อื๊อ...อย่าเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ...อย่าทำเช่นนั้นกับข้า”
“ข้าเพียงอยากจะมอบความอบอุ่นให้กับเจ้าเท่านั้นองค์หญิง เหอฟางเหนียง”
ชายหนุ่มจับดึงรั้งร่างบางขึ้นมานั่งบนตักแข็งแรงของเขาอีกครั้ง จริงดั่งที่เขาพูดไว้ มืออุ่นๆที่ลูบไล้ไปตามเรือนกายของนางนอกจากจะทำให้นางรู้สึกอบอุ่นแต่มันยังทำให้นางสั่นไหวอย่างประหลาด มือที่ลูบไล้หยุดอยู่ตรงเต้าถันบีบเค้นเคล้าคลึงและบดขยี้ยอดปทุมทั้งสองอย่าเมามัน หญิงสาวเสียวซ่านมวนท้องจนกลีบอูมสั่นระริกน้ำหวานจากภายในร่องรักเอ่อซึมฉ่ำแฉะ
“อ๊า...ท่าน...ท่านแม่ทัพ...ข้า”
เสียงพูดปนกับเสียงครางฟังไม่ได้ศัพท์ ยิ่งปลุกเร้ากำหนัดของเขาให้ลุกขึ้นมา ไฟราคะลุกโชนมอดไหม้อยู่ในห้วงอารมณ์ เมื่อได้คืบพลันอยากจะได้ถึงศอก มือข้างหนึ่งที่เค้นคลึงเต้าถัน แต่อีกมือได้ล่วงล้ำเข้าไปภายใต้กระโปรงของนางเสียแล้ว หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนเพราะนางเองก็กำลังอยู่ในภวังของไฟราคะเฉกเช่นเดียวกันกับเขา ปลายนิ้วแหวกขนนุ่มนิ่มดั่งแพรไหมกดเกรี่ย เม็ดเสียวพร้อมบดคลึงเล่น จนน้ำหวานเยิ้มฉ่ำ
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้
เทพดอกไม้ได้ทำผิดกฏสวรรค์ จึงถูกมหาเทพลงโทษโดยการส่งเขาลงมายังโลกมนุษย์เพื่อมาค้นหาคนดี มีเมตตา อยู่ในศีลธรรม ท่านมหาเทพทำให้เทพดอกไม่ไร้ซึ่ง อิทธิฤทธิ์ เป็นเพียงชายไร้บ้านเร่ร่อนไปทั่วทุกแคว้นเพื่อเฟ้นหาคนดีให้ได้ครบหนึ่งพันคน แต่ทว่าบนโลกมนุษย์นั้นมีแต่กิเลศตัญหา ราคะ คนไร้ซึ่งความเมตตากรุณา เอารัดเอาเปลียบ กดขี่ข่มเหงผู้ที่ด้อยกว่า เกือบสิบวันแล้วเขายังหาคนดีมีเมตตาได้ไม่ถึงสิบคน เทพดอกไม้ชายเร่ร่อนรู้สึกท้อแท้ เขาไม่ได้กินอาหารและมาหลายวันแล้ว ดื่มเพียงน้ำที่เขาตักดื่มจากลำธารในป่าเท่านั้น เขาเดินมาถึงเรือนหลังใหญ่โอ่อ่าหลังหนึ่งหน้าเรือนนั้นมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งเขารู้สึกเหนื่อยและเพลียจึงนั่งพักอยุ่ใต้ต้นไม้นั้นและเผลอหลับไป นานเท่าไรไม่รู้ เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียใครคนหนึ่งสะกิดปลุกเรียกเขา
“เจ้าคนจร หิวหรือไม่?...เข้าไปข้างในเรือนของข้าก่อนเพลานี้ฝนใกล้จะตกลงมาแล้ว ข้าจักให้บ่าวรับใช้ของข้าหาอะไรให้เจ้ากินเสียก่อน...หากฝนหยุดแล้วเจ้าค่อยไป หรืออยากจะช่วยทำงานที่เรือนของข้า ค่อยว่ากันอีกทีจะได้ไม่ต้องเร่ร่อนไปที่ไหนอีก”
“ ข้าน้อย ซาบซึ้งใจยิ่งนักขอรับ ท่านเป็นคนดีจริงความดีของท่านจะทำให้ท่านมีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นแต่ข้าคงอยู่ด้วยกับท่านไม่ได้”
“แล้วแต่ความสมัคใจของเจ้าก็แล้วกัน”
ชายชราเจ้าของเรือนพาคนจรที่แต่งตัวมอซอมอมแมมอาภรขาดรุ่งริ่งเข้ามาในเรือนของเขา หญิงสาวอายุราวๆ 17-18ปีวิ่งหน้าตาตื่นมารับ ชายเจ้าของเรือน
“ท่านพ่อกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ข้าคิดถึงท่านเหลือเกินมีของแปลกๆมาฝากข้าบ้างหรือเปล่าเจ้าคะ?”
“ที่เจ้ารีบร้อนมาหาข้าเพียงเพื่อจะมาทวงของฝากเท่านั้นสินะ ข้ารู้ทันเจ้าหรอก จ้าวเยี่ยนฟาง”
หญิงสาวได้แอบสังเกตุเห็นชายเร่ร่อนเนื้อตัวมอมแมมผู้นี้แล้วนึกสงสารเขา จ้าวเยี่ยนฟาง ได้เอ่ยถามชายชราผู้เป็นบิดาว่า
“คนจรผู้นี้ท่านพ่อพาเขามาเป็นบ่าวอีกแล้วหรือเจ้าคะ?”
“ใช่แต่...”
ชายเร่ร่อนเมื่อเห็นบุตรสาวของชายเจ้าของเรือนเขารู้สึกถูกชะตาและหลงรักนางตั้งแต่แรกเห็น เทพดอกไม้ที่ได้เจอเทพ และเซียนที่สวยงดงามมาตั้งมากมายแต่เขาไม่เคยเห็นความสดใสจากนางผู้ใดเลย จ้าวเยี่ยนฟางนอกจากสวยน่ารักแล้วนางยังมีความสดใสและร่าเริงจนทำให้หัวใจของเทพดอกไม้ที่บำเพ็ญเพียรมานับร้อยปีสั่นไหว จนลืมหน้าที่...ที่ท่านมหาเทพใด้มอบหมายให้เขา เทพดอกไม้ขออยู่ด้วยกันกับชายเจ้าของเรือน เขาเป็นมหาเศรษฐีระดับต้นๆของแคว้นถัง
“จ้าวเยี่ยนฟาง เจ้าพาเจ้าคนจรนี้ไปชำระกายแล้วหาอาภรมาให้เขาเปลี่ยนด้วย”
“ท่านพ่อข้าเป็นหญิงนะเจ้าคะจะให้เป็นหน้าที่ข้าได้เยี่ยงไร?”
“ข้าไม่ได้หมายความให้เจ้าทำแต่ให้เจ้าไปบอกบ่าวที่ เรือนบ่าวนั้นแล้วพวกนั้นจะจัดการเอง”
จ้าวเยี่ยนฟางพาคนจรไปส่งที่เรือนบ่าวแล้วก็รีบกลับเรือนของนางเพราะหวังว่าบิดาของนางคงมีของแปลกๆจากต่างเมืองนำมาฝากเหมือนทุกครั้งเป็นแน่
“สิ่งนี้คือกระไรเจ้าคะท่านพ่อ ทำไมมันเป็นยาวๆเป็นอาวุธหรือเจ้าคะ?”
“สิ่งนี้เรียกว่ากล้องส่องทางไกล ได้มาจากพ่อค้าต่างชาติเจ้าผมทองดั้งขอนั่นตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ หากเจ้าได้เห็นเจ้าจะตกใจ เพราะร่างของมันใหญ่นัก”
“แล้วคนผู้นั้นเป็นคนหรือเปล่าเจ้าคะ?”
“ก็เป็นคนน่ะสิ”
“ข้าขอได้หรือไม่เจ้าคะกล้องส่องทางไกลอันนี้?”
“ได้สิ”
จ้าวเยี่ยนฟางตื่นเต้นกับของเล่นสิ่งใหม่ที่บิดานำมาฝากนางถือไปเล่นอยู่ท้ายสวนหลังบ้านซึ่งมีลำธารเล็กๆอยู่เป็นที่ที่จ้าวเยี่ยนฟางแอบไปนั่งเล่นบ่อยๆ กล้องส่องทางไกลสามารถดึงเข้าออกขยายระยะให้มองเห็นได้ไกลและใกล้เมื่อเราดึงชักเข้าและออก พลันสายตาของจ้าวเยี่ยนฟางได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังชำระกายอยู่ที่ลำธาร ชายหนุ่มผู้ที่มีผิวพรรณดุจหิมะ ขาวเนียนใสน่าสัมผัส ใบหน้าขาวเรียวงามคมสัน ดวงตาจิ้งจอก คิ้วกระบี่ ริมฝีปากเรียวหยักได้รูป แดงฉ่ำดั่งทาเสริมด้วยชาด จ้าวเยี่ยนฟาง ที่เคยติดตามบิดาไปทั่วแทบทุกแคว้นแต่ไม่เคยเห็นชายใดงดงามมากมายขนาดนี้มาก่อนหัวใจของหญิงสาว เต้นระรัวเมื่อเห็นบางอย่างภายใต้ผ้าซับในชายผืนบางที่แนบเนื้อเพราะเปียกน้ำ สิ่งนั้นยาวใหญ่ห้อยโตงเตง มันกระเพื่อมตามแรงขยับกายของเขา
“สิ่งนั้นมันคือกระไร ทำไมมันทำให้หัวใจข้าเร่าร้อนถึงเพียงนี้ น่าอายยิ่งนัก หากท่านพ่อรู้ว่าข้ามาแอบดูชายหนุ่มชำระกายมีหวังข้าโดนโบยเป็นแน่แท้”
จ้าวเยี่ยนฟางตัดใจหันหลังเดินกลับเรือนไปโดยที่ไม่รู้ว่าเขาผู้นั้นเป็นผู้ใด แต่หัวใจก็ยังคงเต้นสั่นไหวทุกครั้งที่นึกถึงเขาผู้นั้น ชายคนจรเมื่อชำระกายเสร้จแล้วเขาก็ได้เปลี่ยนอาภรที่บ่าวในเรือนของท่านมหาเศรษฐี จ้าวเฟยฮุ่ย นำมาให้ ท่านมหาเศรษฐีรียกเขาเข้าพบเพื่อที่จะมอบหมายงานให้กับเขา เมื่อท่านมหาเศรษฐีเห็นหน้าเขาในตอนที่ได้ชำระกายสะอาดหมดจดแล้วเขาตัดสินใจที่จะพาคนจรผู้นี้เดินทางไปกับเขาด้วย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจะทำให้การค้าของเขาดูน่าเชื่อถือขึ้น
“หากเจ้าได้สวมชุดผ้าไหมราคาแพงเจ้าจะดูเหมือนคนมีฐานะ มียศมีศักดิ์ เจ้าต้องไปทำงานกับข้าเป็นมือขวาของข้า”
“ได้ขอรับข้าน้อยจะทำตามรับสั่งของท่านผู้มีพระคุณ”
คนจรได้เดินทางไปช่วยงานของท่านมหาเศรษฐี เพราะว่าเขาเป็นเทพเห็นทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกมนุษย์เขาจึงมีความรู้และชาญฉลาด สามารถช่วยงานท่านมาหาเศรษฐีได้เป็นอย่างดีเกินความคาดหมาย ค้าขายได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ท่านมหาเศรษฐี ผู้ตั้งมั่นในความดีไม่เคยเอารัดเอาเปลียบผู้ใด แต่เพราะความดีและเป็นพ่อค้าจึงมีคู่แข่งมากมายหมายจะรอบทำร้ายเขาอยู่เรื่อย
ชายคนจรช่วยให้เขารอดพ้นจากการรอบทำร้ายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้ท่านมหาเศรษฐีเดินทางไปทำการค้าที่แคว้น ฉี หลายเดือน จนถึงเวลากลับเรือน เหมือนทุกครั้ง จ้าวเยี่ยนฟางวิ่งออกมารับผู้เป็นบิดา ชายหนุ่มที่เดินตามหลัง ผู้นั้นทำให้หัวใจของจ้าวเยี่ยนฟางเต้นระรัว จนของที่ถืออยู่ในมือหล่นลงมา สายตาที่จับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา ชายผู้นั้นที่นางเคยเห็นที่ลำธาร พลันเห็นหน้าใคร่นึกถึงอวัยวะแก่นกายของเขา จ้าวเยี่ยนฟางหน้าแดงก่ำดั่งลูกท้อ
“ฟางหรู...เจ้ากลับไปเรือนของเจ้าเหนื่อยกับข้ามามากแล้วพักผ่อนเสีย จ้าวเยี่ยนฟางอย่าได้ให้ผู้ใดรบกวน ฟางหรูเป็นเด็ดขาด เจ้าคนจรนั่นช่วยชีวิตข้าและช่วยงานข้าตั้งมากมายคงเหนื่อยน่าดู”
ฟางหรู ชื่อที่ท่านมหาเศรษฐีตั้งให้เพราะตลอดเวลาที่เขาได้ใกล้ชิดกันท่านมหาเศรษฐีได้กลิ่นกายของเขาหอมละมุนดั่งเครื่องหอมประทินผิว ทั้งๆที่ไม่ได้ปะพรมเครื่องหอมแต่อย่างใด บ่าวรับใช้ที่เป็นผู้หญิงต่างหลงไหล ฟางหรู อยากพลีกายให้เขาได้เชยชมสักครั้ง จ้าวเยี่ยนฟางทนคิดถึงใบหน้าคมคายของเขาไม่ไหว ในค่ำคืนวันนั้นนางได้แอบเจาะฝาเรือนที่เขานอนอยู่ แอบมองรอดช่องเข้าไปเห็นเขานอนหลับอยู่
“ทำไมหัวใจข้าเต้นแรงอีกแล้วทุกครั้งที่มองหน้าเขา อยากเข้าไปสัมผัสเขาเหลือเกิน น่าอายจัง แต่ว่าเขาหลับอยู่ถ้าได้สัมผัสตรงนั้นสักครั้งคงไม่เป็นไร”
จ้าวเยี่ยนฟางแอบเปิดประตูเรือนเข้าไปอย่างเงียบกริบ ฟางหรูที่หลับสนิทไม่รู้ถึงภัยที่อยู่ตรงหน้าเลย เขาเหนื่อยล้าจากการเดินทาง หญิงสาวมุ่งหมายจะสัมผัสแท่งเนื้อใต้อาภรของเขา นางค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัส มันนุ่มนิ่มมือ น่ารักและน่าหลงไหล ดั่งเจ้านั่นมีชีวิตมันผงกหัวขึ้นมา ช่างน่าอัสจรรย์ หญิงสาวรู้สึกถึงความแปลกใหม่ที่ได้รับ ยังไม่ทันจะชักมือกลับ ชายหนุ่มก็ได้ตื่นขึ้นมา
“คุณหนูจ้าว...มาทำกระไรที่เรือนของข้า?...ท่านทำให้สิ่งนี้มันตื่นตัวขึ้นมาท่านจะรับผิดชอบอย่างไร