“ลงมาเปิดประตูหอ” น้ำเสียงเรียบนิ่งของสิงหราชดังขึ้นเมื่อคนเป็นพี่สาวอย่างส้มหวานรับสาย
“สิงห์มีอะไร ทำไมมาหาพี่บ่อยล่ะ” ส้มหวานถามขึ้น พยายามทำเสียงให้ดูปกติที่สุดทั้งๆที่ในใจเธอกลัวแทบตายเพราะวันนี้สิงหราชมาหอพักของเธอถึงสองครั้งแล้ว
“กูบอกให้ลงมาเปิดประตูหอ มึงไม่ได้ยินหรือไงส้มหวาน” น้ำเสียงดุดันดังขึ้นทำเอาส้มหวานสะดุ้ง
“สิงห์มีอะไร ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปเถอะ” ส้มหวานพูดขึ้นเพราะเธอไม่อยากลงไปเปิดประตูให้กับสิงหราช เธอกลัวว่าเขาจะทำร้ายเธออีก
ทุกคำพูดที่สิงหราชพูดมันสร้างความหวาดกลัวให้กับเธอจนเธอแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“รู้ไหมถ้ากูขึ้นไปเองได้เหมือนเมื่อเช้า มึงจะเจ็บตัวมากกว่าการที่ลงมาเปิดประตูหอให้กู” สิงหราชพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้เขากำลังโมโห ไม่คิดว่าส้มหวานจะพูดยากขนาดนี้
“โอเคๆ เดี๋ยวพี่ลงไป” ในเมื่อเลือกอะไรไม่ได้ ส้มหวานก็คงเลือกวิธีที่จะทำให้ตัวเองไม่เจ็บตัวหรือเจ็บตัวน้อยที่สุดคือการลงไปเปิดประตูหอให้กับสิงหราช
เมื่อลงไปถึงก็เห็นว่าสิงหราชยืนรออยู่แล้ว ในมือถือเอกสารหลายแผ่นไว้ ตอนนี้ส้มหวานกำลังคิดเข้าข้างตัวเองเพราะการที่สิงหราชถือเอกสารหลายแผ่นมาแบบนี้คงไม่พ้นการให้เธอช่วยสอนงาน
“สิงห์จะให้พี่สอนหรอ ไอ้เอกสารงานที่พกมาด้วย” หลังจากเข้ามาในห้อง ส้มหวานก็ถามขึ้นทันที
สิงหราชที่นั่งอยู่บนเตียงวางเอกสารหลายแผ่นไว้ข้างตัวก็ยกยิ้มออกมาเพราะอีกคนไม่รู้อะไรเอาเสียเลย คิดมาได้ยังไงว่าตัวของเขาอยากให้สอน
“กูไม่ได้จะให้มึงสอน” สิงหราชพูดออกไปทันทีเพื่อหยุดความคิดของส้มหวาน
“อย่าบอกนะว่า…” ส้มหวานที่เหมือนจะรู้ตัวก็พูดขึ้นแต่ไม่ทันที่จะพูดจบสิงหราชผู้เป็นน้องชายก็พูดขึ้น
“กูเอางานมาให้มึงทำ” สิงหราชพูดออกมา ทำเอาส้มหวานต้องปรายสายตาหันไปมองเอกสารหลายๆแผ่นที่วางไว้บนเตียง
“ถ้าให้สอน พี่สอนได้นะสิงห์แต่ถ้าจะให้พี่ทำพี่ไม่ทำ” ส้มหวานพูดขึ้นด้วยประโยคเด็ดขาดเพราะเธอไม่มีทางช่วยน้องชายในทางที่ผิดหรอกนะ
“กูไม่ได้มาถามหาความคิดเห็นต่างของมึงหรอกนะเพราะกูบังคับ” สิงหราชพูดขึ้นอีกครั้งเพราะที่มาก็ตั้งใจเอางานมาให้ส้มหวานทำและแน่นอนว่าส้มหวานไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว
“พี่ไม่ทำ”
“งั้นเจ็บตัวสักหน่อยดีไหม” สิงหราชพูดขึ้นพร้อมกับเดินตรงไปหาส้มหวานทำเอาส้มหวานต้องถอยหลังหนี เหตุการณ์นี้มันเหมือนกับเมื่อวานแต่แค่ตอนนี้ในมือของสิงหราชไม่ได้มีเครื่องช็อตไฟฟ้าอยู่
“สิงห์”
“พูดง่ายๆหน่อยส้มหวาน แค่ทำงานพวกนี้มันจะอะไรนักหนา”
“มันเป็นงานของสิงห์ สิงห์ก็ต้องทำเอง” ส้มหวานพูดขึ้น ถึงแม้ในใจจะมีแต่ความกลัวแต่เธอก็ต้องสู้เพราะงานพวกนั้นมันเยอะมาก อีกทั้งเธอเองก็ใกล้จะสอบแล้ว เธอควรเอาเวลามาอ่านหนังสือทบทวนการเรียนของเธอมากกว่าการทำงานให้สิงหราช
“สงสัยคนอย่างมึงต้องเจ็บตัวก่อนใช่ไหมถึงจะทำได้” สิงหราชพูดขึ้นพร้อมกับจับข้อมือเล็กของส้มหวานและเหวี่ยงลงบนเตียงทำเอาส้มหวานถึงกับร้องออกมา
“สิงห์พี่เจ็บ” ใบหน้าสวยของส้มหวานเริ่มมีน้ำตาคลอเพราะแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นทำเธอจุก
“แค่มึงพูดว่ามึงจะทำ มึงก็จะไม่เจ็บตัวแล้วส้มหวาน” สิงหราชนั่งลงข้างๆส้มหวานที่นอนงอตัวอยู่บนเตียง สายตาคมเหยียดมองพร้อมกับยกยิ้มขึ้น
ถ้าไม่พูดมาก ยอมตกลงตั้งแต่ครั้งแรกที่พูดก็คงไม่ต้องเจ็บตัวและนอนงอตัวอยู่แบบนี้
“เอายังไง อยากเจ็บตัวเพิ่มหรือยอมทำงานแค่ไม่กี่ร้อยแผ่น กูมีเวลาให้มึงสองเดือนเลยนะ” สิงหราชพูดขึ้นเผื่อว่าอีกคนจะยอมพูดตกลงเพราะเวลาสองเดือนมันก็เยอะนะ ถ้าคนที่ทำเป็นส้มหวานแต่ถ้าคนที่ทำเป็นตัวสิงหราชสองปีก็เห็นทีว่าจะไม่พอ
“ก็ได้ พี่ยอมก็ได้” สุดท้ายส้มหวานก็ไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากจะเลือกให้ตัวเองเจ็บตัวน้อยที่สุด
“ถ้าพูดง่ายๆตั้งแต่ทีแรกมึงก็ไม่เจ็บตัวหรอกส้มหวาน” สิงหราชพูดขึ้นอีกครั้งแต่ก็ดีเหมือนกันเพราะทุกครั้งที่ส้มหวานเจ็บตัว ความเจ็บปวดและความรู้สึกน้อยใจในใจของสิงหราชก็เหมือนจะหายไปบ้างแต่ก็แค่เหมือนเท่านั้นนะเพราะสิ่งที่สิงหราชเจอมาตลอดมันยังคอยตอกย้ำอยู่เสมอ
“สิงห์จะรังแกพี่แบบนี้ไปอีกถึงเมื่อไหร่ สิงห์ไม่รู้หรอว่าพี่เจ็บ” นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบสามปีก็ว่าได้ที่ส้มหวานพูดออกมาเพราะที่ผ่านมา ส้มหวานไม่เคยพูดอะไรแบบนี้เลย
“มึงพึ่งมารู้สึกเจ็บหรอ ทั้งๆที่มึงโดนแบบนี้มาสามปีแล้ว”
“พี่เจ็บมาตลอดแต่ตอนนี้พี่ไม่อยากเจ็บแล้ว สิงห์เคยรู้บ้างไหมว่าทุกการกระทำของสิงห์นอกจากจะทำให้พี่เจ็บตัวแล้วพี่ยังเสียใจอีกด้วย” ส้มหวานระบายความในใจออกมาเพราะเธอโคตรจะเสียใจ เสียใจที่วันนี้เธอกับน้องชายไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
“แล้วมึงเคยรู้บ้างไหมว่าที่มึงเจ็บตัวมันไม่เท่ากับการที่กูเจ็บใจ” สิงหราชตวาดเสียงขึ้นทันที
ใครๆก็เอาแต่คิดว่าการที่เขาแกล้งและรังแกส้มหวานมันจะทำให้ส้มหวานรู้สึกเจ็บแต่ความจริงแล้วสิงหราชรู้สึกยังไงมีใครเคยรู้บ้าง
อยากรู้กันใช่ไหมว่าทำไมสิงหราชถึงเกลียดส้มหวานนักก็เพราะยิ่งโตมันก็ยิ่งรู้ไงว่าแท้จริงแล้วคุณพ่อคุณแม่รักลูกไม่เท่ากัน
สิงหราชไม่ว่าจะเรียนดีแค่ไหนก็ไม่เคยได้รับคำชมเพราะส้มหวานเรียนได้ที่หนึ่งตลอดต่างกับสิงหราชที่ได้ที่สองที่สาม ทุกคนอวยยศให้ส้มหวานเพราะส้มหวานเรียนเก่งกว่าทุกคนในห้องแล้วตัวสิงหราชล่ะ เรียนเก่งกว่าหลายคนในห้องแต่ดันเก่งน้อยกว่าคนที่ได้ที่หนึ่งแค่คนเดียว
และไม่ว่าส้มหวานจะทำอะไรส้มหวานก็ได้รับคำชมทั้งนั้นต่างกับสิงหราชที่ทุกคนมักจะยิ้มให้และพูดว่าดีแล้ว แน่นอนว่าคำพูดที่สิงหราชได้รับกับคำพูดชื่นชมที่ส้มหวานได้รับมันต่างกับราวฟ้ากับเหว
หลายคนอาจจะไม่รู้ ทุกคนในครอบครัวอาจจะคิดไม่ถึงแต่สำหรับเด็กผู้ชายคนหนึ่งอย่างสิงหราชที่โดนแบบนี้มาตลอด ที่มีดีอะไรก็สู้พี่สาวไม่ได้สักอย่าง ไม่เคยเรียนได้ที่หนึ่งและไม่เคยได้รับคำชื่นชมจากใครเยอะๆ สิ่งเหล่านั้นมันตอกย้ำและทำให้เด็กผู้ชายคนนี้อิจฉาพี่สาวของตัวเอง
อิจฉาที่ได้รับคำชม อิจฉาที่ทุกคนในครอบครัวรักและอิจฉาที่ไม่ว่าจะทำอะไรทุกคนก็เอาแต่ยิ้มให้และคอยสนับสนุนต่างกับเด็กผู้ชายคนนี้ที่ไม่เคยได้รับอะไร
อาจจะมีบ้างที่ได้รับแต่ทำไมสิงหราชถึงรู้สึกว่าตัวเองได้ไม่เท่าส้มหวานล่ะเพราะถ้าทุกคนไม่ทำให้สิงหราชรู้สึก สิงหราชก็คงไม่รู้สึกหรอกจริงไหม
แน่นอนว่าเวลาผ่านไปทุกๆสิ่งที่อยู่ในใจของสิงหราชจากความอิจฉาก็เปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง เรื่องทุกอย่างสิงหราชไม่ได้เจอกับมันแล้วจบไปแต่สิงหราชเจอกับมันตลอด เจอกับเรื่องพวกนี้มาตลอดจนความอิจฉาเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง
ความเกลียดชังที่มีให้กับพี่สาว ให้ตายตอนนี้มันก็คงลบไม่ออก ต่อให้พี่สาวไม่ได้เป็นคนทำแต่ต้นเหตุทั้งหมดมันก็เกิดจากพี่สาวอย่างส้มหวาน ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะส้มหวานนั่นแหละแต่จะโทษส้มหวานคนเดียวก็ไม่ได้เพราะคนที่ทำให้สิงหราชเกลียดพี่สาวได้ถึงขนาดนี้ก็คือคุณพ่อคุณแม่
และทั้งหมดนี้มันก็ทำให้สิงราชรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณพ่อคุณแม่รักลูกไม่เท่ากันและคนที่ได้รับความรักมากกว่าก็คงไม่พ้นส้มหวาน ส้มหวานที่เป็นลูกรักต่างกับสิงหราชที่เป็นลูกชังและเหตุผลเพียงแค่นี้มันก็ทำให้สิงหราชเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
จากที่เคยเรียนดีก็ไม่เอาการเรียน จากเด็กที่น่ารักและแสนขี้อ้อนก็ทำตัวให้ต่างจากเดิมไม่ว่าจะติดเพื่อน เกเร ไม่เอาไหน ทำตัวเสเพไปวันๆ
ในเมื่อทำตัวดีให้เห็นแล้วไม่มีใครเห็น สิงหราชคนนี้จะทำต่อไปทำไมในเมื่อไม่มีใครเห็นค่าเลยสักคนแต่เมื่อสิงหราชเปลี่ยนตัวเองกลับกลายเป็นคนใหม่ทุกคนต่างเห็นซะงั้น ต่างรุมด่าว่ากล่าว ความเท่าเทียมมันอยู่ตรงไหนกัน ความรักลูกเท่ากันของบ้านหลังนี้ บ้านที่เคยแสนอบอุ่นมันอยู่ตรงไหน อยู่ที่ไหนแล้วล่ะ
“สิงห์เจ็บอะไร เจ็บตรงไหนบอกพี่มาสิ” ส้มหวานถามขึ้นทันทีเพราะเธอเองก็ไม่ชอบเหมือนกันที่น้องชายเป็นแบบนี้
“กูเจ็บตรงที่ทุกคนรักมึงมากกว่ากู เจ็บที่ทุกคนเห็นมึงดีมากกว่ากูไงส้มหวาน” สิงราชตอบออกไป ครั้งนี้มันเหลืออดจนเขาพูดออก
ใครจะรู้บ้างว่าแท้จริงสิงหราชรู้สึกยังไงแต่ก็นะ ไม่มีใครมานั่งสนใจความรู้สึกของเขาหรอก
“มะ…ไม่มีใครคิดแบบนั้นเลยนะสิงห์” ส้มหวานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆเพราะสิ่งที่สิงหราชพูดออกมามันไม่เป็นความจริง
ส้มหวานรู้ดีว่าเธอได้รับความรักจากคุณพ่อคุณแม่อย่างดีแต่เธอก็มั่นใจว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มอบความรักให้เธอเพียงคนเดียว สิงหราชที่เป็นลูกแท้ๆของคุณพ่อคุณแม่ก็ได้รับความรักไม่ต่างจากเธอ เผลอๆได้มากกว่าเธอเสียอีกแต่เธอไม่ได้นึกเสียใจหรือน้อยใจอะไรเพราะทุกวันนี้ที่เธอได้รับจากคุณพ่อคุณแม่มันดีมากแล้วจริงๆ ดีสำหรับเด็กที่เป็นลูกบุญธรรมอย่างเธอ
“เพราะมึงมันเป็นลูกรักไงส้มหวาน มึงเลยไม่รู้อะไรสักอย่าง”
“พ่อกับแม่รักสิงห์นะ ทุกคนรักสิงห์ พี่เองก็รักสิงห์”
“อย่าพูดว่าทุกคนรักกูเลยว่ะแค่ฟังกูก็จะอ้วกเพราะคนเดียวที่ทุกคนรักมันคือมึงส้มหวาน ไม่ใช่สิงหราชอย่างกู”
❤️
กอดปลอบ