มารยาหญิง

1893 Words
ภายในผับหรูใจกลางเมือง ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างสองสาว เขากำลังแอบยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อออสตินพอจะเดาได้ว่านัทตี้กับวาวากำลังแชทหาใคร ป่านนี้คนที่นอนอยู่บ้านคงไม่ได้หลับได้นอน แม้ว่าใบพลูจะไม่แสดงออก แต่สิทธิ์ของเธอในฐานะว่าที่คู่หมั้นก็คงมีเคืองบ้างแหละ หลังจากที่เธอเห็นภาพเขานั่งโอบสองสาวอยู่แบบนี้ “ออสติน สรุปแล้วนายต้องไปทำงานที่บริษัทกวินชูจริงๆ เหรอวะ” ครามเอ่ยถามเพื่อนขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อออสตินต้องไปทำงานร่วมกับใบพลู ทั้งที่ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรที่จำเป็น เมื่อบ้านของเขาก็มีธุรกิจหลายอย่าง ทำไมต้องเข้าไปทำงานที่นั่นด้วย “นายไม่รู้อะไรเลยรึไงคราม” นัทตี้เอ็ดแฟนหนุ่มของเธอออกไปอย่างหงุดหงิดใจ “ยัยนั่นขาดฉันได้สักที่ไหน ยังไงเราก็ต้องทำงานด้วยกันไปจนวันตาย” คำพูดของออสตินไม่ใช่แค่สองสาวข้างกายที่ขุ่นเคืองใจ วาวากับนัทตี้เองก็ไม่ชอบใจ ที่ชายหนุ่มพูดถึงใบพลูออกมาแบบนั้น ทั้งที่เธอไม่ได้อยู่ตรงนี้ “ใบพลูทั้งสวยทั้งเก่ง นายประเมินค่าเธอต่ำไปหรือเปล่าออสติน การออกแบบของใบพลูไม่เป็นสองรองใคร แค่เธอไม่เคยทำตัวโดดเด่น เพื่อแข่งขันหรือโอ้อวดเหมือนคนอื่นก็เท่านั้นเอง” วาวารีบพูดแทรกขึ้นเพื่อปกป้องเพื่อนรักของเธอ ที่สำคัญสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมานั้นมันคือความจริง เพราะใบพลูมีความสามารถทางด้านการออกแบบเป็นอย่างดี จนอาจารย์ชื่นชมในพรสวรรค์ของเธอ “แหม... วาวา เธอก็ชมเพื่อนเกินไป การออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ก็ใช่ว่าจะสามารถทำให้เป็นจุดขายได้ การตลาดทุกวันนี้ ต้องทำตามกระแสเท่านั้น ซึ่งกว่าจะกลายเป็นแฟชั่นนำสมัยได้ ก็ต้องจ้างดาราดังๆ มาโพรโมตโฆษณาให้ทั้งนั้นแหละ ลองทำเองโพรโมตเองสิ จะมีใครซื้อ” ดูเหมือนว่ามิ้นต์กำลังพยายามจะพูดให้ตัวเองดูดี แต่กลับกลายเป็นว่าดูฉลาดน้อยไปเสียอย่างนั้น “แต่ละโพรเจกต์ก็ต้องมีการทำโฆษณาอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าความสามารถและศักยภาพของบริษัทนั้นๆ ได้เลือกคนมาถูกงานหรือเปล่า ว่าแต่บริษัทของพ่อเธอ ไม่มีทีมงานทำโฆษณาเลยเหรอ หรือว่านักออกแบบทำเองทั้งหมด โพรโมตเองอะไรทำนองนั้น... ก็ขายได้แล้ว เก่งจังเลยนะ” นัทตี้พูดประชดมิ้นต์อย่างไม่ไว้หน้า เมื่อเธอเพิ่งรู้มาว่าบริษัทบิดาของหล่อนกำลังทาบทามดาราดัง ที่ใบพลูพูดถึงบ่อยๆ ให้มาโพรโมตชุดแฟชั่นคอลเลกชันหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง แน่นอนว่าหล่อนคงกลัวดาราคนดังกล่าวจะมารับงานที่บริษัทกวินชู มิ้นต์เลยรีบให้บิดาจัดการเซ็นสัญญาตัดหน้าไปก่อน “มีสิจ๊ะ! แต่มิ้นต์คงทำไม่สำเร็จ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากออสติน คุณพ่อฝากมิ้นต์มาบอกออสตินด้วยนะคะ วันไหนคุณว่างไปทานข้าวที่บ้านบ้าง คุณพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยค่ะ” ถ้อยคำพร้อมกับท่าทางของหล่อนที่ยั่วยวนออสตินนั้น กำลังทำให้เพื่อนทั้งสองของใบพลู อยากหยุมหัวมิ้นต์ขึ้นมาตบ (หยุมหัวภาษาอีสานดึงกระชากผม) เมื่อหล่อนกำลังแสดงออกได้อย่างน่าหมั่นไส้ “ผมก็แค่แนะนำไปตามที่รู้เท่านั้นเองครับ ไม่ได้เก่งอะไร” ชายหนุ่มพูด พลางกระดกน้ำสีอำพันในแก้วเข้าปาก ขณะที่เตวิชกับครามสังหรณ์ใจบางอย่าง เขาได้แต่หวังว่าเพื่อนรัก คงไม่แกล้งใบพลูแรงๆ ด้วยการช่วยให้มิ้นต์กลายเป็นคู่แข่งทั้งทางธุรกิจและหัวใจ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาสองคนคงไม่เข้าข้างออสตินอย่างแน่นอน “ทำไมพวกมึงสองคน มองกูแบบนั้นวะ” ออสตินถึงกับเอ่ยถามเพื่อนรักออกมาด้วยความสงสัย เมื่อแววตาของเตวิชกับครามมองมาที่เขาอย่างมีเลศนัย “เปล่า... พอดีว่าง่วงจะกลับแล้ว” ครามพูดขึ้น พร้อมกับหันไปสบตาแฟนสาวของเขา ซึ่งในเวลานี้นัทตี้เองก็อยากกลับเต็มทีแล้วเหมือนกัน เพราะใบพลูไม่ได้มาด้วย บวกกับสองสาวข้างกายออสตินยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่าเบื่อ ซึ่งเธอรู้สึกไม่ชอบใจแขกของออสตินเลยสักนิด “กูก็จะกลับเหมือนกัน พอดีว่าพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปดูงานกับพ่อที่ต่างจังหวัด” เตวิชรีบพูดขึ้น เมื่อออสตินหันมาขอความเห็นจากเขา “อะไรวะ!” ออสตินถึงกับอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อเพื่อนรักกำลังจะกลับ ทั้งที่เพิ่งจะยี่สิบสามนาฬิกาเศษเอง “อย่าอารมณ์สิค่ะ ยังไงคืนนี้โมเมย์กับมิ้นต์ก็ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณน๊า” น้ำเสียงหวานของโมเมย์ดังขึ้น จนทำให้มิ้นต์ชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ ถึงแม้ว่าหล่อนจะยอมให้เพื่อนเคลียคลอออสติน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโมเมย์จะมีสิทธิ์ขึ้นเตียงกับเขาด้วย เพราะหล่อนจะไม่ยอมให้ใครได้ออสตินไปครองเด็ดขาด “ตามสบายนะออสติน พวกฉันกลับก่อน พอดีว่าพรุ่งนี้นัดกับใบพลูเอาไว้ จะพามันไปเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้กับเดย์อ่ะ ไปแล้วนะ” ประโยคที่วาวาทิ้งท้ายเอาไว้ เป็นดังระเบิดเวลาที่ทำให้ออสตินร้อนรุ่มในอุรา เมื่อสามสาวพร้อมใจกันที่จะไปงานวันเกิดของเดย์ เพื่อนในห้องที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ซึ่งเดย์ตามจีบใบพลูตั้งแต่ปีหนึ่ง จวบจนกระทั่งเรียนจบ นายนั่นก็ยังคงไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะเข้าใกล้ใบพลูให้ได้ แม้ว่าเขาจะตามจีบเธอไม่ติด “มื้อนี้กูเลี้ยงนะ เอาไว้เจอกันที่บ้านกูนะออสติน” เตวิชพูดพร้อมกับเดินไปโอบไหล่วาวาแล้วเดินตามหลังครามกับนัตตี้ออกไป ซึ่งทำให้ออสตินถึงกับทำหน้าเซ็งๆ เมื่อเพื่อนๆ ของเขากลับกันไปหมด “ผมว่ามันดึกแล้ว ผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีว่าพรุ่งนี้ผมมีนัดกับใบพลูขอตัวนะครับ” ออสตินพูดพร้อมกับดันตัวลุกขึ้นยืนอย่างไม่รีรอ เมื่อเขาเองก็รู้สึกอึดอัดที่ต้องนั่งอยู่กับสองสาว หมับ!! แต่ทว่ามิ้นต์กลับลุกขึ้นยืน หล่อนคว้าแขนของเขาเอาไว้อย่างไว พร้อมกับคิดแผนการอะไรบางอย่างได้ แน่นอนว่าคืนนี้ออสตินต้องไปส่งหล่อนที่คอนโด “ไปส่งมิ้นต์ที่คอนโดหน่อยสิค่ะ พอดีว่ามิ้นต์ติดรถโมเมย์มา นะคะออสติน น๊า...ตอนนี้มิ้นต์เวียนหัวมากเลยค่ะ คงจะเมาจนรู้สึกว่าโลกกำลังหมุนติ้วๆ เลย” หล่อนออดอ้อนพร้อมทั้งเอาใบหน้าแนบลงไปกับต้นแขนของชายหนุ่ม ซึ่งในเวลานี้ออสตินพยายามเบี่ยงตัวหลบ แต่ทว่ากลับไม่เป็นผล เมื่อมิ้นต์กอดรัดลำแขนของเขาเอาไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม จนชายหนุ่มรู้สึกอึดอัด พร้อมกับสายตาโต๊ะข้างๆ ที่มองมาแปลกๆ ทั้งที่ปกติแล้วจะไม่มีใครสนใจใครในสถานที่แบบนี้ “โอเค ผมจะไปส่งคุณ เชิญครับ” ชายหนุ่มพูดเพื่อตัดรำคาญ แต่กลับทำให้หล่อนได้ใจ สายตาของมิ้นต์มองไปที่โมเมย์พร้อมกับแสยะยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ ถึงแม้ว่าเกมนี้จะยังไม่จบก็ตามที “แล้วเจอกันนะเมย์ ไปกันเถอะค่ะออสติน” มิ้นต์พูดออกมาด้วยรอยยิ้มปลาบปลื้มใจ ก่อนจะเชิดหน้าควงออสตินเดินออกไปจากผับ พร้อมกับท่าทางที่ดูอ่อยยกกำลังสิบ เมื่อหน้าอกหน้าใจของหล่อนกำลังแนบลงไปที่ลำแขนแกร่ง ราวกับว่ากำลังตั้งใจสื่อให้ชายหนุ่มได้รับรู้ในสิ่งที่หล่อนกำลังปรารถนา อยากสานสัมพันธ์กับเขาให้สาแก่ใจ หลังจากที่ใช้ความพยายามมาหลายครั้งหลายครา “ทีใครทีมัน ไม่ถึงตาฉันบ้างให้มันรู้ไป ชิ!” โมเมย์ถึงกับหน้างอ เดินกระทืบเท้าออกไปจากผับ เหมือนกับเด็กที่ถูกขัดใจ เมื่อเธอถูกมิ้นต์ฉกออสตินไปจนได้ ภายในระยะเวลาที่ออสตินเดินออกมาจากผับ เพียงแค่ไม่กี่นาที ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือการจัดฉาก เมื่อเดย์ได้หยิบสมาร์ตโฟนเครื่องแพงขึ้นมาถ่ายภาพออสตินกับมิ้นต์เอาไว้ได้อย่างชัดเจน เมื่อเขาควงหญิงสาวมาที่ลานจอดรถ ซึ่งท่าทางของมิ้นต์ดูเมามาก หล่อนเดินเซถลาไปมา จนออสตินต้องโอบเอาไว้ เพื่อไม่ให้หญิงสาวล้มลงไปกองกับพื้น “คุณมิ้นต์ เดินดีๆ สิครับ ตอนอยู่ในผับเห็นพูดได้ปร๋อเชียว ทำไมตอนนี้ถึงได้เมาจนคอพับ เดินเองไม่ได้อีก คุณ!... คุณมิ้นต์!” ออสตินถึงกับร้องเรียกชื่อหล่อนออกมาเสียงดัง เมื่อเขากำลังพยายามเอี้ยวตัวหลบ เพื่อเอามืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกุญแจรถออกมา แต่ทว่าหล่อนกลับเอามือคล้องลำคอแกร่งของชายหนุ่มโน้มลงต่ำ แล้วพยายามจะแนบเรียวปากขึ้นไปจูบปากออสติน จนเขาต้องรีบเอี้ยวตัวหลบ “ทำไมคะ หรือว่าคุณกลัวใจตัวเอง” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาด้วยน้ำเสียงที่ท้าทาย ขณะที่แววตาของหล่อนหวานหยาดเยิ้ม พร้อมที่จะลากออสตินเข้ามาอยู่ในภวังค์ จนเขานั้นรู้สึกขนลุกสู้ เมื่อชายหนุ่มไม่เคยถูกผู้หญิงรุกหนักแบบนี้มาก่อน “ขึ้นรถเถอะครับดึกแล้ว” ออสตินพยายามพูดเบี่ยงแบนออกไปนอกประเด็น เมื่อเขารู้ว่าผู้หญิงอย่างมิ้นต์ไม่ธรรมดา ผิดจากใบพลูเธอดูปากร้ายแต่ไร้เดียงสาจนน่าทะนุถนอม “พยุงมิ้นต์หน่อยสิค่ะ เดินไม่ไหวแล้วค่ะ” หญิงสาวยังคงใช้มารยาร้อยเล่มเกวียน เพื่อที่จะทำให้ออสตินตกหลุมพรางของหล่อนให้ได้ “เชิญครับ” ชายหนุ่มตัดรำคาญ ยอมทำตามในสิ่งที่มิ้นต์ร้องขออย่างว่าง่าย ซึ่งในเวลานี้ดูคล้ายกับว่าคนทั้งสองกำลังเร่งรีบ เพื่อที่จะได้ออกรถตรงไปยังจุดหมายที่ไม่ต้องเดา เมื่อมิ้นต์ดูเมาขนาดนั้น ที่สำคัญเดย์คงตามติดชีวิตของคนทั้งสอง ในแบบที่ออสตินคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD