บทที่ 2 : นายอำเภอร้อยเล่ห์ (3)

1036 Words
หลังจากที่ทุกคนได้เลือกลงชื่อเข้าทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาที่ต้องแยกย้ายกันขึ้นรถเพื่อเข้าที่พักซึ่งอยู่ที่ฐานปฏิบัติการควบคุมไฟป่า และข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ทุกคนต้องทราบก่อนเข้าที่พักคือ ที่นั่นไม่มีไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกใดใดทั้งสิ้น รวมทั้งไม่มีคลื่นโทรศัพท์อีกด้วย และดูเหมือนทุกคนจะยอมรับได้ เพราะเตรียมตัวเตรียมใจกันมาบ้างแล้ว “ผมยังไม่อนุญาตให้คุณออกจากห้อง” เท้าเรียวยาวที่กำลังจะก้าวออกจากประตูห้องประชุมตามคนอื่นไปขึ้นรถ ถึงกับชะงักกึก หัวใจดวงน้อยไหวไปวูบหนึ่ง ก่อนจะตั้งสติแล้วหันมาเอ่ยถาม “นายอำเภอหมายถึงดิฉันเหรอคะ” สาวน้อยถามพร้อมชี้นิ้วมาที่อกตัวเอง เพราะในห้องนี้เหลือเพียงเธอเกือบคนสุดท้ายที่กำลังจะก้าวพ้นประตูห้องประชุม ส่วนคนสุดท้ายก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนที่ทักเธอ “ใช่คุณนั่นแหละ อิง” เสียงทุ้มบอกพร้อมเน้นเสียงหนักตรงคำเรียกแทนที่แสนสั้นราวกับสนิทสนมกันเป็นอย่างดี แถมยังบังเอิญตรงกับชื่อเล่นของเธอเข้าอย่างจัง ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเดินตรงมาหาเธอช้าๆ ด้วยทวงท่าที่สง่างาม มือข้างหนึ่งของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสบายๆ “ต่อไปผมจะเรียกคุณสั้นๆ ว่าอิง คุณคงไม่มีปัญหาอะไร” ดวงตาคู่คมจงใจสบประสานกับดวงตากลมโตนิ่ง ราวกับต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง และแน่นอนว่ามันรบกวนจิตใจดวงน้อยมากจนแทบจะหลุดพิรุธออกมาให้เขาเห็น ทว่าเธอยังมีสติมากพอที่จะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเตรียมรับมือ “ไม่มีปัญหาค่ะ ว่าแต่นายอำเภอมีอะไรจะคุยกับดิฉันอีกงั้นเหรอคะ” “ผมอยากจะให้คุณอ่าน และทำความเข้าใจกับหน้าที่รับผิดชอบของคุณหน่อย” “ค่ะ” อิงครัตรับเอกสารจากมืออีกฝ่าย แล้วเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมอย่างว่าง่าย ‘หน้าที่ของผู้ช่วยส่วนตัวนายอำเภอ’ แค่อ่านหัวข้อเรื่องที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ากระดาษคิ้วโค้งงามก็ต้องเลิกขึ้นสูงพลางเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงสง่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ และดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเธอกำลังเกิดความสงสัยกับหน้าที่ของตัวเอง เลยช่วยอธิบายเพิ่มเติม “หน้าที่ประสานงานจะต้องคอยรับคำสั่งจากผมโดยตรง อีกทั้งยังต้องลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านพร้อมผมทุกที่ หากมีเรื่องด่วนฉุกเฉินแม้แต่ตอนกลางคืนคุณก็ต้องไปด้วย ผมก็เลยเรียกหน้าที่นี้สั้นๆ ว่าผู้ช่วยส่วนตัว” คนฟังกระพริบตาปริบๆ ขนาดที่พยายามคิดตามคำอธิบายของอีกฝ่ายช้าๆ แต่เมื่อพบว่ามันไม่มีพิรุธก็เลยก้มหน้าอ่านต่อ แต่พออ่านจบก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาถามอีกครั้ง “หน้าที่ของฉันดูเหมือนว่าต้องตัวติดกับนายอำเภอแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะคะ” เสียงหวานประชดเป็นนัยๆ และมองหน้าชายหนุ่มด้วยความกังขา บ้าไปแล้ว! ขนาดที่พักก็ยังต้องพักบ้านเดียวกับนายอำเภอเลย “ใครว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงล่ะ อย่างน้อยเวลาเข้าห้องน้ำหรือเวลานอนก็ต้องแยกกันอยู่ดี” คนถูกถามตอบหน้าตายไม่ต่างจากน้ำเสียงเรียบเฉย “ก็อย่างที่บอกเราต้องพร้อมลงพื้นที่ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าคุณไปพักที่ฐานปฏิบัติการซึ่งระยะทางอยู่ห่างจากที่นี่เกือบยี่สิบกิโลเมตร และที่สำคัญที่นั่นไม่มีคลื่นโทรศัพท์ ถ้าเกิดผมต้องการเรียกตัวคุณด่วนจะให้ไปหาที่ฐานคงไม่ทันการ” เหตุผลเป็นชุดของนายอำเภอ ทำให้คนที่ไม่ทันเกมถึงกับต้องอ้าปากค้างเถียงไม่ออก เพราะดูเหมือนว่าเขาจะวางแผนทุกอย่างไว้ก่อนแล้ว เป็นเธอเองต่างหากที่หลงกลตกปากรับคำพร้อมลงชื่อเข้าร่วมทีมเดียวกับเขาไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งดูจากท่าทางของเขาตอนนี้คงไม่ยอมให้เธอเปลี่ยนใจไปอยู่ทีมอื่นแน่ๆ แม้อิงครัตตั้งใจจะมาทำความรู้จักและหวังจะได้ใกล้ชิดกับว่าที่เจ้าบ่าวแค่ไหน แต่การที่ต้องเจอหน้ากันทุกวันแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันก็เห็นจะไม่ไหว ‘ขืนอยู่ใกล้กันขนาดนี้ สักวันคงถูกจับได้แน่เรา’ คิดแล้วใบหน้างดงามก็เผลอแสดงสีหน้ากังวล แต่เมื่อคิดในทางกลับกัน การได้อยู่ใกล้ชิดเขาจะเป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้เรียนรู้จักนิสัยใจคอ อีกทั้งยังสามารถสอดส่องเรื่องคุณนายเล็กคุณนายน้อยอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วนั้น มุมปากสวยก็เผลอคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตกลงค่ะ! ฉันจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของนายอำเภอ และจะอยู่บ้านพักเดียวกับนายอำเภอค่ะ” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่เธอยอมตกลง ก็ทำให้คนที่กำลังรอลุ้นอยู่เงียบๆ ต้องลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะนี่เป็นคำตอบที่เขารอคอยและต้องการที่สุด! “ดีมาก งั้นก็ตกลงตามนี้” พูดจบศรัณก็กระตุกยิ้มที่มุมปากแวบหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ แล้วดึงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป่ากางเกงเพื่อต่อสายหาเพื่อนสนิททันที “ไอ้ภู ช่วยสั่งลูกน้องให้เอากระเป๋าและข้าวของในส่วนของคุณอิงทิราลงจากรถด้วย เพราะเธอจะพักที่นี่” “ร้าย!” ภูมินทร์สวนกลับอย่างรู้ทันหลังจากที่ฟังจบ ก่อนจะมอบคำสั้นๆ ให้เพื่อน เพราะคำนี้เหมาะกับนายอำเภอร้อยเล่ห์ในเวลานี้ที่สุดแล้ว ซึ่งก็ดูเหมือนว่านายอำเภอหนุ่มจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับคำเหน็บแนมของเพื่อนแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ “หึๆ ขอบใจสำหรับคำชม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD