ตอนที่ 5
ลันตาลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันแล้ว ให้ตายสิ! เธอหลับเป็นตายขนาดนี้ได้ยังไงกัน ดวงตาหวานมองหาเพื่อนรักที่นอนด้วยกันแต่ก็ไม่เจอเสียแล้ว ร่างบางเดินไปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จจึงเดินลงมาข้างล่าง พบป้านวลกำลังเตรียมอาหารกลางวันอยู่พอดี
“ตื่นแล้วเหรอลูก ป้าไม่อยากขึ้นไปปลุกเพราะเมื่อคืนคงกลับกันดึกกันใช่มั้ยจ๊ะ” ป้านวลอมยิ้มเอ่ยทักหญิงสาวที่เพิ่งลงมา
“เอ่อ...ค่ะป้า แล้วณดากับพี่พัทรไปไหนกันเหรอคะ”
“หนูณดาอยู่เรือนกล้วยไม้ ส่วนพัทรออกไปกับเพื่อนตั้งแต่เช้าแล้วจ้ะ”
“ป้านวลจ๋า ณดาหิ๊วหิวค่ะ เราจะทำอะไรกินดีคะ” เสียงสดใสของณดาที่กำลังเดินเข้ามาในห้องครัวพอดีเรียกถามป้านวล
“อ้าว ลันตื่นแล้วเหรอ เมื่อคืนเห็นแกนอนไม่ค่อยหลับฉันก็เลยไม่ปลุกน่ะ”
“จ้า ขอบใจจ้ะคุณเพื่อน”
“ป้าทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ทานกันเลยมั้ย” ป้านวลเอ่ยยิ้มกว้างให้สองสาวเพื่อนรัก
“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูช่วยนะคะ” ร่างบางกับร่างเล็กไซต์มินิเดินเข้าไปหาคุณป้าเพื่อช่วยเตรียมอาหารให้เสร็จเร็วขึ้น
“แล้วพี่พัทรละณดา”
“ช่างไอ้พี่พัทรเถอะลัน อีกนานกว่าจะกลับ”
สามคนป้าหลานทานอาหารเสร็จ ณดาจึงชวนลันตาออกไปช็อปปิ้งก่อนกลับเมืองไทยกว่าจะกลับถึงบ้านฟ้าก็เกือบมืดแล้ว
ตกเย็น....
ลันตาออกมาเดินเล่นที่เรือนกล้วยไม้ เรียวขาสวยก้าวผ่านพุ่มไม้ใหญ่โดยไม่ได้สังเกตเห็นเงาดำทะมึนที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้นั่น
“ไง คนสวย....ลันตา มาโดร่า เซเกนต์”
ร่างบางหันไปตามเสียงก่อนจะตกใจเพราะเจอร่างสูงใหญ่ของผู้ชายที่ฉวยโอกาสเธอเมื่อคืนเดินมาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ไม่รู้ได้
จากการได้ลิ้มลองสัมผัสคนตัวเล็กเพียงนิดก็ทำให้เขาติดใจอยากจะรุกล้ำเธอมากขึ้น การจะเข้าใกล้เธออีก มันช่างง่ายดายมากกว่าปลอกกล้วยเข้าปากเสียอีก
“คุณ!! เข้ามาที่นี่ได้ยังไง แล้วชื่อนั้น...”
เขารู้ชื่อนั้นของเธอได้ยังไงกัน เขามาหาเธออีกทำไม เมื่อคือก็ฉวยโอกาสจูบแรกเธอไปแล้ว ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยโดนใครแตะเนื้อต้องตัวขนาดนี้มาก่อน
“เดินเข้ามาสิ ถามได้”
ร่างสูงใหญ่ก้าวขยับเข้ามาใกล้ตัวร่างบางมากขึ้น ตอบคำถามหญิงสาวหน้าตายเธออยากจะต่อยหน้าสักทีสองทีถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นเจ้านาย
“ไอ้บ้า ออกไปนะ...”
“เรียกดีๆ นะ และเธอไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉัน”
เซนต์คว้าแขนขาวเนียนให้ประชิดตัว ท่อนแขนแข็งแกร่งกอดรัดเอวคอดกิ่วนุ่มนิ่มไว้แน่น มือเล็กพยายามดันแผงออกแกร่งให้ขยับออก
“ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์ ที่นี่เป็นบ้านของฉัน”
“แน่ใจเหรอ ว่าเป็นบ้านเธอ”
คนตัวโตก้มใบหน้าหล่อร้ายลงมาเอียงคอถามอย่างน่าหมั่นไส้ ร่างบางรู้สึกถึงลมหายใจร้อนของเขา ทำให้เธอต้องก้มหน้าลงไม่อยากสบตาคนตรงหน้า กลิ่นประจำตัวหอมสะอาดบวกน้ำหอมราคาแพงทำให้เธอสูญเสียความเป็นตัวเอง
“ค..คุณหมายความว่ายังไง....” คนตัวเล็กทำใจดีสู้เสือเงยหน้าขึ้นสู้เอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างติดขัด นี่เธอเป็นอะไรเนี่ยลันตา!!
อึกก!
ร่างสูงของเซนต์ดันหญิงสาวติดกระจกหนาเรือนกล้วยไม้ มือหนารั้งต้นคอร่างบางขึ้นกระแทกริมฝีปากลงใส่คนตรงหน้าอย่างรุนแรงแต่โดนปิดทางซะหมด มือที่ว่างลูบไล้สะโพกอวบบีบขยำอย่างหนักหน่วงก่อนจะขึ้นมารวบเต้าอวบอิ่มที่ดูจะใหญ่เกินตัวเจ้าหล่อนผ่านเนื้อผ้า
“อ้ะ!...”
ร่างบางปิดปากร้องเพราะมือร้อนของคนตัวโตสัมผัสเนินเนื้อของเธอมากเกินขอบเขต ไม่รอช้าลิ้นหนาดึงดันตวัดดูดความหวานในโพรงปากเล็กอย่างช่ำชอง
“อืมม หวานมาก...”
มือหนาเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อบางออกเผยให้เห็นเนินหน้าอกหน้าใจเต็มตา ผละริมฝีปากออกพุ่งมาที่เต้าอวบอูมที่โผล่พ้นออกมาจากบราลูกไม้ทันที
“อื้ออ คุณ ปล่อยนะ”
ปากบางโดนปล่อยเป็นอิสระร้องทักท้วงคนตัวสูงกำลังวุ่นวายกับหน้าอกใหญ่ของเธอ มือเล็กกำปั้นทุบแผ่นหลังหนาแข็งแรงแต่ก็ไม่ทำให้เขารู้สึกเจ็บสักนิด
“ลัน อยู่ไหนนะ....”
ร่างกำยำถอนหายใจฟึดฟัดเมื่อได้ยินเสียงขัดจังหวะ เงยหน้าขึ้นสบตาคนตัวเล็กที่ตกใจตาโตดิ้นออกจากอ้อมแขนแกร่ง
เซนต์ผละออกจากหญิงสาวอย่างเสียดาย ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าใครที่นี่จะเจอเขาเลย
“ลันอยู่นี่ค่ะป้า” ลันตารีบจัดแต่งผมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเป็นปกติเหมือนเดิม
ป้านวลที่เดินมาตามลันตาเห็นผู้ชายที่เพิ่งเดินออกไปนึกตกใจ ลูกชายคนเดียวของท่านเครสเซน อดีตประธานบริษัทที่เคยทำงานด้วย คุณเซนต์เขามาทำอะไรที่นี่กัน....
“เป็นอะไรหรือเปล่า แล้วคุณเขามาทำอะไร”
“ไม่มีอะไรค่ะป้านวล เราไปกันเถอะ” ป้านวลนึกสงสัยแต่เก็บไว้ข้างในแล้วเดินไปพร้อมกับหลานสาว
คืนนี้ร่างบางนอนไม่หลับอีกเช่นเคย เอาแต่คิดถึงคำพูดของเซนต์กับการกระทำของเขาเมื่อตอนเย็น
“นอนไม่หลับอีกแล้วเหรอลัน”
“อืม ไม่มีอะไรหรอก แกนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้านะ”
ลันตาพยายามข่มตาให้นอนหลับอ้อมมือขึ้นปิดโคมไฟบนหัวเตียง กระชับผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายให้อบอุ่นขึ้นจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
พรุ่งนี้ณดากับพัทรต้องบินกลับไทยและเป็นวันเปิดภาคเรียนของเธอพอดี เธอเลือกที่จะเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นไว้กับตัวเองเพราะไม่อยากให้ใครคิดมากหรือเป็นห่วงเธออีก
ลันตาไปส่งเพื่อนรักที่สนามบินเสร็จแล้วจึงไปเรียน วันนี้เธอมีเรียนตอนบ่ายจึงไม่รีบเท่าไหร่ เมื่อถึงมหาลัยร่างบางเจอคาเฟ่น่ารักๆ ดึงดูดคนชอบชา กาแฟและขนมหวานแบบเธอจึงแวะเข้าไปสักหน่อย
“อุ๊ย! ว้ายย!”
หญิงสาวก้าวเดินไม่ทันได้มองที่ประตูกำลังเปิดออกชนเธออย่างจัง ทำให้เธอล้มไปกับพื้นแต่โชคดีที่คนเปิดจับแขนเธอไว้ทัน
“ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามหญิงสาวที่โดนประตูชน
“ลัน!/อัลเบิร์ต!” สองคนร้องทักตกใจที่เป็นคนคุ้นเคย
ร่างกำยำของเซนต์นั่งอยู่ในรถสปอร์ตหรูสีดำด้านราคาหลายสิบล้านสายตาคมลึกมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งอย่างอ่านความรู้สึกไม่ออก
วันนี้เขามีประชุมกับท่านอธิการบดีที่มหาลัยแต่ดันเจอยัยตัวดีกับไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ทำให้เขาเกิดอารมณ์เสียขึ้นมาดื้อๆ ชายหนุ่มขับรถออกไปเมื่อถึงห้องทำงานแล้วสั่งลูกน้องคนสนิท
“เรียกลันตา วัฒนกุลมาพบฉันที่ห้องเดี๋ยวนี้!!”
ใครจะมายุ่งกับเธอไม่ได้เด็ดขาด เพราะเธอน่ะ...เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างแข็งกร้าว ไมค์รับคำสั่งเจ้านายไปพบลันตาที่ห้องเรียนแจ้งเรื่องให้ทราบ ตื้อหญิงสาวให้ไปตามคำสั่งแต่ก็ยังไม่เป็นผล
“ฝากบอกเจ้านายคุณด้วยว่าฉันไม่ไปค่ะ ฉันมีเรียน”
“เขามาทำไมเหรอลันตา ฉันจำได้ว่าเขาเป็นบอดี้การ์ดคุณเซนต์”
โรเจอร์หรือโรส เพื่อนใหม่ลันตาร่างกายชายแต่ใจสาวเดินเข้ามาหาเธอแล้วกระซิบถามเบาๆ
“ฉันให้โอกาสเธอพูดอีกครั้ง”
เสียงเรียบเอ่ยขึ้นเดาความรู้สึกไม่ออก เขายกเลิกประชุมกะทันหันเพื่อมาตามเธอที่ดื้อดึงไม่ยอมไปพบเขาตามคำสั่ง
เพื่อนร่วมห้องเดียวกันหญิงสาวตกใจกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มเจ้าของมหาวิทยาลัย ต่างก็ก้มหน้าลงไม่กล้าแม้แต่มอง ร่างสูงของเซนต์เดินเข้ามากระชากแขนเธอจนตัวเธอปลิวไปประชิดตัว
“ไอ้ ไอ้ โอ้ยย...”
“เรียกให้มันดีๆ นะ!!”
เสียงทุ้มลึกกระซิบข้างใบหูเล็กด้วยอารมณ์คุกรุ่นไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งเขา ร่างสูงลากเธอไปที่รถส่วนตัวเขา เปิดประตูรถราคาแพงผลักหญิงสาวเข้าไปในรถปิดประตูเสียงดัง เดินอ้อมมาฝั่งคนขับแล้วบึ่งรถออกไปทันที
“เงียบให้ได้ตลอด” คนตัวโตพูดขึ้นระหว่างที่กำลังขับรถด้วยความเร็วสูง