bc

ทะเบียนรักมาเฟีย

book_age18+
285
FOLLOW
1K
READ
family
HE
sweet
mystery
like
intro-logo
Blurb

“ปล่อย!” บุปผาสวรรค์บอกด้วยตาแดงๆ “เลิกแตะต้องฉันสักที”

“จะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้ใช่ไหม”

“แล้วคุณจะสนใจทำไม ไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องใส่ใจ ปล่อยให้ฉันมีชีวิตผ่านพ้นไปวันๆ ก็พอ ต่อให้ตายคุณก็ไม่ต้องมายุ่งกับศพของฉัน แค่ส่งร่างไร้วิญญาณของฉันโยนไว้ที่ไหนสักแห่งก็ได้”

“อย่าพูดเหมือนชีวิตเธอไร้ค่าขนาดนั้น”

“ชีวิตฉันมันไม่มีค่าตั้งแต่วินาทีที่แต่งงานกับคุณแล้ว”

หญิงสาวเชิดหน้าตอบโต้ “ถ้ามันจะตกต่ำยิ่งกว่านี้ก็ปล่อยมันเถอะ”

“บุปผาสวรรค์”

ไม่ห้ามเขาเรียกชื่ออีก แต่ทำเพียงตวัดดวงตาดำขลับมองอย่างไม่พอใจ ปฏิกิริยานั้นทำให้ไคล์ต้องกัดฟันแน่น โดยไม่ฟังคำคัดค้านหรือคำปฏิเสธ ชายหนุ่มก็ดึงแกมลากเจ้าของร่างบอบบางตรงไปยังอ่างอาบน้ำด้วยกัน ครั้นเธอขัดขืนมากๆ เข้าก็จัดการอุ้มแล้วโยนลงอ่างโดยไม่ปรานี หลังจากนั้นก็เปิดน้ำเย็นจัดพร้อมกดเธอลงไปไม่ให้ก้าวออกจากอ่างได้

“ปล่อยฉันนะ!”

หญิงสาวโวยวายและดิ้นรนหนีจากเงื้อมมือของเขา “อย่าทำแบบนี้กับฉัน เพราะคุณไม่มีสิทธิ์”

“ฉันไม่สนใจสิทธิ์ที่เธอพูดถึงหรอก ฉันก็แค่ทนความเน่าเหม็นของเธอไม่ได้”

เขาคว้าฝักบัวมารดหน้ารดหัวจนเปียกปอนไปหมด ถึงแม้เธอจะสำลักน้ำจนตาแดงก่ำแต่ก็ไม่ช่วยให้ไคล์หยุดการกระทำเลยสักนิด เขาเอาแต่อาบน้ำขัดถูให้จนอดคิดไม่ได้ว่า เนื้อหนังบางส่วนของเธอคงติดมือเขาไปบ้างแล้ว ใช่! ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เธอก็ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ดังนั้นจึงอยู่นิ่งๆ แล้วปล่อยให้เขาทำอย่างที่ใจต้องการ

chap-preview
Free preview
บทนำ
โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนวิ่งเข้าวิ่งออก บางคนบาดเจ็บล้มป่วยจนเจียนเอาชีวิตไม่รอด บางคนก็ยิ้มแย้มบางๆ เช็ดน้ำตา ในเวลาที่ญาติของตัวเองอาการดีขึ้น ทว่าหน้าห้องฉุกเฉินกลับมีหญิงวัยกลางคนกำลังอุ้มหลานชายวัยเดือนเศษแนบอก น้ำตาไหลอาบร่องแก้มเป็นสาย ปลายจมูกเปื้อนไปด้วยน้ำตาผสมผสานกับเหงื่อแนบอยู่กับขมับเจ้าตัวเล็ก         ปากซีดสั่นมีร่องรอยแตกแขนงหลายๆ เส้น ราตรีในวัยล่วงเลยสี่สิบห้าปีกำลังปลอบเด็กน้อยในอ้อมแขน ทว่านัยน์ตาเอาแต่เหลือบแลมองผ่านช่องแคบๆ ของบานประตูที่บุรุษพยาบาลเปิดค้างเอาไว้ ด้านในนั้นนางเห็นหญิงสาวหลายคนสวมชุดสีขาวกระโปรงเสมอเข่า บางคนก็แต่งกายด้วยชุดสีฟ้ามีผ้าปิดจมูก แต่ละคนวิ่งวุ่นช่วยกันยื้อชีวิตร่างโชกเลือดที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง         นางร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆ ในยามที่เห็นพยาบาลคนหนึ่งขึ้นไปปั๊มหัวใจลูกสาว สองมือกดลงไปใต้อกแล้วคลายออก ปากก็พูดอะไรบางอย่างที่นางพยายามเงี่ยหูฟังแต่ก็ไม่ได้ยิน เพราะหูมันอื้อตาลายจนมองภาพตรงหน้าเบลอไปหมด ยิ่งเห็นพยาบาลอีกคนสลับสับเปลี่ยนขึ้นไปทำหน้าที่ปลุกชีวิตให้ลูก นางก็ยิ่งต้องกอดทารกตัวน้อยๆ ไว้แน่นขึ้น ภายในใจกำลังเฝ้าภาวนาวอนขอให้คุณพระคุณเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกใบนี้ ช่วยยื้อชีวิตของลูกสาวคนเล็กไว้สักครั้ง อย่าเพิ่งพรากเธอไปในวันนี้เลย ทว่า...มือของลูกกลับร่วงผล็อยตกลงมาข้างเตียง ก่อนที่พยาบาลนับห้าคนซึ่งช่วยกันยื้อชีวิตอยู่นั้นจะค่อยๆ ก้มหน้า คอตก แล้วก็มีคนหนึ่งเดินตรงมาหาด้วยท่าทางเห็นอกเห็นใจ         นางไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่าพยาบาลคนนั้นพูดอะไรบ้าง รู้แค่เพียงว่าตอนนี้แขนทั้งสองข้างกอดหลานตัวน้อยวัยแบเบาะไว้แน่น จนเจ้าตัวเล็กถึงกับแผดเสียงจ้าออกมาดังลั่น ร่างกายอ่อนปวกเปียกของนางคล้ายถูกลมเพลมพัดล้มลงกับพื้น แต่โชคดีหน่อยที่มีใครบางคนเหนี่ยวรั้งเอาไว้         “แม่...” ราตรีค่อยๆ เงยหน้าชื้นน้ำตามองเจ้าของเสียงหวานปนเศร้าคุ้นหู กะพริบตาถี่ๆ เพื่อมองใบหน้าสวยหมดจดให้ชัดเจน บนใบหน้าเรียวรูปไข่มีเครื่องสำอางปาดแต้มพอบางเบา ผมของลูกยาวสลวยจนถึงกลางแผ่นหลัง ดวงตากลมโตถูกปิดด้วยแว่นสีดำอันใหญ่         “บุปผา...” มืออวบๆ ของคนเป็นแม่แตะเรียวแขนกลมกลึงเบาๆ “มาได้อย่างไรลูก”         “ไปนั่งตรงโน้นก่อนเถอะจ้ะ” ดาราสาวผู้ก้าวเข้าสู่วงการมายาเพียงห้าปีค่อยๆ ประคองแม่ไปนั่งตรงเก้าอี้ตัวยาว ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีผู้คนจับจองมากนัก พอแม่นั่งลงบุปผาสวรรค์ก็โผเข้ากอด เสียงสะอื้นดังแผ่วๆ อยู่ในลำคอ มือเรียวขาวอมชมพูแตะแผ่นหลังของคนเป็นแม่ไปมา ก่อนจะค่อยๆ ถอยห่างเพราะรู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดของแม่ร้องไห้จ้าขึ้นอีกครั้ง         “บุปผามาได้ยังไงลูก” นางราตรีค่อนข้างตื่นตระหนกกับการได้เห็นหน้าลูก...ลูกสาวที่ได้ดิบได้ดี ไปเป็นนักแสดงในจอทีวี         “แล้วงานของลูกไม่ยุ่งหรือจ๊ะ ถึงมาต่างจังหวัดได้”         “เรื่องงานของหนูเอาไว้ก่อนเถอะจ้ะแม่ ตอนนี้น้องเป็นอย่างไรบ้าง” หญิงสาวถามเสียงเครือ ตาคอยปรายมองไปยังห้องฉุกเฉินบ่อยๆ         สีหน้าของนางราตรีซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม นางยกแขนเสื้อขึ้นมาปาดน้ำตาออกลวกๆ “น้องไม่อยู่กับเราแล้วลูก น้องจากเราไปแล้ว”         พอได้ฟังคำตอบจากแม่ หัวตาที่ร้อนผ่าวก็ค่อยๆ ปล่อยน้ำตาเม็ดเล็กไหลอาบแก้มนวล บุปผาสวรรค์โผเข้ากอดแม่กับหลานในไส้ไว้แน่น ความสูญเสียในครั้งนี้ช่างหนักหนาเหลือเกิน ทำไมเหตุร้ายๆ แบบนี้ถึงต้องเกิดกับครอบครัวของเธอด้วย ทั้งๆ ที่บ้านของเธอควรจะมีแต่ความสุข ในเมื่อก่อนหน้านี้เพียงห้าปี เธอเพิ่งจะถูกแมวมองชักนำเข้าวงการ งาน เงิน ชื่อเสียงเกียรติยศเพิ่งจะมาเยือนเด็กบ้านนอกอย่างเธอแท้ๆ แต่ฟ้ากลับพรากคนที่เธอรักสุดหัวใจไป เหลือทิ้งไว้เพียงเด็กน้อยตาดำๆ ในอ้อมแขนของคนเป็นแม่ เด็กที่แม้แต่พ่อแท้ๆ เธอกับแม่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคนนั้นคือใคร!         “เราจะทำยังไงดี” ระหว่างที่นั่งรอบนม้านั่งตัวยาวนางราตรีก็เอาแต่พึมพำถามปากสั่นๆ “บุปผา...เราจะทำอย่างไรกันต่อไป”         “เสร็จงานศพน้อง แม่กับหลานย้ายไปอยู่กับหนูนะ”         “จะทำแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อลูกเป็นดารา กำลังมีชื่อเสียง ถ้ารู้ว่ามีเด็กอยู่ในบ้านคนเขาก็จะล่ำลือกันไปต่างๆ นานา แม่ไม่อยากให้ลูกมีข่าวคราวเสียหายหรอกนะ แม่ว่าจะอยู่เลี้ยงหลานที่ต่างจังหวัดนี่แหละอย่าย้ายไปให้ยุ่งยากเลย”         “แล้วแม่จะอยู่ได้ยังไงกัน”         “ได้สิ แม่มีเพื่อนบ้านดีๆ ตั้งเยอะ คนต่างจังหวัดเขาไม่ทิ้งกันหรอก”         “ไม่ได้หรอกจ้ะ หนูไม่สบายใจ หนูอยากให้แม่กับหลานอยู่ใกล้ๆ ส่วนเรื่องข่าวลือถ้ามันจะมีอะไรขึ้นมาจริงๆ เราก็แค่สารภาพความจริงออกมาเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าความจริงที่พูดในวันนี้จะทำร้ายความรู้สึกของหลานในวันที่เขาเติบโตขึ้น แต่หนูเชื่อว่า กว่าจะถึงวันนั้นหลานคงเข้มแข็งมากพอเผชิญกับทุกอย่าง” พูดออกมาแล้วก็ได้แต่ก้มหน้าลง “ว่าแต่...น้องไม่บอกเลยหรือ ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก”         “ตั้งแต่กลับมาเมื่อต้นปีก็เอาแต่ปิดปากเงียบ แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่บ้านดีๆ ก็คว้ากุญแจรถออกมาแล้วก็...”         “ร้องออกมาเถอะแม่...หนูจะเช็ดน้ำตาให้แม่เอง”         “บุปผา”         “ถึงจะลำบากหน่อย หนูก็อยากให้แม่อดทนไว้นะ ต่อจากวันนี้ไป หนูจะดูแลแม่กับหลานเอง เราสามคนย้ายไปอยู่ด้วยกัน ช่วยกันเลี้ยงเจ้าตัวเล็กให้เติบโต เราจะมอบความรักให้กับเขาแทนพ่อแม่แท้ๆ ของเขานะคะ”         “จ้ะลูก ต่อไปนี้คงลำบากลูกแล้วนะ”         “ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มของแม่ทุกวัน เพียงเท่านี้หนูก็พร้อมสู้ ไม่ว่าจะเผชิญปัญหาอะไรก็จะไม่กลัวทั้งนั้น”         “ขอบใจนะลูก ขอบใจจริงๆ” สองแม่ลูกโอบกอดกัน โดยมีเจ้าตัวเล็กเหยียดแขนอยู่ในผ้าห่อตัวแสนอุ่นพร้อมครางอ้อแอ้ พอเป็นแบบนั้นนางราตรีก็รีบหยิบขวดนมในกระเป๋าออกมาป้อน เมื่อจุกนมเข้าไปในปากเด็กตัวน้อยก็ดูดเสียจนหมดไปเกือบครึ่งขวด         “คงหิวสินะ”         “ปกติได้กินนมจากเต้า ไม่คิดเลยว่าวันนี้ต้องกินนมจากขวดแล้ว”         บุปผาไม่รู้จะพูดอะไรให้แม่รู้สึกดีขึ้น นอกเสียจากเช็ดน้ำตาที่เปื้อนอยู่บนแก้มให้ “แม่ไม่ต้องห่วงนะ ถึงหลานจะได้กินนมจากขวด แต่หนูจะเลือกนมที่ดีและมีคุณภาพใกล้กับนมแม่ให้หลานเอง และจะเป็นแม่ให้หลานด้วย ตอนนี้เราเตรียมตัวรับน้องกลับบ้านกันเถอะ ส่งน้องไปอยู่กับพ่อเรียบร้อยแล้วเราก็ไปอยู่ด้วยกันนะ”         “ไปกันเถอะลูก ไปพาน้องกลับบ้านของเรากัน”         บุปผาสวรรค์ในวัยยี่สิบห้าปีได้แต่มองหน้าแม่ตาแดงๆ เธอทำได้เพียงโอบกอดแม่และหลานไว้ ก่อนจะพากลับบ้านไปด้วยกัน ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้มายืนมองปล่องไฟคละคลุ้งไปด้วยควันไฟสีดำลอยขึ้นฟ้า บ่งบอกว่าคนที่ตายไปนั้นจะไม่มีวันหวนกลับมาใช้ชีวิตดั่งต้องการอีก ดาราสาวยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ ทำให้ชีวิตซวนเซมากเหลือเกิน เธอไม่รู้จริงๆ ว่าต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะดูแลแม่กับหลานได้ดีแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะจับมือแม่และหลานสู้ไปด้วยกัน         ขณะที่นักแสดงสาวยืนมองปล่องไฟด้วยตาแดงๆ บนรถสีดำเรียบหรูซึ่งจอดชิดต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลนั้น ใครบางคนกำลังมองภาพเสียใจของสองแม่ลูกด้วยท่าทางเยาะหยัน มุมปากได้รูปของมาเฟียหนุ่มเหยียดยิ้มร้ายใส่ ไม่ได้นึกสงสารเห็นใจผู้หญิงคนนั้นเลยสักนิด เพราะการกระทำของหล่อนมันเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของตระกูล ฉะนั้นเขาจะไม่มีวันปล่อยให้หล่อนได้ใช้ชีวิตสุขสบายเป็นดาราประดับโลกมายาอย่างราบรื่นเด็ดขาด หล่อนต้องอยู่อย่างทรมานและร้อนรน ยิ่งมองนานเท่าไร ดวงตาสีสนิมก็ยิ่งวาวโรจน์ด้วยเพลิงโทสะ จ้องอยู่นานนับสิบนาทีถึงได้เอ่ยเบาๆ         “บอกคนของเราลงมือได้”         พอคนสนิทพยักหน้ารับ ไคล์ แซกเคอร์มันน์ ในวัยสามสิบแปดปีผู้เป็นทายาทลำดับหนึ่งครอบครองอำนาจมืดในสเปนก็ตวัดดวงตาคมกริบกลับไปมองภาพเสียใจของบุปผาสวรรค์อีกครั้ง ถึงแม้รถจะค่อยๆ เคลื่อนห่างออกไปแต่สายตาคู่นั้นก็ไม่ได้ละจากเจ้าของร่างบอบบางนั่นเลย จนกระทั่งมองไม่เห็นอีกนั่นแหละถึงได้ซ่อนความรู้สึกทุกอย่างด้วยการปิดเปลือกตาลงช้าๆ         หลังจากสืบรู้ว่าผู้เป็นน้องชายออกนอกลู่นอกทางด้วยการติดพันกับหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่ง ทำให้บิดาของเขาโกรธเกรี้ยวจนล้มไปทั้งยืน เหตุผลนั่นเป็นเพราะชีวิตของไคล์ แซกเคอร์มันน์ กับ คริส แซกเคอร์มันน์ ล้วนถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เกิดแล้วว่า ผู้หญิงที่จะเป็นคู่ครองของพวกเขาต้องมาจากตระกูลชั้นสูงอยู่ในระดับเดียวกันเพื่อเสริมอำนาจมืดให้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นผู้หญิงปวกเปียกไร้การอบรมพวกนี้จะไม่มีวันได้แตะต้องนามสกุลของพวกเขา ถ้าใครหาญกล้ามาทำให้ทางเดินไปสู่อำนาจติดขัดละก็ เขาจะกำจัดคนคนนั้นโดยไม่ลังเล!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.1K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.2K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
7.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook