ตอนที่ 6
ร่างแบบบางยังคงนั่งเงียบ ทำให้คนตัวใหญ่ยิ่งกำลังอารมณ์ร้อนขึ้นไปอีกจนทนไม่ไหว หยุดรถกะทันหันส่งผลให้ศีรษะเธอกระแทกกับคอนโซลรถ หญิงสาวนิ่วหน้าเจ็บแปลบมือบางลูบเบาๆ ตรงที่โดนกระแทก
อึกก!
การกระทำรุนแรง ป่าเถื่อน ทำให้ลันตาหมดความอดทนร้องไห้ออกมา
“ฮึกก ฮืออๆ ...” กำปั้นเล็กๆ ทุบตีลำแขนแกร่งอย่างเหลืออด แต่เขาไม่สะทกสะท้านกับแรงน้อยนิดนี้เลย
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ร่างกำยำจับข้อที่กำลังตุบตีเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว อีกข้างบีบแก้มนุ่มจนแดงเป็นรอยนิ้ว
“ฉันไปทำอะไรให้คุณ ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับฉันห้ะ ฮืออ....”
“หึ เธอไม่ทำแต่พ่อแม่เธอทำ!”
“พวกท่านทำอะไร คุณบอกฉันมาสิ ฉันจะชดใช้ให้ ฮึก ฮืออๆ …”
“ต่อให้เธอชดใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีวันหมดหรอกลันตา”
เซนต์ปล่อยร่างเล็กเป็นอิสระ พูดจบคนตัวโตก็หมุนพวงมาลัยขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ลูกน้องที่ตามมารีบขับรถตามเจ้านายกันจ้าละหวั่น
หญิงสาวได้แต่หลับตานิ่งพยายามทำใจรับกับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่จนเผล็ยหลับไป
3 ชั่วโมงต่อมารถหรูวิ่งด้วยความเร็วสูงถูกขับเข้ามาในพื้นที่ PETROLEUM D. PARK ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ของตระกูลดีลล์ ไปยังสถานที่ที่เขาที่ปลูกสร้างไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว
ปึง!!
เสียงปิดประตูแรงดังขึ้น โดยไม่สนว่ารถราคาแพงจะบุบสลาย ร่างกำยำของเซนต์เดินอ้อมมาเปิดประตูอีกข้าง ลันตาที่เพิ่งรู้สึกตัวเมื่อรถหยุดวิ่งเบิกตากว้างตกใจใบหน้าหล่อร้ายของเซนต์โน้มลงมาหยุดตรงหน้าหวานของเธอ ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นร้อน ร่างบางได้สติรีบผลักแผงอกแกร่งออกดันคนตัวโตให้หลบไป รีบก้าวขาสวยออกจากรถสปอร์ตหรู
ร่างสูงใหญ่ของเซนต์คว้าข้อมือเล็กเดินตามเข้าไปในเพ้นเฮ้าส์ส่วนตัว ใครจะเข้ามาที่นี่ได้ต้องได้รับอนุญาตจากเขาคนเดียวเท่านั้น คนตัวเล็กก้าวขาไม่ทันคนตัวโตที่ก้าวเร็วกว่าล้มพลับลงกับพื้น
“โอ๊ยยย....”
“อ่อยหรือไง...”
เสียงทุ้มลึกเอ่ยขึ้นหลังจากสงบอารมณ์ตัวเองได้สักพัก ดวงตาหวานมองค้อนคนถามอย่างตัดพ้อไม่ตอบโต้อะไรพยายามลุกขึ้นเอง แต่ไม่ทันใจคนตัวโตอุ้มร่างบางขึ้นพาดบ่าด้วยมือเดียว เดินเข้าเลี้ยวเข้าไปในห้องทำงาน
ตุบบบ!
ชายหนุ่มปล่อยหญิงสาวลงพื้นแข็งแต่ยังดีที่มีพรมหนารองรับ ไม่อย่างนั้นข้อศอกเล็กคงถลอกเลือดซิบเป็นแน่ ‘คนเลวว....’ หญิงสาวด่าในใจ
“อยากรู้มากใช่มั้ย นี่ไง...สิ่งที่พ่อแม่เธอทำไว้”
ในเมื่อเธออยากรู้นักเขาก็ไม่ขัด เซนต์หยิบซองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานโยนให้คนตัวเล็กอย่างเย็นชา ลันตาจับมาเปิดดูพบว่ามันคือแฟ้มข้อมูล ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงทรัพย์สินทั้งหมดของพ่อแม่เธอ ตอนนี้สิ่งที่เธอตามหาและอยากรู้มากที่สุดอยู่ในมือเธอแล้ว หยดน้ำตาที่เธอพยายามเก็บกั้นไว้ ไหลรินอาบแก้มใสอย่างห้ามไม่ได้
“ออกไปซะ!....”
เสียงทุ้มหนักแน่นของร่างสูงกำยำเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้หนังแท้ตัวใหญ่ ร่างบางลุกยันตัวขึ้นยืนขาขาวเนียนก้าวเดินออกมาตามคำสั่งเขาแต่โดยดี หน้าห้องทำงานเขา มีบอดี้การ์ดคุ้นหน้าที่เคยไปเรียกเธอถึงห้องเรียนเมื่อตอนกลางวันก้มหน้าให้เล็กน้อย
ร่างแบบบางเดินออกจากเพ้นเฮ้าส์ส่วนตัวของเขา ไปตามถนนยาวที่ลาดผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่มีต้นไม้ประปรายบ้าง คงเพราะเป็นที่ส่วนตัวเลยที่นี่ไม่รถผ่านแม้แต่คันเดียว ใบหน้าหวานชวนมองตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล เธอยังไม่กล้าเปิดอ่านกระดาษพวกนั้นได้แต่ถือกอดไว้
ฮึก ฮืออๆ
“คนใจร้าย!! ชอบทำร้ายคนอื่น...”
ลันตาได้แต่ก่นด่าคนที่เพิ่งไล่ตะเพิดเธอออกมาเบาๆ พลางร้องไห้กอดกระชับความอบอุ่นให้ตัวเอง ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดและอากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ
เมื่อไหร่จะเดินพ้นจากที่นี่นะ....
“บ้าเอ้ย!!” ร่างกำยำยืนขึ้นเต็มความสูงสบถไม่สบอารมณ์ ตั้งแต่ยัยตัวดีของเขาเดินออกไปก็ได้แต่ถอนหายใจไม่เป็นอันทำอะไรสักอย่าง
เอี๊ยดด!!
เสียงเบรกรถกะทันหันที่น่าจะขับด้วยความเร็วสูงมาหยุดตรงที่เธอยืนอยู่ คนที่ขับรถมาเลื่อนเปิดกระจกลง หญิงสาวยืนอึ้งตกใจอีกครั้งกับการปรากฏตัวของเขา เมื่อได้สติขาสวยจึงเริ่มวิ่งออกจากตรงนี้ไป แต่วิ่งได้เพียงไม่กี่ก้าวความเจ็บปวดที่ข้อเท้าเล็กก็แล่นเข้ามา ส่งผลให้ร่างบางวิ่งต่อไม่ได้
“ลันตา ขึ้นมาเดี๋ยวนี้…”
“ไม่! ฉันไม่ไปกับคุณ”
“ฉันบอกให้ขึ้นมา!...” เซนต์ที่ขับรถตามมาออกคำสั่งเสียงเข้ม เธอก็ยังเดินหนีจึงเปิดประตูลงจากรถหรู มุ่งตรงไปอุ้มเธอขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว
ทำไมชอบขัดใจ!!
หญิงสาวจนมุมได้แต่มองร่างกำยำอย่างตัดพ้อ ก่อนจะหลับไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมารถสปอร์ตหรูก็แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านหญิงสาว เธอยังคงหลับลึกไม่รู้สึกตัว ป้านวลที่พึ่งกลับจากตลาดมาพอดี รีบก้าวเท้ายาวเข้ามาหาก่อนจะพาร่างสูงใหญ่ของเซนต์กำลังอุ้มลันตาออกจากรถ มุ่งไปที่ห้องนอนของร่างบาง
“ค..คุณเซนต์ หรือคะ” เขาก้มหัวเล็กน้อยตอบรับคำถามของป้านวลแล้วออกจากห้องไป
ลันตารู้สึกตัวขึ้นมาในเช้าวันใหม่ คิดทบทวนจากเรื่องเมื่อวาน เมื่อคืนเขามาส่งเธอที่บ้านเหรอ ร่างบางสำรวจตัวเองพบว่าเป็นห้องนอนของเธอ ชุดนอนที่เธอใส่ก็ด้วย
แสงแดดสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ลมพัดอ่อนๆ ผ้าผ้าม่านเนื้อดีพลิ้วไหว เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าวันนี้อากาศดี
ร่างบางลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างมองออกไปข้างนอก เจอกับสวนดอกไม้เล็กๆ อยู่หน้าบ้านพอดี สูดดมความหอมของดอกไม้ที่ปลิวพัดโชยมากับลมเข้าเต็มปอด ก่อนขาเรียวสวยจะก้าวเดินไปอาบน้ำ แล้วเดินออกมาเปลี่ยนเป็นชุดกางเกงยีนสีดำ เสื้อครอปตัวเล็กเข้ารูปตามสไตล์ของเธอ
หยิบกระเป๋าสะพายใบใหญ่ของเมื่อวานขึ้นมาเพื่อหาเอกสารสำคัญแต่ไม่พบ...อยู่ตรงไหนนะ หรือเธอวางไว้ที่อื่น หรือว่าป้านวลเอาไปเก็บไว้ที่อื่น หรือว่า...อยู่บนรถของเขา!
เมื่อคิดได้ลันตารีบวิ่งลงบันไดเพื่อลงมาถามป้านวลข้างล่างให้แน่ใจ
“ระวังๆ ลูก จะรีบไปไหน” ป้านวลกำลังจะขึ้นไปปลุกหญิงสาวพอดี เอ่ยเตือนหญิงสาวที่วิ่งลงบันไดอย่างเร็ว
“ป้าคะ เมื่อคืน คือ...”
“เมื่อคืนคุณเซนต์อุ้มหนูขึ้นไปส่งบนห้อง แต่ไม่ต้องห่วงป้าก็ขึ้นไปด้วย”
“เอ่อ แล้ว...คุณป้าเห็นซองเอกสารสีน้ำตาลในกระเป๋าหนูหรือเปล่าคะ....”
“หืม ไม่มีนะ ป้าไม่ได้ค้นกระเป๋าดูเลย มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?” ป้านวลเอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของหลานสาว
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะคุณป้า..ว่าแต่คุณป้ากำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ”
เธอตอบบ่ายเบี่ยง ตอนนี้เธอหิวมากๆ กระเพาะร้องประท้วงหนักเพราะท้องว่างไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นเมื่อวาน เอ่ยถามป้านวลเผื่อจะมีอะไรให้เธอกินพลางๆ ก่อนจะได้ทานข้าวเช้า
“ป้าทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว กำลังจะขึ้นไปปลุกอยู่พอดีเลย”
“ป้านวลน่ารักจังเลย ขอบคุณมากนะคะ” ลันตาเดินไปกอดป้านวลพลางยิ้มกว้างสดใส แล้วไปทานข้าวด้วยกันจนอิ่มเรียบร้อยแล้ว จึงขอตัวไปเรียนต่อ
ร่างบางเดินขึ้นรถคันมินิที่ป้านวลเพิ่งซื้อมาจากเงินส่วนหนึ่งของพ่อกับแม่ที่ฝากไว้ เพราะมันคงดีกว่าที่จะต้องเรียกแท็กซี่หรือขึ้นรถประจำทางเวลาไปเรียนหรือมีธุระต้องออกไปข้างนอกได้สะดวกกว่า อีกส่วนหนึ่งค่อยเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น
ตืดด ตืดดด...
อุปกรณ์บางอย่างในกระเป๋าสะพายของเธอสั่นขึ้น มือเล็กจับสมาทโพนของตัวเองออกมา ปรากฏว่าเป็นเพื่อนสาวโรเจอร์หรือโรสโทรมานั่นเอง ไม่นานหญิงสาวจึงกดรับ
“ว่าไง โรเจอร์” เสียงหวานเอ่ยทักคนที่โทรมา
“ลันตา โอ๊ยย...โล่งอกไปทีที่เธอรับสายฉัน เมื่อวานฉันโทรหาเธอเท่าไหร่ก็ไม่รับสาย” โรเจอร์ที่ได้ยินเสียงเพื่อนก็ร่ายยาวทันที
“ฉันขอโทษนะโรส ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก ฉันแต่เป็นห่วงเธอ แล้ววันนี้เธอจะมาเรียนใช่มั้ย”
โรเจอร์พูดตามความจริงที่คิด นึกเป็นห่วงเพื่อนใหม่ของตัวเอง ถึงจะเพิ่งรู้จักกันก็เถอะ แต่เขารู้สึกถูกชะตากับหล่อนยังไงไม่รู้ และหวังว่าหล่อนคงจะคิดเหมือนกัน เขาได้ทุนมาเรียนที่นี่เหมือนกับหล่อน
“ขอบใจมากนะเพื่อน ฉันกำลังจะไป แล้วเจอกันจ้ะ” ลันตากดวางสายแล้วจึงขับรถออกไป
ระหว่างที่ขับรถหญิงสาวพยายามนึกว่าเอกสารซองนั้นอยู่ที่ไหน แล้วถ้าเกิดเธอลืมไว้ที่รถของเขาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี คิดไม่ตกกับความผิดพลาดครั้งนี้เลย
ไม่ถึงชั่วโมงหญิงสาวก็ถึงมหาวิทยาลัย นำรถไปจอดข้างตึกใหญ่ ร่างบางเปิดประตูลงจากรถระหว่างทางเดินไปห้องเรียนมีแต่คนมองมาที่เธอตลอด เพราะเรื่องเมื่อวานแท้ๆ เช่นนั้นเธอจึงรีบเดินให้เร็วที่สุด
เมื่อโรเจอร์เห็นลันตาเปิดประตูเข้ามาในห้องจึงกวักมือเรียกให้ไปนั่งข้างๆ กัน เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันก็ยังมองมาที่เธอเป็นตาเดียว บางคนหันไปกระซิบกระซาบนินทาเธอบ้าง
เฮ้อ! ช่างพวกเขาเถอะ เธอไม่สามารถห้ามความคิดใครได้
จบคลาสแล้วโรเจอร์สังเกตเพื่อนนั่งหน้าเครียดตลอดทั้งคลาส เลยชวนลันตาออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้มหาลัยก่อนจะแยกย้ายกันกลับ หวังว่าจะทำให้เธอผ่อนคลายความเครียดลงได้บ้าง
“นี่ลันตา เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจเธอเล่าให้ฉันฟังได้นะ”
“ขอบใจมากนะโรเจอร์ ฉันคิดว่าจะไม่มีเพื่อนที่นี่แล้วซะอีก” ลันตาพูดขึ้นหลังที่เดินเงียบๆ อยู่นาน
“นี่ก็พูดไป ฉันนี่ไงเพื่อนเธอ” โรเจอร์พูดยิ้มกว้างให้คนตัวเล็กกว่าพลางเดินกอดคอเล็กเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
โรเจอร์ได้ยินเรื่องของเซนต์ผู้เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยมาบ้างจากข่าวที่ออกแทบจะวันเว้นวันของเขา บ้างก็ควงคนนั้นทีคนนี้ทีไม่ซ้ำหน้ากันสักคน คนที่มีอำนาจมากมายอย่างเขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจทุกอย่าง เขาจะมายุ่งกับเพื่อนหล่อนทำไมกัน...