พันธะร้ายสิงหราช | 1

1351 Words
คำว่า น้องชาย ของบ้านอื่นๆเป็นยังไงไม่มีใครรู้แต่ที่รู้ๆมันคงดีกว่าบ้านหลังนี้ บ้านที่เคยอบอุ่นเต็มไปด้วยความรักของครอบครัวทั้งคุณพ่อ คุณแม่ รวมถึงน้องชายเพียงคนเดียวของเธอ แต่ทว่าตอนนี้มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะน้องชายคนเดียวของ ส้มหวาน เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยเป็นเด็กน่ารัก เด็กที่แสนขี้อ้อนในสายตาของพี่สาวและของทุกๆคนในครอบครัว ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นกลับหายไปกลายเป็น สิงหราช คนใหม่ คนใหม่ที่พูดไม่ได้ดีไปจากเดิมเลยแต่กลับลงแย่กว่าเดิมร้อยเท่าพันเท่าก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ น้องชายคนใหม่ของส้มหวานเปลี่ยนไปจนเธอเจ็บปวด จากเด็กชายที่แสนน่ารักและขี้อ้อน ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กเกเร ติดเพื่อนและไม่เอาไหน หน่ำซ้ำยังทำร้ายรังแกกลั่นแกล้งคนเป็นพี่อย่างส้มหวานสารพัด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ส้มหวานคนนี้คนที่เป็นพี่สาวก็อยากได้น้องชายคนเดิมกลับมา เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรน้องชายถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ อาจเป็นเพราะน้องชายของเธอกำลังโตขึ้นหรือด้วยปัจจัยอะไรต่างๆแต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เธอไม่ชอบเลยสักนิดแต่ถึงไม่ชอบมากแค่ไหนเธอก็ยอมโดนน้องชายกลั่นแกล้ง ยอมโดนรังแก เผื่อว่าบางทีน้องชายจะเห็นใจและกลับมารักเธอเหมือนเดิม ทั้งที่ความจริงแล้วในใจของ สิงหราชเกลียดชังส้มหวานคนที่เป็นพี่สาวเข้าไส้ หากย้อนเวลากลับไปได้ส้มหวานคงอยากหยุดเวลาเอาไว้ก่อนที่น้องชายของเธอจะอายุสิบห้าเพราะตอนนั้นมันดีจริงๆ ดีจนเธอไม่กล้าลืมภาพจำเหล่านั้นไปจากความทรงจำเลย “พี่ส้มหวานจะไปไหน สิงห์ขอไปด้วย” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของสิงหราชน้องชายเพียงคนเดียวของส้มหวานที่วิ่งเข้ามาหาถามขึ้นทันที “พี่จะไปปั่นจักรยานเล่นในไร่ สิงห์ไปกับพี่ไหม” ส้มหวานถามกลับไป ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าคำตอบของน้องชายยังไงก็ไปเพราะน้องชายอย่างสิงหราชไม่เคยห่างจากเธอเลย “ไปครับแต่พี่ส้มหวานปั่นนะ สิงห์ปั่นให้พี่ส้มหวานซ้อนไม่ไหวหรอก” สิงหราชพูดขึ้นอีกครั้ง “พี่ไม่อ้วนนะสิงห์” “ฮ่าๆ สิงห์ล้อเล่น พี่ส้มหวานซ้อนเลยเดี๋ยวสิงห์ปั่นเอง” สิงหราชที่ขึ้นคร่อมจักรยานพูดขึ้นพร้อมกับตบเบาๆที่เบาะคนซ้อนเป็นการบอกให้พี่สาวขึ้นมาได้แล้ว “ปั่นดีๆนะสิงห์ พี่ไม่อยากล้มเดี๋ยวโดนดุ” ส้มหวานที่ซ้อนท้ายน้องชายก็พูดขึ้นพร้อมกับมือเล็กที่จับไปยังเอวของน้องชาย แน่นอนว่าสองพี่น้องมีความสุขมาก ปั่นจักรยานชมวิวในไร่และดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเย็น ภาพเหล่านี้เป็นภาพที่คนงานในไร่ต่างพากันยิ้มและเห็นเป็นประจำเพราะสองพี่น้องตัวติดกันยิ่งกว่าตังเม ที่ไหนมีส้มหวานที่นั่นมีสิงหราชและที่ไหนมีสิงหราชที่นั่นก็ย่อมมีส้มหวาน “สิงห์ไปคาเฟ่กัน พี่อยากกินโกโก้ปั่น” ส้มหวานพูดขึ้นเพราะตอนนี้เธอเริ่มคอแห้งแล้ว เล่นพูดคุยกันมาทั้งทางและสิงหราชน้องชายก็เธอก็ชวนคุยไม่หยุด “ไม่ได้นะ พี่ส้มหวานกินน้ำพวกนี้ทีไรกินข้าวได้น้อย ไม่เอาอะสิงห์ไม่ให้กินหรือถ้าอยากกินจริงๆต้องกลับบ้านไปกินข้าวก่อน” คำตอบของสิงหราชถึงมันจะขัดใจคนเป็นพี่อย่างส้มหวานแต่นั่นไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ส้มหวานโกรธเลยเพราะทั้งหมดมันเป็นเพราะความเป็นห่วงของสิงห์ “ดุยิ่งกว่าพ่ออีก” “พ่อกับแม่บอกให้เราดูแลกันและกัน สิงห์ก็ต้องดูแลพี่ส้มหวานให้ดีสิเพราะเราเป็นพี่น้องกัน” สิงหราชพูดขึ้นอีกครั้ง ทุกคำสอนที่คุณพ่อคุณแม่และครอบครัวพร่ำสอน สิงหราชคนนี้จำได้แม่น ไม่ว่าจะสอนให้รักพี่น้อง รักครอบครัว ดูแลและปกป้องซึ่งกันและกัน แน่นอนว่าถึงสิงหราชจะเป็นน้องแต่เขาพร้อมมากที่จะดูแลพี่สาวคนเดียวของเขา “ฮ่าๆ ขอบคุณมากๆนะ ตอนนี้จะมืดแล้วเรากลับบ้านกันไหม” ส้มหวานพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าลงเรื่อยๆ “ดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันก่อนสิ สวยนะ” สิงหราชหยุดจักรยานพร้อมกับสองขาที่ยืนลงเพราะขาไม่ถึงก่อนจะหันหน้ามองพระอาทิตย์ตรงหน้า “สวยมากเลยเนอะ ไม่มีที่ไหนสวยเท่าไร่ของเราอีกแล้ว” เพราะไร่กลิ่นดินก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นไร่ที่ดีที่สุดของภาคเหนือ ต่อให้จะผ่านมาแล้วหลายรุ่นและหลายปีแต่มาตรฐานที่สร้างไว้กลับไม่เปลี่ยนแปลงและดีขึ้นกว่าเดิม “สวยกว่าไร่ของเรามีเยอะเลยนะพี่ส้มหวาน” แน่นอนว่าประโยคนี้ทำเอาส้มหวานต้องหันหน้ามามองน้องชาย “ที่ไหน” “ไม่ใช่ที่ไหนหรอกแต่เป็นพี่ส้มหวานตั้งหาก สวยกว่าไร่ของเราและสวยกว่าพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินอยู่ตอนนี้” คำพูดของสิงหราชทำเอาส้มหวานหน้าแดง มันก็บ่อยอยู่หรอกที่น้องชายชมเธอแต่เธอไม่เคยชินเลยสักครั้งกับคำหวานๆที่ออกมาจากปากของน้องชาย “พี่เขินนะสิงห์” “อ่าๆ เห็นคนเขินแล้วสนุก” “แกล้งกันหรือไง” ส้มหวานฟาดฝ่ามือลงกลางหลังน้องชายทำเอาน้องชายของเธอที่กำลังคร่อมรถจักรยานและมีเธอนั่งซ้อนเสียการทรงตัวและล้มลงในที่สุด “เห้ย ! สิงห์เจ็บหรือเปล่า พี่ขอโทษ” ส้มหวานถามด้วยท่าทางลนลานเพราะเรื่องมันเกิดจากเธอ “สิงห์ไม่เป็นอะไรครับ พี่ส้มหวานนั่นแหละเจ็บตรงไหนไหม” สิงหราชสำรวจตามร่างกายของพี่สาว เมื่อเห็นว่าไม่มีแผลก็ทำหน้าโล่งอกออกมา “ไม่เป็นอะไรได้ยังไง เห็นไหมมือเป็นแผล” ส้มหวานที่สำรวจร่างกายของสิงหราชก็พูดขึ้น ตอนนี้มือด้านซ้ายของน้องชายมีแผลถลอก อีกทั้งยังมีเลือดซึมออกมา “กลับกันเถอะ จะได้ไปล้างแผลใส่ยา” ส้มหวานพูดขึ้นก่อนจะคว้าจักรยานเพราะเธอคงต้องให้สิงห์ซ้อนกลับ “สิงห์ปั่นได้นะ” “ขึ้นมาเลยเร็วๆ พี่เป็นห่วงนะไม่อยากให้เจ็บมือ” เมื่อรับรู้ถึงความเป็นห่วงของพี่สาวสิงหราชก็ไม่ขัด ได้แต่นั่งซ้อนลงบนเบาะหลังของรถจักรยาน กลับมาถึงบ้านคนที่คอยทำแผลก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นส้มหวาน สิงหราชไม่โกรธเลยเพราะเขารู้ว่าส้มหวานไม่ได้ตั้งใจ อีกอย่างเขาเองก็เผลอไปแกล้งส้มหวานก่อนด้วยแล้วแบบนี้จะเอาอะไรที่ไหนไปโกรธได้ล่ะ ส้มหวานถึงกับนั่งน้ำตาคลอเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ภาพจำเหล่านั้นมันทำให้เธอยิ้มและมีความสุขได้แต่กลับกันมันก็ทำให้เธอคิดถึงและเสียใจที่วันนี้เธอกับน้องชายไม่ได้สนิทกันเหมือนเคย ไม่สิ ต้องพูดว่าแม้แต่ความสนิทก็ไม่มีเหลือเพราะทุกอย่างถูกเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง “กลับบ้านไปครั้งนี้ก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นนะ ขอให้ตัวเองไม่มีแผลและไม่มีรอยอะไรจากการกลั่นแกล้งของสิงห์” “ไม่รู้เหมือนกันว่าสิงห์จะคลายความเกลียดชังลงได้บ้างหรือยังแต่อย่างน้อยๆก็ขอให้ลดลงบ้างเพราะพี่สาวคนนี้เสียใจจนแทบทนไม่ไหว” ❤️ บอกคำเดียวว่าเรื่องนี้มีคนโบ้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD