ห้องทำงานพ่อนัย
ซีคลูพาเครปเดินเข้ามาในห้องทำงานของพ่อนัยๆมองหน้าลูกสาวและลูกสะใภ้ ท่านถอนหายใจแรงๆ แม่สนมองหน้าเครปอย่างสงสาร เพราะท่านไม่รู้ว่าบุญหรือกรรมของเครปที่มีชีวิตเหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรตามติดตลอดเลย
" หนูเครปทานยาหรือยาลูก" แม่สนถามลูกสะใภ้น้ำเสียงอ่อนโยน เพราะท่านเอ็นดูและสงสารเครปมากๆ เครปมองหน้าแม่สนพลางยิ้ม
" เครปทานแล้วค่ะคุณแม่" เครปตอบอย่างนอบน้อม
" คลูเอาให้พี่เครปทานเองกับมือค่ะคุณแม่ คริๆๆ" ซีคลูบอกแม่สน เพื่อให้แม่สนสบายใจ เธอดึงเครปมานั่งลงข้างแม่สนๆมองหน้าเครป พลางยื่นมือมาลูบผมบนหัวของลูกสะใภ้
" หนูเหนื่อยไหมหนูเครป " แม่สนถามลูกสะใภ้ พ่อนัยมองหน้าเมียอย่างเข้าใจ เพราะเมียของท่านนั้นลำบากมาก่อน เครปยิ้มหวาน ถึงแม่ในใจจะปลื้มใจแทบน้ำตาไหลออกมา เพราะนี้คือคนแรกและคนเดียวที่ถามเธอด้วยความเป็นห่วง เครปกระพริบตาถี่ๆ พลางเม้มปากแน่นๆ ก่อนจะสูดเอาอากาศเข้าปอดลึกๆ ซีคลูมองหน้าพี่สะใภ้อย่างสงสาร
" หะ....หนู" เครปพูดเสียงสั่นเครือ แผ่วเบา แทบไม่ได้ยินเสียงเลย แม่สนมองแล้วยิ่งใจหาย สงสารมากๆ ท่านดึงเครปเข้ามากอด
ตุบ! เครปถึงกับตกใจ เธอนิ่งและอึ้งเงียบ พ่อนัยมองนิ่งๆ
" หนูเหนื่อย หนูก็พักนะลูก แม่กับพ่อไม่ได้หวังให้หนูต้องมาลำบากใจกับครอบครัวของแม่นะหนูเครป " แม่สนบอกเครป ท่านกอดเครปแน่นๆกว่าเครป
" ถ้าหนูท้อ หนูเหนื่อย หนูบอกพ่อกับแม่ได้นะลูก บอกมาให้หมด พ่อกับแม่รอฟังหนูทุกๆเรื่องนะหนูเครป" แม่สนบอกเครปๆถึงกับน้ำตาไหล เธอค่อยๆยกมือขึ้นมากอดตอบแม่สน ซีคลูมองแล้วน้ำตาคลอเบ้า พ่อนัยขบกรามแน่นๆ พลางดึงลูกสาวเข้ามากอด
" เครปว่าเครปเกิดเป็นคนยากแล้วนะ แต่การเป็นคนดี เป็นคนที่ให้คนในครอบครัวเห็นค่านี้ยากกว่านะคะคุณแม่ " เครปกลั้นใจพูดออกมา เธอพยายามกลั้นเสียงสั่นเครือเอาไว้
" หนูเครปฟังแม่นะลูก ตรงนี้คือครอบครัวใหม่ของหนู ครอบครัวที่พร้อมช่วยหนูตอนหนูลำบาก ตอนหนูต้องการคนช่วย ครอบครัวใหม่ครอบครัวนี้คือทุกอย่างของหนูเครปนะลูก" แม่สนบอกลูกสะใภ้เสียงอ่อนโยน อบอุ่น มือของท่านลูบหลังของเธอเบาๆ เครปถึงกับยิ้ม เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อนัย แม่สน ซีคลูบอกกับเธอ
" อย่าคิดว่าที่นี่ไม่ใช่ครอบครัว" พ่อนัยบอกลูกสะใภ้เสียงเข้ม เพื่อให้ลูกสะใภ้เข้าใจถึงน้ำเสียงและความหมายที่ท่านพูดออกมา
" พี่เครปค่ะ คุณพ่อและคุณแม่จะให้พี่เครปเรียนต่อ พี่เครปอยากเรียนอะไรคะ" ซีคลูถามพี่สะใภ้ เครปคลายกอดออกจากแม่สน ท่านมองหน้าลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู พลางยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของเธอ เครปเม้มปากพลางก้มหน้า
" เครปเรียนหนังสือไม่เก่งค่ะ " เครปบอกกับพ่อนัย แม่สน และซีคลู ทั้งสามคนยิ้มและมองหน้ากัน ก่อนจะก้มลงไปมองเครปที่เอาแต่ก้มหน้าด้วยความอายๆ
" อยากเรียนอะไรลูก บัญชีแม่ก็ช่วยได้ บริหารพ่อก็ช่วยได้หรือตาจาร์ หรือจะให้พี่ออสอนก็ได้เพราะทั้งสองคนนั้นเก่งระดับเทพ ออกแบบ ดีไซน์เครื่องประดับก็ให้น้องติวให้ อยากเป็นหมอก็ให้ลูกสะใภ้คนโตติวให้ " แม่สนบอกเครปๆได้ยินแล้วหัวใจห่อเหี่ยว เพราะสมองระดับเธอนั้นไม่เหมาะสมกับสาขาวิชาไหนที่แม่สนพูดมากเลย
" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ คือคำว่าเรียนไม่เก่งของเครปคือ เอ่อ เครปแค่ปานกลางหรือเอ็นไปทางเอ่อ....ที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า ' โง่' นะคะ" เครปพูดและอธิบายให้ทั้งสามคนเข้าใจ อย่างอายๆ เธอก้มหน้าลงมองตักตัวเอง พลางคิดถึงคำพูดของป้าและน้องสาว
' มึงจะเรียนไปทำไมอีเครป โง่ก็โง่ เรียนไปเสียเวลา คนโง่จะกลายเป็นคนฉลาดแม่งคงเหมือนควายออกลูกมีสองหัวนั้นล่ะ' คำพูดของป้าซ้อย ตอนที่เธอตั้งใจเรียน ม. 4
' พี่เครป หาเงินให้ฉันเรียนจบ ดร. ก็พอแล้วพี่ พี่อย่าเรียนเลย ม. 4 เสียเวลาหาเงินนะพี่' พัชรลดาพูดย้ำเตือนเครป
' ใช่ๆ โง่คือโง่ มันเหมือนกัน บวก+ลบ= ลบนั้นแหละอีเครป ' ป้าซ้อยพูดขึ้นมาจี้ใจดำ คำพูดคำนี้ท่านได้จากพัชรลดาที่พูดตอนทำแบบฝึกหัด เครปทำหน้างงงวยเพราะเธอไม่รู้เรื่อง เธอแค่ยิ้มเฉยๆ
' เข้าใจหรือเปล่าพี่เครป ลบก็เหมือน ' โง่ ' น่ะพี่เครป พอมันมาบวกกับบวกที่มันฉลาด ผลออกมาก็' โง่' อยู่ดีนะพี่เครป ' พัชรลดาอธิบายให้เครปเข้าใจง่าย เครปยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนจะยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยแก้เก้อ ถึงแม้ในใจมันจะเจ็บปวดกับคำพูดของทั้งสองคนก็ตาม
" หนูเครปคิดอะไรอยู่ลูก " เสียงของแม่สนเอ่ยถามเครปที่นิ่งเงียบไป เครปสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มเจื่อนๆ
" เครปเป็นคน ' โง่ ' เครปคงเรียนหนังสือไม่ได้หรอกค่ะ" เครปพูดขึ้นมาอย่างที่ตัวเองคิด แม่สนถึงกับอึ้ง พ่อนัยขบกรามแน่นๆ ด้วยความเดือดดาล แต่ท่านพยายามข่มอารมณ์เอาไว้
" คลูว่าพี่เครปเรียนคหกรรมดีไหมคะ ?" ซีคลูถาม เครปทำหน้างงๆเพราะไม่เข้าใจคำว่า ' คหกรรม'
" ถ้าเกี่ยวกับเลข พี่ไม่ไหวนะน้องคลู พี่..." เครปพูดขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัว
" ไม่ใช่หรอกลูก มันคือการทำอาหารนะ" แม่สนอธิบายให้เครปเข้าใจ เครปยิ้มกว้าง
" มีด้วยเหรอคะคุณแม่ " เครปถามด้วยความตื่นเต้น แม่สนยิ้ม
" มีสิค่ะพี่เครป ' มหาลัย xx ' เราไปสมัครวันนี้เลยไหมคะพี่เครป" ซีคลูถามเครป พ่อนัยและแม่สนมองหน้ากัน ทั้งสองคนยิ้ม
" ไม่ต้องหรอก ถ้าหนูเครปจะเรียนที่นี่เดี๋ยวพ่อให้คนสมัครให้" พ่อนัยบอกซีคลูและเครปเข้าใจ เพราะนี้คือมหาลัยเอกชนของแทร็คและแช่อิ่มญาติของมอสตัลและพบรัก ท่านคุยเคลียร์ได้ง่าย
" เรียนหรือเปล่าหนูเครป" แม่สนถามด้วยความสงสัยและท่านก็ลุ้นๆคำตอบจากปากเครปๆมองหน้าแม่สน ซีคลู พ่อนัย เธอกัดริมฝีปากแน่นๆก่อนจะถอนหายใจแรงๆ
" ค่ะ " เธอตอบด้วยน้ำเสียงเข้ม พ่อนัย แม่สน ซีคลูยิ้มกว้างๆด้วยความดีใจ พ่อนัยดันตัวลุงขึ้นยืนและยื่นมือมาโยกเบาๆที่หัวของเครปอย่างเอ็นดู
" เก่งมากลูก" ท่านเอ่ยชมเครปก่อนจะเดินออกจากห้องไป เครปมองตามหลังพ่อนัยแล้วยิ้ม
" เครปจะตั้งใจเรียนค่ะคุณแม่ น้องคลู" เครปบอกทั้งสองคนเสียงหนักแน่นมากๆ
" คริๆๆๆๆๆ" แม่สนและซีคลูหัวเราะด้วยความดีใจ
หน้าปากซอยหมู่บ้านบ้านพ่อนัย
เครปนั่งรถเก๋งที่พ่อนัยได้ให้คนขับรถขับไปส่งเธอในที่นี่เธออยากไป แต่จู่ๆรถเก๋งต้องจอดเพราะมีคนยืนขวางทางอยู่
" ป้าซ้อย พัชร" เครปเรียกชื่อทั้งสองคนเบาๆ คนขับรถมองหน้าเครปด้วยความสงสัยผ่านกระจกหลัง ป้าซ้อยเดินมาเปิดประตูรถออกกว้างๆ
ปึ่ก!
" อีเครปมึงลงมากูรีบไปมหาลัยของนังพัชร " ป้าซ้อยสั่งเครปน้ำเสียงร้อนรน เครปอ้าปากค้างๆ
" ไม่ได้นะครับ" คนขับรถพูดขึ้นมาสวนทันควัน ป้าซ้อยและพัชรลดามองหน้าคนขับรถ
" เผือก! กูคือป้าของมัน มันควรเสียสละให้กูสิ" ป้าซ้อยด่าคนขับรถๆขบกรามแน่นๆ
" ถ้าจะไปก็ไปพร้อมๆกันครับ คุณสองคนใครก็ได้มานั่งด้านหน้า" คนขับรถบอกป้าซ้อยและพัชรลดาอย่างไม่เกรงใจ เพราะนี้คือคำสั่งของคนผู้ชาย เครปมองหน้าป้าซ้อยและพัชรลดา
" ใช่ๆมานั่งด้วยกันก็ได้ เดี๋ยวพี่ก็ลงตลาด xxแล้ว" เครปบอกทั้งสองคน ป้าซ้อยส่ายหน้า
" อีเครปนี้มึงทำตัว ' โง่ ' อีกแล้วนะ แม่ค้าขายโจ๊กเละๆอย่างมึงนะจะนั่งทำไมรถเก๋งราคาแพง เดี๋ยวคนในตลาดกับว่ามึงอวดรวย ดัดจริตหรอก" ป้าซ้อยพูดให้เครปคิดตาม เครปถอนหายใจแรงๆ
" ลงมาสิพี่เครป" พัชรลดาเร่งเครป
" ไม่นะครับคุณเครป" คนขับรถบอกเครปๆทำท่าทางลังเล
" อีเครป นี้มึงกล้าทำให้ความดันกูขึ้นเหรอ มึงอยากให้กูตายตรงนี้ใช่ไหม อีหลานอกตัญญู " ป้าซ้อยเริ่มหาข้ออ้างสารพัดเพื่อให้เครปลงมา เครปรีบก้าวลงจากรถไปทันที ป้าซ้อยและพัชรลดารีบก้าวขึ้นไปนั่งบนรถแทนทันที
" ออกรถ กูกับหลานสาวรีบ" ป้าซ้อยสั่งคนขับรถๆถอนหายใจแรงๆด้วยความเบื่อหน่าย พลางขับมรถออกไปทันที
เครปเดินมาที่ป้ายรถเมล์ เธอก้มลงมองนาฬิกาหรูที่เป็นนาฬิกาสายเก่าๆที่เธอได้มาจากเพาะรัก เครปรีบเดินลัดเลาะไปตามทางเพื่อไปที่ตลาดเพื่อซื้อข้าวสาร และของใช้อื่นๆ ที่เป็นเครื่องผสมโจ๊ก เธออุ้มกระสอบข้าวสารยี่กิโลกรัมขึ้นแบกบนบ่า มือหนึ่งถือของพะรุงพะรัง ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อไหลออกมา เสื้อผ้าเปียก แม่ค้าในตลาดมองแล้วก็สงสาร เเต่เครปไม่ได้สนใจสายตาของคนที่มองเธอ เครปเดินออกมาที่รถตุ๊กๆ
" ลุงไปห้องเช่า xx ค่ะ" เครปบอกลุงแก่
" ได้ๆวางของเลย" ลุงคนขับรถตุ๊กๆบอก เครปค่อยวางของในมือลงในรถ ตามด้วยกระสอบข้าวสารสุดท้าย เธอก้าวขึ้นไปนั่ง ลุงขับรถตุ๊กๆขับออกไปทันที เครปมองตามข้างๆทางอย่างเมอลอย จนมาถึงห้องเช่าราคาถูกในสลัม เธอรีบแบกข้าวของของตัวเองลง และรีบล้วงเงินให้ลุงคนขับรถตุ๊กๆ เครปแบกกระสอบข้าวขึ้นและเดินไปที่ประตูห้องเช่า เธอหยิบกุญแจมาเปิดประตูห้องเช่าออก พร้อมกับเข้าไปในห้อง เธอเดินออกมาเก็บข้าวของที่วางอยู่ด้านหน้าและเดินเข้าไปในบ้าน เครปมองในห้องเช่าเก่าๆ โซฟาเก่าๆ เธอเดินไปนั่งพักผ่อน ก่อนจะมองข้าวของที่ซื้อมาแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
" คหกรรม" เครปพูดออกมาเบาๆ อย่างดีใจที่เธอจะได้เรียนต่อ
" คริๆๆ " เครปหัวเราะเดียวอย่างมีความสุข
' พวกเราคือครอบครัวใหม่ของหนูนะลูก' คำพูดของแม่สนผุดขึ้นมาในหัวของเครปๆยิ้ม
" ครอบครัวใหม่" เธอพูดออกมากพึมพำคนเดียว
ตอนบ่าย
เครปเดินทางมาที่คอนโดของคุณหมออธิ โดยเธอไม่รู้และมองไม่เห็นเลยว่าที่มุมประชาสัมพันธ์นั้นมีออดี้นั่งคุยงานกับลูกค้าอยู่ เขามองเห็นเครปพอดี ออดี้มองท่าทาง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเธอแล้วเขาปากคว่ำ เครปเดินตรงไปที่ลิฟต์ทันที
' ถึงห้องพี่หรือยังน้องเครป' อธิถามเครปด้วยความสงสัยผ่านโทรศัพท์ราคาแพง เครปยิ้ม
" ยังค่ะพี่อธิ เครปกำลังขึ้นลิฟต์ค่ะ" เครปตอบเขา พร้อมกับกดชั้นที่เธอต้องการ ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลง
' เหรอครับ ' อธิถาม
" ค่ะ " เครปตอบสั้นๆ ทั้งสองคนเงียบไปสักพักหนึ่งไม่มีใครพูดอะไรเลย
ติ่ง! เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นบ่งบอกว่าถึงชั้นที่ต้องการเเล้ว เครปก้าวออกจากลิฟต์เดินตรงไปที่ห้องของอธิ เธอล้วงมือหยิบกุญแจห้อง คีร์การ์ดมาทาบที่ประตู
' ใส่รหัส xxxx ด้วยครับ' อธิบอกเครปๆรีบทำตามทันที
แคว่ก! เสียงกลอนประตูห้องปลดล็อค เครปก้าวเข้าไปในห้อง ทุกอย่างในห้องเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน กลิ่นหอมๆของน้ำหอมห้องลอยเข้าจมูกของเธอ
' น้องเครปถอดรองเท้า แล้วเดินไปที่ห้องรับแขกก่อนนะครับ' อธิบอกเครป
" ค่ะ" เธอตอบเขาสั้นๆ พร้อมกับเดินตรงไปที่ห้องรับแขก
' น้องเครปหยิบผ้าเย็นขึ้นมาเช็ดหน้าก่อนนะครับ เสร็จแล้วดื่มน้ำเย็นสักแก้วแล้วค่อยทำงานนะครับ' อธิบอกเครปทีละขั้นตอน เครปทำตามอย่างว่าง่าย เธอวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเล็กด้านหน้า มือหยิบผ้าเย็นขึ้นมาเช็ดตามใบหน้าของตัวเอง กลิ่นหอมๆจากน้ำยาซักผ้ายี่ห้อดังลอยเข้าจมูกของเธอ เครปหลับตาลงอย่างเคลิ้มๆ มือเช็ดผ้าเย็นวนไปวนมาตามใบหน้า จนพอใจแล้วเธอวางผ้าเย็นลงไว้ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม
อึก!ๆๆๆๆเครปดื่มน้ำเสียงดัง เพราะเธอกระหายน้ำมากๆ เธอวางแก้วลงไว้บนโต๊ะ ก่อนจะมองรอบๆห้อง ตาของเธอเริ่มปรือๆ และเธอก็ล้มลงนอนบนโซฟาหลับไป อธิมองในกล้องวงจรปิดแล้ว เขายิ้ม เพราะเขาอยากให้เธอพักผ่อนหลังจากแบกกระสอบข้าวและเตรียมเครื่องเอาไว้ เพื่อขายพรุ่งนี้
' เครปครับเครป' อธิเรียกเครปเพื่อความแน่ใจผ่านโทรศัพท์ สายตาของเขามองร่างที่หลับไปแล้วนิ่งๆ
' เครปครับ' อธิยังเรียกเครปเพื่อความแน่ใจ แต่เครปหลับและหายใจสม่ำเสมอแล้ว เขากดตัดสายทันที
" คนไข้คนต่อไปครับ" หมออธิบอกพยาบาลให้เรียกคนไข้เข้ามาในห้อง พยาบาลเรียกคนไข้คิวต่อไปทันที อธิปลายตามองเครปในกล้องวงจรปิดนิ่งๆ คนไข้เดินเข้ามาและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเขาทันที อธิถามอาการคนไข้ และเริ่มตรวจตามร่างกาย เขารู้สึกอารมณ์ดีมากๆ
คอนโดของหมออธิ
ออดี้นั่งรอเครปอยู่ด้านล่างนานเป็นสามชั่วโมง เขามองไปที่ลิฟต์เป็นระยะๆแต่ก็ไม่เห็นว่าเครปจะลงมาเลย
" กกกันตอนกลางวันแสกๆ" ออดี้เค้นเสียงลอดไรฟันด้วยความหงุดหงิด
' กูโดนสวมเขา ' เขาพลางคิดในใจ สายตาของเขามองลิฟต์อย่างลุ้นๆ แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เห็นเครปออกมาจากลิฟต์เลย
" ขาอ่อนเดินไม่ไหวแล้วมั้งหรือตายคาแท่งแล้วล่ะ" ออดี้คิดต่างๆนาๆ อย่างเดือดดาล
ติ่ง! เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นมา พร้อมร่างของเครปก้าวออกมาจากลิฟต์ ออดี้แสยะยิ้มร้าย
" ยัยหนู!" เขาเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาเหี้ยมๆ
ออดี้?? ป้าซ้อย ??????