เมื่อมาถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็ต้องเดินทางต่อด้วยรถตู้สองคันที่ทางอำเภอผาตะวันส่งมารับทีมอาสาสมัครจากเมืองกรุงกว่ายี่สิบคน เพื่อมายังจังหวัดเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องหมอกสามฤดู
หลังจากรถเคลื่อนเลยตัวเมืองเชียงใหม่มาได้สักพัก อิงครัตก็เริ่มสังเกตเห็นว่าสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลอมแดง บนต้นไม้บางต้นตอนนี้เหลือแต่กิ่งก้าง บ่งบอกว่าเริ่มจะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว
รถตู้คันใหญ่แล่นไปบนถนนลาดยาง ความกว้างสองช่องจราจร ตัดผ่านพื้นที่ป่าไม้ ทิวเขาและภูเขา ทำให้ถนนมีความคดโค้งและลาดชันต่อเนื่องเป็นระยะๆ เพราะต้องขึ้นเขาลงเขาตลอดเส้นทาง สาวน้อยรู้สึกตื่นเต้นกับสองข้างทางและถนนที่แสนจะท้าทายข้างหน้าจนต้องดึงโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกวีดีโอผ่านทางกระจกหน้าต่างรถเป็นพักๆ
ระยะทางข้ามจังหวัดเพื่อไปยังจุดหมายเพียงสองร้อยกว่ากิโลเมตร แต่ใช้เวลานานเกือบครึ่งวัน เพราะทีมอาสาสมัครบางคนเมารถจนต้องพักระหว่างทางเป็นช่วงๆ เนื่องจากไม่ชินกับระยะทางที่คดโค้งเป็นพันกว่าโค้ง อิงครัตเองก็เกือบจะไม่รอดอ้วกแตกระหว่างทางแล้วเหมือนกัน ยังดีที่มาถึงจุดหมายปลายทางเสียก่อน
เป็นเวลาบ่ายสามโมงตรงที่เหล่าทีมอาสาสมัครเดินทางมาถึงอำเภอผาตะวัน หลังจากลงรถทุกคนก็ถูกพามายังห้องประชุมของอำเภอ เพื่อเช้าร่วมประชุมทำความเข้าใจและแบ่งงานกันก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าที่พัก
“สวัสดีครับนายอำเภอ นี่เป็นทีมอาสาสมัครจากกรุงเทพฯ ทั้งหมดที่เดินทางมาวันนี้ครับ”
เจ้าหน้าที่คนที่ทำหน้าที่ไปรับทีมอาสาสมัครมาจากสนามบินเชียงใหม่กล่าวรายงาน ก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันยกมือไหว้อย่างสวยงาม ทักทายบุรุษหนุ่มตรงหน้าเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ที่กำลังนั่งมองเอกสารอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวหัวโต๊ะในห้องประชุมด้วยท่าทางนิ่งขรึม ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมากล่าวทักทายทุกคน
“สวัสดีครับ ผมศรัณ นายอำเภอผาตะวัน ยินดีต้อนรับทีมอาสาสมัครทุกท่านครับ”
พูดขณะที่กวาดสายตามองทุกคนด้วยความเป็นมิตรในฐานะเจ้าบ้านที่ดี จากนั้นก็เอ่ยเชิญทุกคนให้กระจายกันนั่งลงบนเก้าอี้ที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้
“นายอำเภอศรัณน่าจะเป็นนายอำเภอที่หน้าตาดีที่สุดในประเทศแล้วละแก ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ที่ตัดสินใจมาร่วมเป็นอาสาสมัครครั้งนี้”
เสียงหนึ่งของอาสาสมัครหญิงที่กระซิบบอกเพื่อนตรงหน้า แต่ก็ดังพอที่คนนั่งอยู่ข้างหลังอย่างอิงครัตจะได้ยิน และเธอก็เห็นด้วยกับสิ่งที่อีกฝ่ายพพูดอย่างไม่มีข้อกังขาเลยแม้แต่น้อย
ไม่ได้เจอกันนาน ตอนนี้เขาดูดีและหล่อเหลากว่าเมื่อก่อนมาก อีกทั้งยังดูขรึมเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะน้ำเสียง หรือการวางตัว ก็ชวนให้ใจสั่นได้ทั้งนั้น
ทั้งที่พยายามนั่งอยู่ข้างหลังสุดของห้องประชุม เพราะไม่ต้องการหลุดพิรุธอะไรให้คู่หมั้นหนุ่มจับได้ว่าเธอเป็นใคร แต่กระนั้นก็อดที่จะเหลือบมองเขาเป็นระยะๆ ไม่ได้อยู่ดี
‘บ้าไปแล้วยายอิง นี่เราเป็นอะไรเนี่ย!’
อิงครัตต่อว่าตัวเองในใจ เมื่อรู้สึกตื่นเต้นจนเหงื่อซึมเต็มฝ่ามือ สาวน้อยเผลอบีบมือตัวเองไว้แน่น ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกลัวถูกจับได้ หรือเพราะได้เจอหน้าคู่หมั้นหนุ่มกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย
‘เขาจำเราไม่ได้ ท่องเอาไว้ยายอิง’
อิงครัตไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะเกิดอาการประหม่าได้ถึงเพียงนี้ ทั้งที่ปกติแล้วเธอเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจ หรือลงมือทำอะไรก็ตาม แต่ครั้งนี้ความมั่นใจที่มีเหมือนจะเลือนหายไปทันทีที่ได้เจอหน้าของเขา ถึงแม้จะนั่งห่างกับเขาตั้งไกล แต่ก็มิวายรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี
“ขอโทษที่เชิญทุกท่านเข้าห้องประชุมก่อนเข้าที่พัก พอดีเราจำเป็นต้องชี้แจงงานพร้อมแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าที่พัก ไม่ทราบว่ามีใครมีปัญหากับการเดินทางหรือเข้าการร่วมประชุมไหมครับ”
เสียงทรงอำนาจบอกกับทุกคนก่อนจะเอ่ยถาม พลางกวาดสายตามองหาผู้ที่มีปัญหา แต่เมื่อทุกคนเงียบไม่มีการโต้แย้งใดใดนายอำเภอหนุ่มก็พูดต่อ
“การทำงานอยู่ในฐานปฏิบัติการควบคุมไฟป่านั้นเราจะแบ่งทีมออกเป็นสี่ทีมด้วยกัน โดยมีหัวหน้าทีมของแต่ละฝ่ายคอยดูแลตามนี้ครับ”
นายอำเภอหนุ่มหยุดพูดเหมือนต้องการรออะไรบางอย่าง และเพียงอึดใจเดียว ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงฮือฮาของเหล่าทีมอาสาสมัครโดยเฉพาะเสียงชะนีเก้งกวางทั้งหลาย เมื่อสามบุรุษหนุ่มรูปงามปรากฏตัวขึ้นตรงประตูทางเข้าแล้วก้าวยาวๆ เข้ามายังห้องประชุมพร้อมกัน
สายตาทุกคู่กวาดมองตามร่างสูงสง่าของทั้งสามหนุ่มในชุดเครื่องแบบเต็มยศเดินไปยังหัวโต๊ะ และทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ นายอำเภอเรียงกันเป็นหน้ากระดาน ราวกับต้องการจะมาประชันความหล่อเหลา และความเท่ที่กินกันไม่ลงเลยทีเดียว
“โอ้มายก๊อด! นี่ฉันมาผิดงานหรือเปล่าเนี่ย!”
จอห์นที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวถึงกับหลุดอุทานออกมาเบาๆ ขณะที่จ้องสี่หนุ่มหล่อด้วยสายตาหื่นกระหายอย่างไม่คิดปิดบัง
“เก็บอาหารหน่อยสิจอนนี่ ท่องเอาไว้ว่าเธอเป็นแฟนฉัน อย่าหลุดกิริยาที่สื่อได้ว่าเธอชอบผู้ชายเด็ดขาด!”
อิงครัตสะกิดเตือนสติเพื่อนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเผลออ้าปากค้างจนน้ำลายแทบจะหกอยู่รอมร่อ ส่วนสายตานั้นก็ประกายแพรวพราวอย่างกับเจอของที่ถูกใจ
“พวกเราคือหัวหน้าทีมปฏิบัติการพิเศษที่จะคอยดูแลอาสาสมัครตลอดช่วงที่ทุกคนมาช่วยงานอยู่ฐานควบคุมไฟป่าครั้งนี้ครับ”