“ฉันก็แค่ห่วงคุณในฐานะลูกของอดีตสามีเท่านั้น ถ้าไม่มีคุณฉันก็ไม่มีเงินเดือน เพราะแบบนั้นช่วยทำตัวดี ๆ จนกว่าจะอายุครบยี่สิบสองได้ไหมคะ”
คำพูดยาวเหยียดทำเอาภูดิษอารมณ์ดีไม่น้อย
เป็นคนเดียวที่ต้องการเขา
เป็นห่วงเขา
นี่มันประโยคบอกรักดี ๆ เลยไม่ใช่เหรอ ชายหนุ่มกดมุมปากก่อนจะจ้องใบหน้าหวานตาเป็นมัน ทำให้เพียงขวัญได้แต่มึนงง
“คุณเป็นไบโพลาร์รึไงคะ ปล่อยได้แล้ว”
“พวกแม่เลี้ยงใจร้ายนี่น่ารำคาญชะมัด คิดแต่ว่าลูกเลี้ยงจะแย่งสิ่งดี ๆ จากตนเองไป แต่บางทีซินเดอเรลล่าอาจจะแค่อยากได้แม่เลี้ยงเป็นเมียก็ได้”
เผียะ!
ฝ่ามือเล็กสะบัดเข้าใบหน้าภูดิษอีกครั้งเมื่อเขาพูดประโยคบ้า ๆ นั่นออกมา หญิงสาวเบิกตากว้างก่อนจะขยับร่างกายที่หนักอึ้งหมายจะหนีให้พ้น สายตาที่กวาดมองเรือนร่างเธอเต็มไปด้วยประกายไฟปรารถนาจนออกนอกหน้า
หัวใจของเพียงขวัญเริ่มบีบรัดรุนแรง
ระหว่างความถูกต้องกับความใคร่ตีกันในหัวสมองอย่างน่ารังเกียจ
“พูดบ้าบออะไรของคุณ แม่เลี้ยง ซินเดอเรลล่าบ้าบออะไรปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณภู หยุดพูดต่ำ ๆ กับฉันด้วย”
“ตบอีกสิ ฉันพูดต่ำ ๆ เป็นหมาบ้าหนิ ไม่ชอบก็ตบอีก เพราะเธอตบฉันจะกัดให้จมเขี้ยว แล้วก็จะทำมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตอนนี้ฉันอยากได้เธอแทบบ้าเลยเพียงขวัญ”
เผียะ ๆ ๆ ๆ
“คุณภูปล่อยฉันนะคะ” เพียงขวัญกรี๊ดเสียงหลงเหมือนคุยกับคนที่พูดไม่รู้เรื่อง เขาเหมือนคนบ้าที่พยายามจะเอาชนะเธอ แล้วยังฉวยมือเธอไปตบหน้าตัวเองอีกหลายที
ภูดิษขบฟันแน่นใบหน้าแดงก่ำสะกดอารมณ์ตามสิ่งที่พูด จะทำไมในเมื่อเขาอยากได้คนตรงหน้า อยากจูบ อยากหอม อยากกอด อยาก...แทบบ้า
เผียะ!
“คุณภู!!!” เพียงขวัญตวาดเขาเสียงสั่นเมื่อเขาเอามือเธอไปตบหน้าตัวเองอีกครั้ง ก่อนดวงตาเกรี้ยวกราดดังไฟโทสะที่ลุกโชนจะสบกับดวงตาฉ่ำน้ำของเธอ
เท่านั้นภูดิษก็ตัดสินใจขบฟันลงกลางฝ่ามือหญิงสาว ตบอีกครั้ง กัดอีกครั้ง เลื่อนขึ้นเรื่อย ๆ จากมือ ขึ้นแขน หัวไหล่ และลำคอ ผิวนุ่มที่เสียดอยู่ที่ริมฝีปากและฟันปั่นป่วนสมองหมาบ้าให้แทบคลั่ง เผลอตวัดลิ้นเลียก่อนขบซ้ำ ๆ จนหยุดที่ริมฝีปากบาง
“คุณภู...อึก”
“ชิ!”
หญิงสาวมองเขาอย่างหวาดหวั่น กลัวว่าเขาจะจูบเธออีก หัวใจเต้นกระตุกพานให้รู้สึกว่ากำลังหายใจไม่ทัน น้ำตาหยดกลิ้งจากใบหน้าหล่นบนโต๊ะระบายความเจ็บ ไม่ทันได้เห็นแววตาคลั่งไคล้ที่เปลี่ยนเป็นเหยียดหยามในเสี้ยววิ
รอยกัดที่ภูดิษฝังไว้ที่ท่อนแขนเปลือยเปล่าแสบร้อนจนไม่สามารถหยุดน้ำตาได้
“ไม่ได้นะคะ ฉันเป็นภรรยาของพ่อคุณนะ” น้ำเสียงสั่นเครือและประโยคนั้นทำให้ภูดิษกัดฟันกรอด ปากหยักจุ๊บเรียวปากเล็กเบา ๆ แล้วรีบผละออก
ใจจริงเขาอยากจะกัดริมฝีปากเก่ง ๆ นั่นให้รู้แล้วรู้รอด ยามที่เธอขยับเรียวปากเล็กนั่นก็สัมผัสกับกลีบปากเขาจนได้กลิ่นลิปสติก พร้อมกับความร้อนที่โลมเลียให้เร่าร้อนขึ้นมาอย่างง่ายดาย กลิ่นกายแต้มด้วยกลิ่นดอกไม้ที่โชยเข้าจมูกยิ่งทำให้อดใจยากขึ้นทุกที
ร่างสูงชะงักไปก่อนจะรีบผลักร่างกายออกจากหญิงสาวราวกับต้องของร้อน
“คิดว่าฉันอยากได้เธอจริง ๆ รึไง ก็แค่อยากรู้ว่าผู้หญิงที่ใครก็อยากได้ไปทั่ว มีอะไรดีนักหนาอาทัศน์ถึงมาเสนอเงินให้เธอถึงที่”
“นั่นสิคะ” หญิงสาวแค่นยิ้มประชด ไม่โกรธเขาแต่สมเพชตัวเองเสียมากกว่า
ท่าทางนั้นทำให้ภูดิษเม้มปากแน่น เขาขบสันกรามในใจร้อนระอุแทบอยากตามไปบีบคออาตัวเองให้ตายคามือ ดวงตาเรียวหลุบมองเพียงขวัญราวกับคิดเรื่องวุ่นวายในหัว
อยากเอาเธอขังไว้ในที่ ๆ ใครก็หาไม่เจอ
ความคิดสกปรกครอบงำราวกับปีศาจร้าย ดำมืดอยู่ในหัวสมอง ก่อนจะรู้ตัวว่าความคิดแบบนั้นมันน่ารังเกียจแค่ไหน ภูดิษเลียริมฝีปากผ่อนลมร้อนก่อนจะได้สติ เมื่อหญิงสาวลุกขึ้นนั่งพลางปาดน้ำตา ยกมือดันอกแกร่งให้พ้นรัศมีตัวเอง
“บอกทนายนั่นให้เบิกเงินมาให้ฉันด้วย ฉันอยากได้รถคันใหม่”
“แต่เดือนที่แล้วคุณภูก็เพิ่งซื้อไปนี่คะ ยังขับได้ไม่เท่าไหร่จะซื้ออีกแล้วเหรอคะ”
“เงินฉัน”
เพียงขวัญหน้ามุ่ยทันควัน “แต่ฉันเป็นผู้ดูแลคุณนะคะอย่าลืม”
“ชิ! ดูแลตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ เอาเงินเข้าบัญชีให้ฉันด้วย” เขาย้ำอีกครั้ง “ถ้าภายในอาทิตย์นี้ยังไม่ได้ฉันจะตามไป ‘เอา’ กับเธอให้ถึงที่เลย”
“เอ๊ะ!” หัวใจที่ผ่านเรื่องหวาดเสียวมาอยู่ ๆ ก็เต้นแรงเมื่อเขาย้ำคำนั้น ก่อนจะรู้ว่าตัวเองตกหลุมพรางเขาเข้าให้แล้ว เมื่อได้ยินเสียงเตือนสติพร้อมเสียงหัวเราะในลำคอ
“คิดสกปรกอยู่น่ะสิ”
“ปากคุณนี่มัน...โดนตบกี่ทีก็ไม่ดีขึ้นเลย”
ภูดิษยักไหล่เบ้ปากใส่แม่เลี้ยงสาวแสบ ๆ คัน ๆ ไม่เห็นจะรู้สึกอะไร
“ส่วนเรื่องไอ้แก่ตัณหากลับนั่นไม่ว่ามันจะเสนออะไรมาปฏิเสธมันไป แล้วก็เลิกติดต่อกับบ้านใหญ่ได้แล้วถ้าเธอยังอยากมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข”
“ฉันรู้ตัวค่ะว่ากำลังทำอะไรอยู่”
“เพราะแบบนั้นถึงไม่ต้องทำไง คิดว่าเธอฉลาดอยู่คนเดียวในโลกเหรอ ถ้าเธอยังยุ่มย่ามเรื่องฉันและดิ้นพล่านยุ่งกับคนพวกนั้นไปเรื่อย ฉันจะเป็นหมาบ้า ไล่กัดแขนขาเธอให้ขาดทีละข้างเลยเพียงขวัญ”
หน้าที่แม่เลี้ยงอย่างเธอ คือพยายามจะเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของเขา คืนมาให้ก็เท่านั้น เพียงขวัญเหลือบตาขึ้นสบกับสายตาของภูดิษที่บ่งบอกว่าเขากำลังเอาจริง และกำลังเป็นห่วงเธอ
รอยฟันที่ฝังอยู่บนผิวเริ่มร้อนผ่าว เพียงขวัญกะพริบตาปริบ ๆ ปิดปากเงียบไม่อยากเถียง เพราะเธอได้โดนเขากัดอีกแน่
“จะปิดร้านรึยัง ไสหัวเธอกลับพร้อมกันสิ”
ไสหัวกลับพร้อมกัน?
คำชวน?
เพียงขวัญถลึงตามองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
เขาเป็นหมาบ้าจริง ๆ แล้วรึไง!!!
ขอถอนคำพูดที่ว่าเขาเป็นห่วงเธอแล้วกัน ไอ้เด็กบ้านี่ก็แค่หมาบ้าอยากไล่กัดแขนเธอก็เท่านั้นแหละ หญิงสาวบ่นพึมพำคว้าดอกไม้ที่พื้นแล้วกระแทกร่างสูงออกให้พ้นทางราวกับเขาเป็นตัวเกะกะ ไม่ทันเห็นภูดิษที่วางคางบนพนักพิงเก้าอี้ ก่อนจะยกยิ้มกว้างมองตามร่างบางด้วยแววตาพึงพอใจ