Episode-04 เลือกผัวผิดชีวิตเปลี่ยน

1269 Words
“แม่คะหนูไม่แต่ง” “ทำไมถึงรีบปฏิเสธนักล่ะ รอเจอพี่เขาก่อนไม่ดีกว่าเหรอ” “แต่แม่คะ คนมันไม่ได้รักกันไม่ได้ชอบกันจะอยู่กันได้ยังไง เขาเป็นใครชื่ออะไรหนูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ อีกอย่างหนูเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าเอง” ฉันพยายามยกหาเหตุผลต่าง ๆ มาหว่านล้อมผู้เป็นแม่แต่เหมือนมันจะไม่สำเร็จ “ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปก็ได้นี่ไม่เห็นเสียหายตรงไหนเลย” “แม่คะ มันไม่ได้เกี่ยวว่าเสียหายหรือไม่เสียหาย มันเกี่ยวตรงที่พวกเราไม่รู้จักกัน” “ก็ทำความรู้จักซะสิ หรือว่าเรามีใครในใจอยู่แล้ว?” “หนูไม่มีใครทั้งนั้นแหละ และก็ไม่อยากมีตอนนี้ด้วย หนูชอบความสันโดษให้หนูอยู่ในโลกแคบ ๆ ของตัวเองต่อไปเถอะนะคะ” “อาชีพนักเขียนของแกมันมั่นคงนักหรือไง เคยคิดถึงวันข้างหน้าหรือเปล่าว่าจะอยู่กับใคร อยู่ยังไงถ้าไม่มีแม่” “...” “แม่อยากให้มิวมีคนคอยดูแลนะ” “ช่วงหลังมานี้แม่ชอบพูดจาแปลก ๆ นะคะ มีอะไรปิดบังหนูอยู่หรือเปล่า” “เปล่า แม่แค่อยากเห็นน้องมิวเป็นฝั่งเป็นฝาเท่านั้นเอง” “แล้วแน่ใจได้ยังไงคะว่าผู้ชายคนนั้นเขาจะดูแลหนูได้” “ยิ่งกว่าแน่ซะอีก” “แล้วถ้ามันไม่ใช่อย่างที่คิดล่ะคะ แม่จะทำยังไง” “ความรักในนิยายกับในโลกชีวิตจริงมันไม่เหมือนกันนะลูก” “ใช่ค่ะมันไม่เหมือน เพราะว่าชีวิตจริงหนูเลือกไม่ได้เหมือนในนิยายไง” ฉันพูดออกไปเป็นเชิงประชด ก็มันจริงนี่คะในโลกนิยายเราเลือกได้ว่าอยากมีสามีแบบไหนแต่ในความเป็นจริงสำหรับฉันตอนนี้แล้วมันไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรเลยด้วยซ้ำ ฉันรู้ว่าแม่หวังดีแต่อย่างน้อยก็ควรถามความสมัครใจของฉันบ้าง นี่มันสมัยไหนแล้วยังบังคับแต่งงานอยู่อีก “อีกหน่อยลูกคงเข้าใจ” “หนูอยากเข้าใจตอนนี้เลยด้วยซ้ำ” “เราไปกันดีกว่า” ใช่ค่ะ! ปุ๊บปั๊บฉันก็ถูกลากให้ไปดูว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเองเลย มันกะทันหันและตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าเรื่องคาดไม่ถึงแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงในชีวิตฉันเหมือนกับตัวละครในนิยายไม่มีผิดเลย “ป้าซินนั่งอยู่ทางด้านโน้นนะ เดี๋ยวแม่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” “ค่ะ” ขานรับอย่างเข้าใจก่อนจะพาตัวเองเดินไปยันบริเวณที่ป้าซินนั่งอยู่ มาถึงขนาดนี้แล้วปฏิเสธอะไรได้อีกล่ะคะ “สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายคนตรงหน้าพร้อมกับยกมือไหว้อย่างมีมารยาท “อ้าวน้องมิว หนูมาคนเดียวเหรอลูก” “คุณแม่ไปเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ” “จ้ะ นั่งก่อนสิลูก” หันมาพูดกับฉันจากนั้นเขาก้หันไปพูดกับใครอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังมองไปทางอื่น “เดย์นี่น้องมิวว่าที่เจ้าสาวของแก” “...” ฉันว่าฉันพอรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร พวกเราเคยเจอกันบ่อยเมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่คิดว่าวันนี้เขาจะกลายเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของฉันไง คนอะไรเย็นชาตั้งแต่เล็กจนโตแถมยังกล่าวหาว่าฉันเป็นพวกชอบเพ้อฝันอีกต่างหาก ปากร้ายมาก! ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือฉันถูกเขาพาไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ ตอนแรกก็กลัวแต่พอได้พูดคุยใกล้ชิดกันมันกลับต่างออกไปนิดหน่อย ไม่อึดอัดเหมือนตอนแรก พี่เดย์พาฉันมาร้านทำรถ ตอนแรกคิดว่าเขาจะมาแต่งซิ่งซะอีกแต่ไม่ใช่เลยร้านนี้ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นของเขานั่นแหละ ฉันก็ไม่กล้าปริปากถามอะไรกับเขามากเดี๋ยวจะโดนกินหัวเอาได้ “กูถามจริง ๆ มึงเต็มไหมเนี่ย” เป็นประโยคของผู้ชายปากร้ายที่เอ่ยถามฉันในขณะที่กำลังอ่านนิยายอยู่ “อะไรของพี่เนี่ยหนูอ่านนิยายอยู่” “ไหนมึงบอกว่าตัวเองเป็นนักเขียนไง แล้วทำไมถึงต้องอ่านของคนอื่นด้วย” เขาก็ถามไปตามประสาของคนอยากรู้นั่นแหละค่ะ “ก็อยากเป็นนักอ่านบ้างมีอะไรไหม?” “ถ้าตอบอะไรที่มันเป็นประโยชน์ไม่ได้มึงก็เงียบปากไปเถอะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก็จริงแต่มันกลับให้ความรู้สึกต่างออกไป ผู้ชายตรงหน้าฉันตอนนี้เป็นคนจริงจังพอสมควร ไม่ใช่เล่นทีทำทีแน่นอนค่ะ ฉันรู้สึกแบบนั้น ฉันพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจถึงโลกนิยายของตัวเอง จะได้เลิกพูดสักทีว่าฉันเพ้อฝันชอบยิ้มคนเดียวแต่ก็นั่นแหละค่ะ เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ระหว่างรอพี่เดย์ทำรถให้ลูกค้าฉันก็ขอเขาเข้ามารอในห้องเพราะข้างนอกยุงเยอะมากถูกกัดจนจะเป็นไข้เลือดออกตายอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ซุกซนรื้อค้นอะไรของเขานะคะแค่เขียนพล็อตนิยายค่าเวลาไปเท่านั้นเอง “พี่มีแฟนหรือเปล่าคะ” ที่ฉันเอ่ยถามพี่เดย์ไม่ใช่ว่าหลงเสน่ห์มนตร์ดำของเขานะคะ ถามเพราะกำลังจะยื่นข้อตกลงให้คนตรงหน้าต่างหากล่ะ “กูยังโสด” “หลังจากแต่งงานกันแล้วพี่ก็ใช้ชีวิตในแบบของพี่นั่นแหละ ไม่ต้องสนใจคำสั่งของผู้ใหญ่หรอก” ฉันยื่นข้อตกลงให้เขา แน่นอนว่าเขาก็รับไว้ “ดูมึงชิวดีเนอะ” “หนูก็ไม่ได้มีใครนี่ ไม่มีอะไรให้กังวลใจอยู่แล้วถึงเวลาพวกเราก็แยกย้ายกันไปเท่านั้นเอง” ฉันพูดออกไปตามความคิดอยากให้แต่งก็แต่งให้ แต่งได้ก็เลิกได้นี่ ก่อนลงจากรถไม่ลืมแลกไลน์กันไว้ด้วยถึงยังไงก็ต้องทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้อยู่ดีนั่นแหละ “เป็นยังไงบ้างลูก พี่เขานิสัยดีไหม” เจอหน้าฉันแม่ก็ตั้งคำถามขึ้นมาเลยค่ะ “เจอแค่แป๊บเดียวมันบอกนิสัยไม่ได้หรอกนะคะแม่” “แล้วพี่เขาดีกับลูกสาวแม่ไหมล่ะ” “ดูท่าทางแม่มั่นใจจังเลยนะคะว่าเขาจะเป็นคนดี” “แม่ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นคนดีสักหน่อย แต่แม่ถามว่าพี่เดย์เขาดีกับลูกไหม” “ปากร้ายค่ะ ขี้โวยวาย เจ้าอารมณ์” “...” “เฮ้อ... ไม่รู้สิคะ หนูก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน” “ปกติลูกสาวแม่อ่านคนเก่งจะตายไป” “แต่มันใช้ไม่ได้กับพี่เดย์ค่ะ เจอกันตอนเด็กตั้งหลายครั้งเขายังไม่เคยยิ้มให้หนูเลย แล้วอยู่ ๆ แม่ก็จับให้พวกเราแต่งงานกันซะงั้น พี่เดย์เขาก็ไม่ได้อยากแต่งหรอกนะคะไม่ใช่แค่หนูฝ่ายเดียวสักหน่อย” ฉันพูดออกไปอย่างเง้างอนเพราะเลือกอะไรไม่ได้เลย แบบนี้มันมัดมือชกกันเห็น ๆ “เดย์จะไม่มีวันทำให้ลูกเสียใจ ... เชื่อแม่สิ” “…” เลือกผัวผิดชีวิตเปลี่ยน คำนี้มันกำลังลอยอยู่ในหัวฉันเลยค่ะ ผู้หญิงหลายคนชีวิตพังก็เพราะเลือกผิดนี่แหละ ความรักมันฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้จริงๆ นะ ... คิดแล้วก็สยอง ฉันจะไม่มีวันเป็นแบบนั้นเด็ดขาดแล้วก็หวังว่าระหว่างพวกเรามันจะไม่มีปัญหาคารังคาซังตามมาวุ่นวายทีหลังหรอกนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD