สัมผัสรัก 4 เฉย

1127 Words
('ทำไมขี้เซาจัง ถึงเวลาไปดูแลร่างฉันแล้ว') เสียงนี้ดังเข้ามาในโสตประสาทการได้ยินของฉัน แต่ฉันเหนื่อยไง รู้สึกเพลียคงจะใกล้ถึงวันนั้นของเดือนแล้วแน่เลย ('นี่ ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน ตื่น ๆ') ทำไมฟ้าช่างโหดร้าย ส่งวิญญาณตนนี้มาให้ฉันรู้จักนะ ('เธอกำลังว่าฉันใช่ไหม') 'ฉันเกลียดนาย ได้ยินไหมฉันเกลียดนาย' ฉันว่าเขาในใจยังคงหลับตาดังเดิม ('คนอย่างฉันคนชอบทั่วประเทศ มีแต่เธอนั่นแหละยัยเต่าล้านปี ยัยคนไม่มีความรู้สึกคนหล่อ ๆ อยู่ตรงหน้าแทนที่จะกรี๊ดดันวางท่าเฉยเมย') 'ฉันจำได้ว่านาฬิกาปลุกยังไม่ดัง แสดงว่ายังไม่ถึงเวลาตื่น นี่นาย...' ฉันลืมตาขึ้นกะจะใส่เขาเต็ม ๆ ที่บังอาจมารบกวนเวลานอนอันมีค่าของฉัน แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงัก! เมื่อฉันลืมตาขึ้นเห็นใบหน้าคมจ่อชิดที่ใบหน้าของฉัน ตึก ตัก ตึก ตัก! เสียงจังหวะหัวใจของฉันมันเต้นแรงผิดปกติ ใบหน้าร้อนผ่าวทุกอย่างรอบตัวของฉันเหมือนหยุดนิ่ง สายตาสองคู่จ้องมองกัน ใบหน้าของดาราชายตัวร้ายในจอค่อยๆเลื่อนขยับเข้าประชิดใบหน้าฉัน ปากหนากำลังจะประกบริมฝีปากของฉัน ฟุบ! เหมือนมีบางอย่างแทรกผ่านตัวของฉันไป สติของฉันเริ่มกลับคืนมาแล้วสิ่งที่เคลื่อนผ่านก็คือวิญญาณของนายบัลลังก์นั่นเอง 'ฉันเกือบจะจูบกับวิญญาณเหรอเนี่ย? ตั้งแต่เกิดมาริมฝีปากของฉันไม่เคยมีใครได้สัมผัสเลยนะ' ('อย่าบอกนะว่าเต่าล้านปีแบบเธอยังไม่เคยมีแฟน') เสียงนี้ดังขึ้น ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าการคิดในใจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เคยเป็นมา "มันเรื่องของฉันไหม แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าเต่าล้านปีด้วย!" ฉันโวยวายเพราะเริ่มจะไม่พอใจกับสิ่งที่นายบัลลังก์เอ่ยเรียก เต่าล้านปีบ้าอะไร ฉันแค่ไม่ชอบละครทีวี ฉันกลายเป็นเต่าเลยหรือไง ('ฉันไม่เลิก เธออะมันเต่าล้านปี เฉิ่มเชยเป็นที่สุดเห็นแล้วไม่สะดุดตาสะกิดใจสักนิด ไม่เหมือนบรรดาผู้หญิงของฉันที่มองทีไรก็รู้สึกอยากขึ้นเตียงด้วยทุกที') เขาพูดหน้าตาเฉย ละเลยความรู้สึกของฉันที่ฟังแล้วรู้สึกจี๊ดที่หัวใจ ฉันรู้ว่าที่เขาพูดมันเรื่องจริง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเอาฉันมาว่า ฉันจะเฉิ่มจะเชยแล้วจะทำไม ก็ฉันสวยใสในแบบของฉัน ฉันสวยธรรมชาติไร้เครื่องสำอางหนา ๆ ที่ต้องคอยโบกตลอดเวลา โรงพยาบาล... ('ยัยเต่านี่เธอจะไม่พูดกับฉันเลยใช่ไหม') เสียงของนายบัลลังค์ยังคงดังขึ้นมาเรื่อย ๆ ใช่แล้ว ฉันไม่สนใจเขาตั้งแต่ที่เขาว่าฉันเมื่อเช้านี้ หลังจากนั้นฉันก็เลือกที่จะเพิกเฉย ทำเป็นไม่เห็นไม่คุย ฉันมาดูแลร่างของเขาก็จริงแต่ไม่ได้สนใจวิญญาณของเขาไง ร่างหนาที่นอนนิ่งหลับใหลเหมือนคนนอนหลับไปเฉย ๆ พี่หมอกุ้งบอกว่าอีกสองเดือนเขาถึงจะออกจากโรงพยาบาลและกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ ฉันภาวนาในใจอยากจะให้เขาฟื้นขึ้นมาในเวลาสองเดือนนี้ เพราะฉันไม่อยากจะเอาตัวเองไปคลุกคลีกับบุคคลอื่นมากจนเกินไป ไม่ชอบสร้างสัมพันธ์มากนัก ('เธอคิดว่าตัวเองสำคัญมากหรือไงถึงได้ทำเมินฉัน ฉันไปหาคนที่มองเห็นฉันแบบที่เธอเห็นก็ได้ คิดว่าง้อหรือไงยัยเต่า') จากนั้นเขาก็หายไปทันใด หึ ถูกเลี้ยงมาแบบไหนกันนะ ถึงได้ไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นบ้างเลย สามวันต่อมา... ฉันยังคงอยู่ดูแลร่างของนายบัลลังก์ตลอด ขนย้ายข้าวของบางส่วนมาไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไป ๆ มา ๆ เพราะคุณยายของดาราชายไม่อยากให้ฉันห่างจากหลานชายของเขา ท่านบอกว่ากลัวคนจะปองร้ายหลานชายของท่าน ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีไหมคนที่คิดร้ายแบบนั้น ตั้งแต่วันนั้นดาราชายเขาก็หายไปเลย สงสัยคงจะเจอคนที่มองเห็นเขาได้เเล้วมั้ง มันก็เหงา ๆ ดีนะที่เขาไม่โผล่มาให้ฉันเห็น ส่วนวิญญาณตนอื่นฉันก็ยังคงเห็นดังเดิม แต่พวกเขาไม่สามารถส่งเสียงให้ฉันได้ยินได้ "นายนอนนานไปแล้วนะ ทำไมไม่ตื่นขึ้นมาล่ะ ไม่คิดถึงงานและสาว ๆ ของนายหรือไง ฉันไม่อยากจะดูแลนายตลอดไปหรอกนะ" ฉันพึมพำกับร่างหนาที่หลับใหลระหว่างที่ฉันทำกายภาพบำบัดเพื่อให้ร่างกายของเขาได้ขยับเขยื้อน เอาจริงคือฉันก็พูดแบบนี้ทุกวันตั้งแต่เริ่มดูแลเขานั่นแหละ ('ขอโทษได้ไหม') เสียงทุ้มที่ห่างหายไปสามวันกระซิบที่ข้างหูของฉันอย่างแผ่วเบาขณะที่ฉันเคลิ้มหลับข้างเตียงของเจ้าของเสียง ('ยกโทษให้ความปากหมาของฉันเถอะนะ ฉันคุยกับใครไม่ได้เลย ไม่มีใครเห็นฉันสักคน') เขายังคงพูดต่อโดยที่ฉันลืมตาฟังเขาเงียบ ๆ คงจะไม่มีใครแล้วสินะถึงกลับมาหาฉัน ('ยัยเต่า ฉันขอโทษ...นี่เธอเป็นคนแรกเลยนะที่ฉันขอโทษอะ') 'ฉันคงต้องภูมิใจสินะ' ฉันว่าในใจและเหล่สายตามองเขา ('ใช่สิ เธอต้องดีใจที่ดาราดังอย่างฉันขอโทษเธอ ตกลงยกโทษให้ฉันนะ') เขาโผล่หน้ามาข้างฉัน สีหน้าและท่าทางของเขากำลังรอลุ้นคำตอบ ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรเขามากมายหรอกนะ เข้าใจว่ามันคงจะปรับตัวยากที่จู่ ๆ ต้องออกจากร่าง 'อืม' ('เย้ ขอบคุณนะยัยเต่า') ดาราชายโผเข้ากอดฉัน แต่เขาก็ผ่านร่างของฉันไป หึ ไม่เข้าใจหรือไงว่าตัวเองเป็นวิญญาณ ('ลืมไป กอดไม่ได้') เขายิ้มเจื่อน 'ช่วยเลิกเรียกฉันว่ายัยเต่าด้วยนะ ฉันมีชื่อ' บอกเขาในใจ คือฉันไม่โอเคกับสรรพนามนี้จริง ๆ ('ไม่ได้ ชื่อนี้แหละฉันชอบ') 'แต่ฉันไม่ชอบ' ('แต่ฉันชอบไง') 'เฮ้อ' ขี้เกียจที่จะเถียงต่อ จึงเลือกที่จะปล่อยเลยตามเลย หลังจากที่เหงาหงอยมาสามวันจากนี้คงจะวุ่นวายเหมือนเดิมสินะ เอ๊ะ! หรือจะมากกว่าเดิม?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD