บทที่ 6
พ่อเลี้ยงพิรุณเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นบุตรสาวของตนเองนั่งหน้าเศร้าอยู่เพียงลำพัง เขาจึงไล่อีหนูข้างกายให้ไปรอที่บนห้องนอน และเดินเข้าไปหาบุตรสาว
“วันนี้ไม่ออกไปเที่ยวเล่นไหนหรือหยง”
เจ้าของชื่อรีบป้ายน้ำตาทิ้งด้วยหลังมือ ก่อนจะหันมาฝืนยิ้มให้บิดา
“เอ่อ... วันนี้หยงเบื่อๆ น่ะค่ะ เลยไม่อยากออกไปไหน”
ผู้เป็นพ่อเห็นอาการของบุตรสาวก็อดแค้นใจ หัสบรรณไม่ได้ และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตันหยงถึงไปลุ่มหลงไอ้ผู้ชายคนนั่นนักหนา ไม่เห็นมีอะไรดีเลยก็แค่หล่อ พ่อเลี้ยงพิรุณคิดด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็พยายามไม่แสดงให้บุตรสาวรู้
“ไม่ไปไหนก็ดีแล้วหยง วันนี้พ่อมีหนุ่มมาให้หยงเลือกด้วยแหละ หล่อนะ นักเรียนนอก สเปกหยงเลย”
“อีกแล้วเหรอคะพ่อ” ตันหยงพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย พลางผุดลุกขึ้นยืน
“อ้าว... ทำไมล่ะ ก็หยงบอกเองนะว่าถ้าพ่อสามารถหาคนที่หยงพอใจมาให้หยงได้ หยงจะเลิกรักไอ้หัสบรรณนั่น”
เด็กสาวมองบิดาและก็แทบไม่เชื่อว่าบิดาจะยังจำได้ เพราะหล่อนเองยังเกือบจะลืมไปแล้วเลย
“พ่อน่ะ หยงก็แค่พูดประชดออกไปเท่านั้นเอง หยงไม่อยากได้ใครหรอก หัวใจของหยงมีแต่พี่หัสคนเดียว หยงรักของหยงมาตั้งแต่เล็ก หยงไม่มีวันยอมปล่อยมือจากพี่หัสหรอก พ่อคอยดูสิ”
คนฟังถอนใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่าย
“แล้วมันมองหยงไหม มันเคยพูดดีๆ กับหยงไหม”
คำพูดของบิดาทำให้ตันหยงตาแดงก่ำหน้าตาแทบไหล “แต่ว่าหยง...”
“เชื่อพ่อนะหยง เปิดหูเปิดตาซะ ไม่ต้องไปจดจำมันหรอกไอ้ปั๊ปปี้เลิฟบ้าบออะไรนั่นน่ะ เดี๋ยวเปิดเทอมพ่อจะส่งหยงไปเรียนต่อที่อังกฤษ หยงจะได้ลืมมันสักที”
“หยงไม่ไป หยงบอกพ่อแล้วไงว่าไม่ไป”
“แต่หยงต้องไป ต้องไปให้พ้นจากไอ้หัสบรรณ พ่อไม่มีทางบากหน้าไปขอมันเป็นครั้งที่ห้าให้อับอายอีกแล้ว”
ตันหยงน้ำตาไหล กำมือแน่น “ถ้าพ่อบังคับหยง หยงจะหนีออกจากบ้าน”
พ่อเลี้ยงพิรุณจ้องหน้าบุตรสาว บอกให้รู้ว่าคราวนี้เขาเอาจริงแค่ไหน
“พ่อตามใจหยงมามากแล้ว คราวนี้ถึงเวลาหยงตามใจพ่อบ้าง”
แล้วผู้เป็นพ่อก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ตันหยงยืนมองตามไปทั้งน้ำตา
“พ่อใจร้าย พ่อใจร้าย...!”
เด็กสาวตะโกนตามหลังบิดาไป ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในไร่ พ่อเลี้ยงพิรุณหยุดเดิน และหมุนตัวกลับมามองแผ่นหลังเล็กๆ ของบุตรสาวที่ค่อยๆ ห่างไกลไปทีละนิดด้วยความหนักใจ จากนั้นจึงเรียกลูกน้องของตัวเองให้มารับคำสั่ง
“ตามคุณหยงไป อย่าให้คุณหยงคลาดสายตาเด็ดขาด”
“ครับพ่อเลี้ยง”
ลูกน้องคนสนิทวิ่งตามตันหยงไปแล้ว ในขณะที่พ่อเลี้ยงพิรุณเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ ทำไมนะสวรรค์ถึงต้องกลั่นแกล้งเขาแบบนี้ด้วย ก็รู้ไม่ใช่หรือว่าไร่องุ่นยิ่งใหญ่ของเขาจะไม่มีทางญาติดีกับไร่ของไอ้อดิสร แต่ทำไมลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวถึงไปหลงรักไอ้ หัสบรรณหัวปักหัวปำแบบนี้
พ่อเลี้ยงพิรุณถอนใจออกมาซ้ำๆ หลายครั้งก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้าน
ญาดามินทร์ไม่ได้เข้าไปในห้องประชุมกับอดิสรและหัสบรรณเพราะรู้ตัวว่าเป็นคนนอก หล่อนนั่งรอยู่ด้านนอกอยู่นานเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว กว่าที่ทั้งสองคนจะก้าวออกมาจากห้องประชุมตรงหน้า
“เป็นยังไงบ้างคะคุณลุง พี่หัส”
หญิงสาวลุกขึ้นและรีบปรี่เข้าไปถามด้วยความยินดี แต่สีหน้าของทั้งสองคนทำไมมันต่างจากสิ่งที่หล่อนคิดเอาไว้ลิบลับนักนะ
“เอ่อ... มีอะไรหรือเปล่า”
หัสบรรณกับอดิสรสบตากันนิ่งอยู่อึดใจก่อนที่ หัสบรรณจะเป็นฝ่ายพูดออกมา
“ธนาคารไม่เปิดโอดีให้กับไร่ของเราเพิ่มอีก”
“ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะคะ”
หญิงสาวอุทานด้วยด้วยประหลาดใจ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เจอรัลด์เดินออกมาจากห้องประชุมพอดี
เสมือนถูกสูบลงไปในขุมนรก เสมือนพลัดหลงเข้าไปในวังวนของสนามไฟฟ้าแรงสูง แข้งขาของหล่อนอ่อนแรง และพานจะล้ม จำต้องคว้าท่อนแขนของหัสบรรณเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง
เขา... เจอรัลด์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เขา... เขามาอยู่ตรงหน้าของหล่อนได้ยังไง เขาอยู่โมร็อกโกไม่ใช่หรือ หรือว่าหล่อนฝัน... หญิงสาวถามตัวเองอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในอก ขณะหลับตาลงและลืมขึ้นใหม่หลายต่อหลายครั้ง แต่เจอรัลด์ก็ยังอยู่ในสายตาเช่นเดิม เป็นเขาจริงๆ เป็นเจอรัลด์ผู้ชายที่หล่อนกำลังวิ่งหนีอยู่จริงๆ
หล่อนจำเขาได้ จำได้ไม่เคยลืม แต่ท่าทางของเขา... แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่มีหล่อนอยู่ในสายตา เขามองเลยผ่านหล่อนไป ทำเหมือนไม่เคยรู้จักกับหล่อนมาก่อน ทำไมนะ ทำไมท่าทางไม่แยแสของเจอรัลด์ถึงทำให้หล่อนเจ็บจนแทบจะกระอักเลือดออกมาแบบนี้
“เป็นอะไรหรือเปล่าญาดา... ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะครับ หรือว่าจะเป็นลม”
หัสบรรณถามอย่างเป็นห่วง และช่วยประคองร่างของหล่อนเอาไว้
“ปละ เปล่าค่ะ...”
หล่อนตอบหัสบรรณแต่สายตากลับจ้องมองผู้ชายที่หล่อเหลาปานเทพแต่หัวใจมืดดำประดุจมัจจุราชไม่วางตา แต่เขาไม่ชายตาแลหล่อนแม้แต่นิดเดียว
“เจอรัลด์...” หญิงสาวมองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจ หัวใจเจ็บปวดรุนแรง
“นี่หนูญาดารู้จักชื่อของผู้จัดการคนใหม่ด้วยหรือ”
อดิสรได้ยินสิ่งที่ญาดามินทร์อุทานออกมาก็อดถามไม่ได้
“เอ่อ คือ...” หญิงสาวอึกอักและก็เลือกที่จะไม่ตอบอะไรออกไป
อดิสรกับหัสบรรณมองสบตากัน
“งั้นเรากลับกันดีกว่าครับ”
แม้ร่างกายจะถูกหัสบรรณประคองให้เดินออกไปแล้ว แต่ญาดามินทร์ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปมอง หัวใจเหมือนถูกจับถ่วงน้ำอีกครั้ง หล่อนหายใจไม่ออก กำลังจะตาย ความเย็นชาของเขาบีบเค้นหัวใจของหล่อนอย่างไม่ปรานี ทำยังไงนะ ทำยังไงหล่อนถึงจะเลิกรักผู้ชายใจร้ายคนนี้ได้ หล่อนต้องทำยังไงกัน