ช่วงเวลาหลังอาหารมื้อเย็น ภายในบ้านหลังใหญ่ดูอบอุ่นเป็นพิเศษ หลังจากกวินได้ฟังถ้อยคำออดอ้อนของใบพลู เรื่องที่ลูกสาวกำลังจะขออนุญาตเขาไปเรียนต่อต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากเคยขอเอาไว้แต่ไม่สำเร็จ แต่ทว่าผู้เป็นบิดานั้น กลับดูมีท่าไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ เมื่อกวินรู้สึกหวงลูกสาวไม่อยากให้ไปพลูอยู่ไกลหูไกลตา
“ถ้าออสตินไปด้วย พ่ออาจจะอนุญาตก็ได้นะ” เสียงทุ้มของชายผู้เป็นบิดาดังขึ้น แต่ทว่าลูกสาวของเขานั้นถึงกับทำหน้าหงึกงอ เพราะอีกหนึ่งเหตุผลที่เธออยากไปเรียนต่อต่างประเทศนั้น ก็เพราะอยากหนีออสติน แต่บิดากลับกำลังพูดเหมือนกับว่ากำลังเข้าข้างออสตินอยากให้เขาตามติดชีวิตเธอไปทุกที่อย่างนั้นแหละ
“คุณพ่อขา... ทำไมต้องเป็นออสตินด้วยคะ เขาเผด็จการชอบทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของคนอื่น ใบพลูไม่ชอบเขาเลยค่ะ” คราวนี้หญิงสาวได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เมื่อใบพลูเห็นเขาเดินควงกับมิ้นต์ในช่วงเช้า แถมหล่อนยังเคยประกาศกร้าวว่าเป็นแฟนสาวของชายหนุ่มอีกด้วย
“เรียนจบก็ทำงานช่วยพ่อก่อนสิใบพลู สักปีสองปีค่อยไปเรียนต่อก็ยังไม่สาย” ใบบุญที่ฟังสองพ่อลูกตอบโต้กันไปมา เธอได้พูดแสดงความคิดเห็นออกมา เพื่อรักษาน้ำใจของลูกสาวและสามี
“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอดีๆ นะคะคุณแม่ คุณพ่อจะว่ายังไงคะ ถ้าใบพลูจะทำงานก่อนสักปีสองปี แล้วค่อยไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ” หญิงสาวยิ้มแฉ่งออกมา พร้อมกับหันหน้าไปถามผู้เป็นบิดา ซึ่งในเวลานี้กวินกำลังทำสีหน้าเคร่งขรึม ราวกับว่าชายวัยกลางคนกำลังตัดสินใจจะลงทุนทำธุรกิจพันล้านหมื่นล้าน ทั้งที่มันคืออนาคตของใบพลู แต่เขาก็อดที่จะห่วงเธอไม่ได้อยู่ดี
“เอาเป็นว่า ถ้าลูกสาวของพ่อทำงานผ่านโปร พ่ออาจจะอนุญาตให้หนูไปเรียนต่อโทก็ได้ อันดับแรก สิ่งที่ลูกต้องทำ คือการหาตลาดเครื่องแต่งกาย จนทำให้บริษัทของเรากลายเป็นผู้นำด้านแฟชั่น ซึ่งลูกกับออสตินต้องทำร่วมกัน”
“ออสตินอีกแล้วเหรอคะพ่อ” หญิงสาวถึงกับทำหน้ามุ่ย ทำไมชีวิตของเธอต้องมีผู้ชายอย่างเขาเข้ามาพัวพัน ตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย พอจบออกมาแล้วยังมีเขาตามเป็นเงา เมื่อโพรเจกต์ที่หญิงสาวได้รับมอบหมายนั้น ออสตินก็มีส่วนร่วมด้วย
“เขาอาจจะปากหมาไปหน่อย แต่จิตใจออสตินอ่อนโยนนะลูก”
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ใบพลูอยากให้นายออสตินมาได้ยินประโยคที่คุณพ่อพูดจัง แต่ต่อให้จิตใจอ่อนโยนแค่ไหน ถ้าไม่เอาสุนัขออกจากปาก ใบพลูก็ไม่อยากสนทนาด้วยหรอกค่ะ” ใบพลูถึงกับหลุดขำออกมา เธอหัวเราะเสียงดังจนมารดามองค้อนเข้าให้ เมื่อบิดาพูดถึงออสตินได้อย่างตรงใจ
“ตัวเองก็ปากร้ายพอกัน ยอมเขาซะที่ไหน ไม่รู้ว่าได้นิสัยใครมา สงสัยจะคนแถวนี้ละมั้ง เป็นลูกสาวอดีตมาเฟีย เลยไม่ยอมใครง่ายๆ ใช่ไหมคะคุณกวิน” ดูเหมือนว่าผู้เป็นมารดาจะเริ่มหมั่นไส้สองพ่อลูก แน่นอนว่ากวินไม่ได้ห่วงใบพลูอย่างเดียว บางทีเขาก็หวงลูกสาวจนเกินไป และผู้ชายที่เขาไว้ใจให้ใบพลูไปไหนมาไหนด้วย ก็มีเพียงแค่ออสตินเท่านั้น ซึ่งทำให้ใบพลูรู้สึกอึดอัด เมื่อเธอนั้นต้องอยู่ในสายตาของผู้เป็นบิดาตลอดเวลา จวบจนกระทั่งเรียนจบแล้วก็ยังไม่ได้รับอิสระ เพราะกวินยังคงไม่ปล่อยให้ใบพลูไปไหนมาไหนตามลำพัง
“คุณก็พูดไปเรื่อย ถึงผมจะเคยเป็นมาเฟียแต่จิตใจอ่อนโยนนะครับ” กวินยังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวาน ซึ่งเขายังคงทำตัวน่ารักอบอุ่นเสมอต้นเสมอปลาย เฉกเช่นวันแรกที่รับใบบุญเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ จนทำให้ครอบครัวที่เขาหวังเอาไว้ตั้งแต่แรก ได้กลายเป็นความสมบูรณ์แบบ ในแบบฉบับของกวินและใบบุญ
“อ้อนพ่ออีกแล้วเหรอครับพี่” ไบเบิลเดินลงมาจากบ้านพร้อมตำราเรียน ก่อนจะวางลงที่โต๊ะ แล้วหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ ผู้เป็นมารดา
“ทำไมอิจฉาพี่เหรอ นายก็อ้อนแม่เก่งจะตาย ดูสิทำหน้า ยิ้มบ้างก็ได้ พูดก็น้อยกลัวดอกพิกุลร่วงรึไง โลกใบนี้กว้างใหญ่กว่าที่นายคิดนะไบเบิล ทำไมต้องทำหน้ายังกับแบกโลกเอาไว้ตลอดเวลาแบบนั้นด้วย เคร่งขรึมเกินไปไหม” ใบพลูเอ่ยแซวน้องชายขึ้น พร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่ ด้วยความหมั่นไส้ ที่น้องชายของเธอชอบทำมาดขรึมยังกับคนที่มีอายุเลขสามบวก
“ชอบพูดแกล้งน้องนะเราเนี่ย” กวินเอามือยีลงไปที่ศีรษะของลูกสาวด้วยความเอ็นดู ขณะที่ไบเบิลโน้มตัวไปกอดมารดา พร้อมกับแกล้งทำใบหน้าอ้อน เพื่อให้พี่สาวหมั่นไส้เล่น
“รักแม่นะครับ” ไบเบิลพูดอ้อนออกมา พร้อมกับยักคิ้วให้พี่สาว อย่างทะเล้นไม่แพ้กัน แต่ทว่าเวลาเขาทำท่าทางแบบนี้แล้วก็น่ารักดี
“ชิ!” ใบพลูพูดพร้อมกับเบ้ปาก ก่อนจะเผยยิ้มน้อยๆ ออกมา ให้กับความน่ารักของน้องชาย
Rrrr!!! ขณะที่ทุกคนกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ให้กับความอบอุ่นของครอบครัวหรรษา เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของใบบุญได้ดังขึ้นมา ซึ่งทำให้ทุกคนถึงกับสงสัย เมื่อใบบุญแสดงสีหน้าเครียด ก่อนกดรับสาย
“ว่าไงคะคุณหมอ สรุปแล้วหมอจะเอายังไงต่อ” ใบบุญไม่รอช้ารีบพูดเข้าประเด็นเรื่องที่คุยกับหมอใบบัวเอาไว้ ในตอนเช้าทันที
“พี่จะโกรธฉันหรือเปล่า ถ้าฉันจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เอง ฉันสัญญาว่าจะเลี้ยงดูเขาให้เติบใหญ่ โดยที่ไม่ต้องพึ่งผู้ชายคนนั้น” น้ำเสียงของแพทย์หญิงคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมื่อเธอกำลังจะกลายเป็นคุณแม่โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“พี่จะโกรธทำไม เป็นบุญของเด็กคนนี้มากกว่า ที่เขาเกิดมามีแม่ที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติของคนเป็นแม่อย่างน้องสาวของพี่” ใบบุญไม่เคยตำหนิในสิ่งที่ใบบัวตัดสินใจ เพราะเธอเชื่อว่าน้องสาวจะสามารถเป็นแม่ที่ดีได้ โดยที่เด็กคนนั้นไม่จำเป็นต้องมีบิดา ที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างผู้ชายคนนั้น