล้วว่าเราก็เหมือนน้องสาวพี่คนนึง พักผ่อนเถอะ หนูจะไปพร้อมพี่เลยหรือจะอยู่กับเพื่อนก่อนคะ” สารวัตรหันไปถามเหมย “ไปพร้อมพี่นัทเลยค่ะ มีอะไรเรียกเหมยนะพู่ พักผ่อนเยอะ ๆ” เหมยย้ำอีกครั้งก่อนทั้งสองคนจะแยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนด้านบน หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย พู่กันก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง ในหัวยังคงวนเวียนคิดเรื่องที่เกิดขึ้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอทำหน้าที่แฟนได้ไม่เต็มที่รึเปล่า ตัวอลันเองก็ไม่เคยมีท่าทีล่วงเกินหรือพยายามจะทำอะไรเกินเลยกับเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ทำไมกลับกลายเป็นว่าเค้าไปหาความสุขจากผู้หญิงคนอื่นแทน หรือเป็นเธอเองที่ไม่ได้น่าสนใจเหมือนผู้หญิงคนนั้น คิดไปน้ำตาที่แห้งไปแล้วก็พลันจะไหลออกมาอีกครั้ง พู่กันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิด เธอไม่สนใจข้อความแจ้งเตือนแชทไลน์ที่อลันพยายามส่งมาหลายสิบข้อความนั้น แต่เธอเลือกเปิดไปดูอัลบั้มภาพถ่ายที่เธอถ่ายไว้ในโทรศัพท์แทน รูปภาพมากมายที่ทำให้นึกถึงแต่รอยยิ้มและความทรงจำดีดีตลอดเวลาที่คบกัน ภาพที่เค้าถ่ายให้เธอ ภาพที่เธอแอบถ่ายเค้าตอนเผลอ ภาพที่ทั้งสองคนถ่ายคู่กัน แต่มันจะมีภาพความทรงจำเหล่านี้ไปทำไม ในเมื่อมันไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดที่เธอเจอมาในวันนี้ได้เลยแม้แต่น้อย พู่กันกดลบภาพทั้งหมดในอัลบั้มทิ้งอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเปิดเฟสบุ๊คและไอจีขึ้นมา เพื่อไล่ลบทุกเรื่องราวระหว่างเค้าและเธอออกทั้งหมด เธอไม่ต้องการเห็นภาพเหล่านี้ ไม่ต้องการให้มันกลับมาตอกย้ำความเจ็บปวดที่เธอได้เจอในวันนี้อีก หลังจากที่พู่กันใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงเพื่อพยายามข่มตานอน แต่เธอก็ยังไม่สามารถหลับตาลงโดยไม่นึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อค่ำได้เลย ระหว่างที่เธอกำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อไป เสียงความเคลื่อนไหวด้านหน้าประตูห้องก็ดึงความสนใจของเธอให้ลุกไปดู พู่กันยิ้มเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูไปเจอเสื้อผ้าของตัวเองที่ใส่มา วางพับไว้อย่างดีบนเก้าอี้ที่ถูกยกมาวางหน้าประตูห้องชั่วคราว พู่กันตัดสินใจหยิบเสื้อผ้ากลับเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อีกครั้ง เพื่อสร้างความสดชื่นให้กับตัวเอง พู่กันยืนมองดูความเรียบร้อยของที่นอนเธอจัดไว้ รวมถึงชุดนอนที่เธอใส่ซึ่งถูกวางพับไว้ปลายเตียงอย่างดี พร้อมกับกระดาษ 1 แผ่นที่เธอดึงออกมาจากสมุดโน้ตเพื่อทิ้งข้อความไว้ให้เพื่อนรักของเธอพร้อมกับคำขอบคุณ เมื่อจัดการทุกอย่างภายในห้องแล้วเสร็จ พู่กันก็เดินออกมาจากตัวบ้านก่อนจะขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับบนรถของตัวเองที่ถูกนำมาจอดไว้ภายในโรงจอดรถ ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...พู่กันสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกรถ หลังจากตั้งสติได้ เธอจึงหันไปลดกระจกด้านข้างคนขับลงเล็กน้อยเพื่อให้ได้ยินเสียงคนงานผู้ชายที่พูดอยู่ด้านนอก “คุณจะออกไปข้างนอกรึเปล่าครับ ผมจะได้ไปเอากุญแจมาเปิดประตูให้” เสียงคนงานเอ่ยถาม ทำให้พู่กันนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท พู่กันจึงส่งยิ้มพร้อมกับตอบคนงานตรงหน้าออกไป “ใช่ค่ะ รบกวนเปิดประตูให้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” คนงานเพียงโค้งรับเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งไปหยิบกุญแจมาเปิดประตูรั้วให้พู่กัน ใช้เวลาไม่กี่นาทีพู่กันก็ขับรถกลับมาถึงบ้านของตัวเอง เพราะช่วงเวลาตีสองเช่นนี้ การจราจรบนท้องถนนนั้นไม่ได้หนาแน่นเหมือนเวลาอื่น ๆ พู่กันเลือกจอดรถไว้หน้าประตูรั้วบ้าน ก่อนจะควานหากุญแจรั้วบ้านฝั่งคนเดินเข้าไขเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เวลานี้ทุกคนในบ้านน่าจะหลับไปเรียบร้อยแล้ว เธอจึงค่อย ๆ ย่องขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ด้านในห้องของเธอ จดหมาย 1 ฉบับที่ถูกเขียนขึ้นด้วยลายมือของเธอและถูกพับสอดไว้ในซองอย่างดี ก่อนพู่กันจะเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางแบบแบ็คแพ็คใบโปรดของเธอ และจัดเสื้อผ้าลงในกระเป๋าด้วยความเคยชิน โดยปกติ งานอดิเรกที่เธอชอบทำเป็นประจำคือการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวคนเดียว และการไปแต่ละครั้งก็กินเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เธอจะเดินทางไปเพราะต้องการหนี หนีจากความรู้สึกแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้ และหนีจากการตามของอลัน หลังจากใช้เวลาจัดกระเป๋าไม่นาน พู่กันก็หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นสะพายหลัง พร้อมสะพายกระเป๋ากล้องตัวโปรดอีก 1 ใบ ที่ด้านในเต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพและของใช้พร้อมทั้งเอกสารส่วนตัวทั้งหมดเท่าที่จำเป็น พู่กันสอดจดหมายไว้ใต้ประตูห้องนอนพ่อกับแม่ ก่อนจะค่อย ๆ ย่องออกมาจากบ้านกลับขึ้นรถที่จอดไว้ด้านนอกอีกครั้ง เป้าหมายต่อไปที่เธอมุ่งหน้าไปคือ โรงเรียนของเธอและเหมยที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ครั้งนี้เป็นการเดินทางที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน สิ่งที่เธอพอจะทำได้คือ เคลียร์ทุกอย่างที่ตัวเองรับผิดชอบไว้ เพื่อไม่ให้ตกไปเป็นภาระของเพื่อนรักอย่างเหมยให้ได้มากที่สุด ยังดีที่พวกเธอจัดการระบบการบริหารงานไว้อย่างดี ทำให้เธอไม่ต้องกังวลกับการไปในครั้งนี้มากมายนัก เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย พู่กันก็เรียกรถเข้ามารับที่โรงเรียน ก่อนจะมุ่งตรงไปที่สนามบินทันที เธอภาวนาขอให้การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางเพื่อเยียวยารักษาบาดแผลในใจ และหวังว่ามันจะทำให้เธอกลับมาเข้มแข็งและยิ้มได้อีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD