บทที่2
แบ่งขนมให้กัน
"โอ้โหเป็นนักกีฬาตั้งแต่เด็กเลยอยู่เนี่ย" ถ้วยรางวัลมากมายและใบประกาศนียบัตรที่ถูกจัดเรียงเอาไว้มีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
"ขนาดในรูปยังหล่อตัวจริงจะหล่อเหมือนในรูปไหมนะ" เสียงบ่นพึมพำดังไปถึงด้านหลังเธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีดวงตาคู่หนึ่งจดจ้องมองเธออยู่
"อยากรู้ก็หันมาดูสิ จะได้รู้ว่าฉันหล่อเหมือนในรูปหรือเปล่า"
O_O!
เสียงสุขุมนุ่มนวลดังมาจากด้านหลัง พิจิการีบหันไปมองแล้วหันกลับมามองกรอบรูปอีกครั้งให้ตายเถอะนี่มันคุณรณพีร์ลูกชายของหม่อมหลวงกัลยาณีตัวจริงเสียงจริง พิจิการีบนั่งคุกเข่าก้มหน้าแต่รณพีร์กับหัวเราะร่าเขาไม่ใช่คนเคร่งครัดขนาดนั้นเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องมากพิธี
"สวัสดีค่ะหนูขอโทษค่ะหนูไม่ได้ตั้งใจที่จะแซวขอโทษจริงๆ ค่ะ"
"ฮ่าๆๆ เอาเถอะฉันไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเธอหรอกฉันแค่แหย่เธอเล่นเห็นเธอบอกว่าในรูปฉันหล่อมากอยากเห็นตัวจริงก็ดูซะสิว่าหล่อหรือเปล่า"
พิจิกาเงยหน้าขึ้นมามองจะผิดไหมถ้าเธอจะบอกว่าเขาหล่อกว่าในรูปเป็นสิบเท่าในรูปดูหน้าตรงราวกับถ่ายรูปบัตรประชาชนแต่ตัวจริงมีเสน่ห์ยิ้มสวยดวงตาเป็นประกายผิวขาวอย่างกับหยวกกล้วยจู่ๆ เธอก็เขินจนต้องรีบก้มหน้าลงเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะเผลอมองหน้าสบตาเขานานเกินไปแล้ว
"แล้วนี่คุณแม่ฉันอยู่ไหน?"
"คุณท่านพักผ่อนอยู่ในห้องเดี๋ยวหนูพาไปค่ะ"
พิจิกาเดินนำมาที่ห้องพักของหม่อมหลวงกัลยาณีเวลานี้ท่านกำลังนอนพักผ่อนหน้าต่างด้านหลังเปิดรับลมจากธรรมชาติกลิ่นหอมจากดอกกุหลาบและดอกกล้วยไม้พัดผ่านเข้ามาทำให้อากาศปลอดโปร่งรณพีร์นั่งคุกเข่าลงพร้อมจับมือของคุณแม่และแนบที่แก้มจนหม่อมหลวงกัลยาณีลืมตาขึ้นมา
"ตาพีร์! ทำไมมาซะเร็วเลย ไหนบอกว่ากลับอาทิตย์นี้แม่ก็ไม่ได้เตรียมตัวรอมันน่าตีจริงๆ" หม่อมหลวงกัลยาณีลุกขึ้นมานั่งโดยมีพิจิกาประคองท่านขึ้นมา
"สวัสดีครับคุณแม่เมื่อคืนที่ผมโทรมาหาผมถึงประเทศไทยแล้วครับพอดีนัดกับเพื่อนเอาไว้ว่าจะไปสังสรรค์กันนิดหน่อยเสร็จแล้วค่อยกลับบ้านคิดถึงคุณแม่จังเลยครับ"
รณพีร์สวมกอดผู้เป็นแม่แล้วรับพรจากผู้เป็นแม่พรอันประเสริฐนี้ทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยเขาเป็นผู้ชายที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้สอบติดหลายคณะแต่ได้เลือกเรียนบริหารเพื่อกลับมาดูแลกิจการของคุณพ่อที่จากไป
"ตายจริงแม่ทำขนมหม้อแกงไว้ไม่รู้ป่านนี้แม่บ้านกินกันหมดแล้วหรือเปล่า ดูท่าจะหมดจริงๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ทำให้ใหม่นะลูก"
"ครับคุณแม่ ผมคิดถึงขนมไทยฝีมือคุณแม่มากไปอยู่ที่นู่นหาทานยากมากครับ"
"ของหนูมีค่ะคุณท่านหนูยังไม่ได้ทานเลยป้าศรีตัดแบ่งเอาไว้ให้เดี๋ยวหนูเอามาให้นะคะ"
"ไม่เป็นไร.... อ้าวไม่ทันครับน้องไปแล้ว"
รณพีร์มองตามหลังสาวใช้ที่รีบวิ่งหน้าตาตื่นออกไปไม่ถึงห้านาทีเธอก็กลับมาพร้อมจานขนมหม้อแกงสีสันหน้าตาน่าทานเพราะว่าเธอนำใบเตยมาตัดตกแต่งจนรณพีร์ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อเช็กอินว่าตอนนี้เขาถึงประเทศไทยแล้ว
"เอามาให้ตาพีร์แล้วหนูพิจะทานอะไรล่ะลูก" หม่อมหลวงกัลยาณีเอยถามเธออุตส่าห์มาช่วยทำขนมเรียกได้ว่าทำทุกขั้นตอนแต่กลับไม่ได้ทานฝีมือตัวเองมันก็น่าน้อยใจอยู่
"ไม่เป็นไรค่ะคุณพีร์ไม่ค่อยได้ทานคงอยากทานมากหนูเสียสละได้ค่ะไม่เป็นอะไร"
"น่ารักจริงๆ เลยลูก"
พิจิกายิ้มบางๆ แต่คนที่นั่งอยู่มองหน้าเธอสลับกับขนมจานนั้นเขารู้ว่าเธอก็อยากทานเหมือนกันคงตั้งใจจะทำงานบ้านให้เสร็จเดี๋ยวไปทานเงียบๆ คนเดียวตามประสาเด็กน้อยที่หวงขนมนั่นแหละแต่เพราะเขาเป็นเจ้านายเธอจึงยอมเสียสละให้
"เดี๋ยวฉันไว้ลงมือทำกับคุณแม่พรุ่งนี้เอง ขนมชิ้นนี้เธอเอาไปทานเถอะ"
"แต่คุณพีร์อยากทานไม่ใช่หรือคะหนูเสียสละได้ค่ะไม่เป็นอะไรเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะรีบเตรียมของแต่เช้าเพื่อทำเพิ่มค่ะ"
"งั้นก็แบ่งคนละครึ่งโอเคไหมเธอครึ่งนึงฉันครึ่งนึง"
"จะดีหรือคะ"
"ดีสิมานี่เดี๋ยวฉันแบ่งเอง" หม่อมหลวงกัลยาณีจัดการตัดแบ่งขนมหม้อแกงให้ได้ขนาดเท่ากันจะได้ไม่มีการเอาเปรียบกันจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานอยู่ตรงหน้ากัลยาณี รณพีร์เล่าเรื่องราวตอนเขาอยู่ต่างประเทศให้ฟังเขาได้มีโอกาสบินไปหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ อเมริกา แคนาดาเพราะว่าเขามีความสามารถด้านธุรกิจจึงถูกเชิญไปเป็นวิทยากรในหลายประเทศทุกเดือน
การกลับมาครั้งนี้เขาตั้งใจจะมาบริหารงานธุรกิจของครอบครัวรวมถึงโรงแรมของคุณแม่ให้พัฒนาขึ้นกว่าเดิมเริ่มต้นจากการปรับปรุงรีโนเวทในส่วนที่เก่าและสึกหรอ การไปศึกษาดูงานในหลายประเทศทำให้เขาจับลู่ทางเศรษฐกิจได้บ้างแล้ว เมื่อสองแม่ลูกเริ่มคุยกันเรื่องงานพิจิกาจึงขอกลับมาทำงานของตนเองหม่อมหลวงกัลยาณีพยักหน้าให้เธอออกไปแต่ทว่าท่านกลับเห็นสายตาของลูกชายที่มองตามแผ่นหลังของสาวใช้ในบ้านจนพ้นสายตา
"เด็กคนนี้เป็นใครครับหรือเป็นลูกแม่บ้าน"
"หนูพิเป็นเด็กต่างจังหวัดการศึกษาเทียบชั้นเพราะว่าครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงินเธอต้องออกไปทำงานโรงงานตั้งแต่อายุ 18 โดนเจ้านายเอาเปรียบเงินเดือนไม่พอจ่ายค่ารักษาของคุณยายเลยต้องออกมาหางานพิเศษทำ หนูพิไปเจอนายจ้างหลอกมาทำงานที่กรุงเทพฯ ด้วยการเสียเงินแลกเข้าเพื่อจะได้ทำงานในโรงงานที่ได้เงินเดือนถึง 25,000 บาทแต่ต้องยอมเสียเงิน 10,000 บาท เธอไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรถึงถูกหลอกมาปล่อยไว้ที่กรุงเทพฯ"
"จริงหรือครับ"
"จริงลูกตอนแม่ไปเจอเธอมาสมัครงานที่โรงแรมของแม่แต่ว่าผู้จัดการไม่รับเลยเดินไปสมัครงานที่บริษัทแม่ไปเจอเธอนั่งรอสัมภาษณ์งานในตำแหน่งแม่บ้าน แม่จึงชวนมาทำงานที่บ้านของเรา"
"น่าสงสารนะครับเธอเป็นเสาหลักของครอบครัวเลยใช่ไหม"
"ใช่แล้วลูก แม่ก็ให้เงินพิเศษไปบ้างจะได้พอส่งค่ายาให้ยายของเธอ ถ้ามีงานอะไรจะให้หนูพิทำลูกก็คุยกับหนูพิได้เลยนะลูกเธอเป็นเด็กขยันสอนนิดสอนหน่อยก็เป็นแล้ว"
"ครับคุณแม่"
พิจิกาเดินออกมาทำงานของตัวเองต่อจนเสร็จหลังจากเสร็จงานบ้านปัดกวาดเช็ดถูเธอก็เดินไปทำความสะอาดข้างบ้านเสร็จจากงานข้างบ้านเธอก็มานั่งพักผ่อนแถวซุ้มไม้ที่แปลงดอกไม้ของหม่อมหลวงกัลยาณีเธอไม่เคยมีเวลาว่างมากพอที่จะดูแลตัวเองพักหายเหนื่อยเธอก็ไปช่วยงานแม่บ้านคนอื่นๆ และเป็นแบบนี้ในทุกๆ วันจนรณพีร์เห็นถึงความขยันในตัวเธอ
"เสร็จงานหรือยัง?" รณพีร์เอ่ยถามขณะเดินออกมาจากห้องทำงานวันนี้เขาสวมใส่กางเกงสแล็คสีดำเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมบนสองเม็ดพับแขนเสื้อมาถึงศอกดูสบายๆ
"เสร็จแล้วค่ะคุณพีร์มีอะไรให้พิทำไหมคะ"
"ตามฉันมาที่ห้องทำงาน"
"ค่ะคุณพีร์"
-----------------------------------
เดี๋ยวมาต่ออีกตอนค่ะ อ่นแล้วเมนต์ให้ไรท์บ้างนะคะ จุ๊บๆ
ขอวาปไปจัด *****คบักหมาวัดก่อน