“ใช่เย็นนี้ก็นัดทานข้าวกัน”
“ได้ข่าวว่าว่าที่แม่สามีปลื้มนักปลื้มหนา อยากจะให้เป็นลูกสะใภ้ คราวนี้คงสมหวังเธอนะโย”
“แน่นอนอยู่แล้ว คุณหญิงป้าเค้าปลื้มฉันจะตาย เก็บตำแหน่งนี้ไว้ให้ฉันคนเดียว”
“แล้วว่าที่สามีของเธอล่ะ ปลื้มเธอหรือเปล่า”
“รายนั้นน่ะชัวร์อยู่แล้ว มาหาฉันที่คอนโดแทบทุกวันเลยล่ะ” โยธกาพูดยิ้มๆ
“มินาล่ะชวนไปท่องเที่ยวยามราตรีทีไร ปฏิเสธทุกที”
“รู้แล้วทีหลังไม่ต้องชวน ถ้าว่างแล้วฉันจะชวนเอง”
“จ้ะเพื่อนรักไปกันเถอะ” สองสาวเดินห่างเคาน์เตอร์ด้านหน้าไปทันทีที่หยาดน้ำค้างคืนบัตรสมาชิกให้ หยาดน้ำค้างนึกถึงเรื่องของตนขึ้นมาทันที หลังจากที่ได้ยินการสนทนาของสองสาวสมาชิกวีไอพี ช่างคล้ายคลึงกับตัวเธอยิ่งนัก วันนี้มารดาของเหมันต์เดินทางกลับมาจากลำปาง และเย็นนี้คนรักก็จะไปรับประทานอาหารกับมารดา คงจะดีไม่น้อยถ้าเขาจะพาเธอไปด้วยในฐานะของว่าที่ลูกสะใภ้ คิดอีกทางแม่ลูกคงอยากคุยกันตามลำพังมากกว่า หารู้ไม่ว่าเหมันต์ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย นอกจากเรื่องที่ดินของเธอ
ห้องอาหารสุดหรูเลิศบนชั้น 52 ของโรงแรมชื่อดัง คือสถานที่รับประทานอาหารของครอบครัวเหมันต์และครอบครัวของโยธกา การรับประทานอาหารเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นกันเอง เนื่องจากทั้งสองครอบครัวคบหากันมานานและเกี่ยวดองทางด้านธุรกิจอีกด้วย
“คุณพี่จะเดินทางกลับไปลำปางเมื่อไหร่คะ” คุณหญิงยุพินมารดาของโยธกาเอ่ยถาม หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“กะว่าจะอยู่ที่นี่อีกสักหนึ่งอาทิตย์ค่ะ จะจัดการเรื่องบางอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน” คุณหญิงบุหงาพูดเป็นนัย ครอบครัวของโยธกาจึงมองหน้ากันทันทีเหมือนจะรู้
“เรื่องอะไรคะคุณพี่ บอกคุณน้องได้หรือเปล่าคะ” ยุพินถามสวน
“ที่นัดคุณน้องกับคุณภิญโญมาวันนี้ ก็จะมาพูดเรื่องนี้แหละค่ะ คือว่าตอนนี้หนึ่งลูกชายของดิฉันก็อายุ 34 ปีแล้ว น่าจะหาคู่ครองได้สักที ไม่ใช่ลอยชายไปวันๆ และผู้หญิงที่ดิฉันหมายตาไว้ก็คือหนูโยนี่แหละค่ะ” ครอบครัวของฝ่ายหญิงยิ้มหน้าบานทันที ต่างกับเหมันต์ที่ทำหน้านิ่งไม่ทุกข์ร้อน
“คุณพี่ก็ พูดอย่างนี้ลูกสาวของคุณน้องเขินหมดค่ะ”
“ว่าแต่จะตกลงหรือเปล่าคะ”
“ถ้าคุณพี่เอ็นดูลูกโยถึงขนาดนี้ คุณน้องก็ไม่ขัดข้องค่ะ”
“ตกลงตามนี้นะคะ แล้วดิฉันจะหาฤกษ์หายามวันหมั้นอีกที ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้นทางคุณน้องจะเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามาได้เลยค่ะ” บุหงาชี้ช่องให้สองสามีภรรยาหน้าเลือดเรียกสินสอดได้ตามใจชอบ มีหรือยุพินกับภิญโญจะไม่สนองตอบ
“แล้วคุณน้องจะแจ้งให้คุณพี่ทราบนะคะ”
“ค่ะคุณน้อง” การพูดคุยเรื่องนี้ต่อเนื่องไปอีกประมาณยี่สิบนาที ทั้งสองครอบครัวจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางที่รถยนต์ของเหมันต์เคลื่อนตัว การสนทนาระหว่างแม่กับลูกจึงเกิดขึ้น
“ดูท่าทางหนึ่งมีเรื่องอะไรในใจนะ” ผู้เป็นแม่เปิดฉากถามก่อน
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยครับ” ความคิดของเขาตอนนี้ลอยไปไกลถึงหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ต่างหาก
“แม่ถามจริงๆ เถอะ ลูกมั่นใจแค่ไหนว่าคุณภิญโญกับยุพินโกงเงินบริษัทของเรา”
“ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับผมให้คนไปสืบมาแล้วครับ ทุกอย่างเป็นอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้” เหมันต์เป็นคนวางแผนการให้มารดาเดินทางกลับมาที่กรุงเทพ ให้ทำทีเป็นสู่ขอโยธกามาเป็นลูกสะใภ้ เพื่อแผนการที่วางไว้ของเขาจะได้สำเร็จลุล่วง หลอกให้อีกฝ่ายตายใจ ความลับที่สองสามีภรรยาทำไว้จะได้คายออกมา
“แล้วแผนนี้จะได้ผลเหรอลูกแล้วหนึ่งบอกเรื่องนี้ให้หนูสิรู้เรื่องหรือยัง” หนูสิคือสิวินีย์คู่รักตัวจริงของเหมันต์ที่กำลังจะเดินทางกลับมาจากต่างประเทศในสัปดาห์หน้า
“รู้ครับผมบอกสิทุกเรื่อง” ใช่เขาบอกสิวินีย์เรื่องที่เขาคบหากับโยธกาและมีความสัมพันธ์ทางกายด้วยกัน เพราะว่าเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขารู้ตื้นลึกหนาบางของครอบครัวนี้ ซึ่งสิวินีย์เข้าใจดีทุกอย่าง แต่มีอีกเรื่องที่เขาไม่ได้บอกคือเรื่องของหยาดน้ำค้าง
“ดีแล้วล่ะลูก แม่ไม่อยากให้หนึ่งมีปัญหากับหนูสิถ้าเรื่องนี้เรียบร้อย แม่ว่าเราสมควรจะแต่งงานกับหนูสิได้แล้วนะลูก คบกันมาตั้งหลายปีแล้ว แม่อยากมีหลานเร็วๆ” คำพูดของมารดาทำให้เขานิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ก่อนเขาเคยคิดว่าผู้หญิงที่คู่ควรกับเขามากที่สุดคือสิวินีย์ เขารักและเฝ้าถนอมเธอราวกับเทพธิดาน้อย ไม่เคยล่วงเกินมากไปกว่าหอมแก้มเลยสักครั้ง เพราะจะเก็บสิ่งที่มีค่าไว้ในคืนแต่งงาน ณ ตอนนี้ความคิดของเขาเริ่มไขว้เขว เริ่มไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง ไม่แน่ใจว่าหัวใจของเขานั้นมีใครเข้ามาแซมอยู่ แม้ว่าจะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม
“ผมรู้ครับ” เขาตอบมารดาออกไปในที่สุด คนที่จะมาเป็นภรรยาและเป็นแม่ของลูก จะต้องมีนามว่าสิวินีย์เท่านั้น หญิงอื่นที่เข้ามาในชีวิตเป็นเพียงเศษธุลีที่ไร้ค่าทั้งสิ้น
ชายหนุ่มวัยสามสิบสามปีเดินมาหยุดที่หน้าบ้านของหยาดน้ำค้าง ในมือถือกระดาษแผ่นหนึ่ง เนื้อความในกระดาษคือเลขที่บ้านของน้องสาวลูกพี่ลูกน้อง เตชินกดกริ่งหน้าบ้านส่งสัญญาณเตือนให้บุคคลที่อยู่ในบ้านรู้ว่า มีแขกผู้มาเยือน
หยาดน้ำค้างเดินออกมาที่ประตูรั้วหน้าบ้าน หลังจากที่ได้ยินเสียงสัญญาณกริ่งดังสองครั้ง วินาทีแรกที่รู้ว่าบุคคลที่มาเยือนคือใคร เรียกรอยยิ้มให้กับเธอเต็มใบหน้า วิ่งไปเปิดประตูรั้วบ้านทันที
“พี่ชินมาได้ยังไงคะเนี่ยแล้วรู้ที่อยู่ของน้ำค้างได้ยังไงคะ” หยาดน้ำค้างยิงคำถามใส่หลายคำถาม
“แทนที่จะเชิญพี่เข้าบ้านก่อนนะ ยุงกัดหลายตัวแล้วนะเนี่ย” อีกฝ่ายเย้ากลับ เธอจึงจูงมือลูกพี่ลูกน้องหนุ่มเข้าไปในบ้านทันที