“โห มีแต่ของโปรดของภัคทั้งนั้นเลยค่ะ พี่น่านเองก็มาทานด้วยกันสิคะ” น่านฟ้าได้แต่ยิ้มรับก่อนจะยืนรอจนสาวใช้ออกไปจากห้องแล้วถึงได้เดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คนกินจุแต่ก็ไม่ยักจะอ้วนสักที
“กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ” เขาบอกก่อนจะเริ่มตักของโปรดให้อย่างเอาใจ ซึ่งอีกคนก็รับไว้ก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ ให้แทนคำขอบคุณ
“ภัคไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ”
“ครับ เด็กที่ไหนจะมีสามีหล่อขนาดนี้” คำพูดนั้นทำเอาคนฟังอายจนหน้าแดง แต่ไม่นานเธอจะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้าของตัวเองต่อไป โดยมีน่านฟ้าที่ทำหน้าที่ดูแลภรรยาเป็นอย่างดี จนกระทั่งเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ความกังวลใจก็ค่อยๆ เริ่มครอบงำเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่เธอกับน่านฟ้าต้องนอนร่วมเตียงเดียวกัน มันทำให้เกิดความรู้สึกคันยุบยิบในใจเพราะชีวิตที่ผ่านมา เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนจนถึงขั้นต้องนอนร่วมเตียงมาก่อน
“ภัคนอนที่เตียงเถอะ เดี๋ยวพี่นอนที่โซฟาเอง” และเหมือนอีกคนจะรู้ว่าเธอกำลังกังวลถึงสิ่งใดอยู่ เขาถึงได้เอ่ยขึ้นโดยที่เธอยังไม่ทันจะได้พูดอะไร
น่านฟ้ารับรู้และเข้าใจทุกสิ่งที่ภรรยาตัวน้อยกำลังเป็นกังวลดี เขาก็ไม่ได้คิดจะเรียกร้องความเป็นสามีในคืนนี้เช่นกัน แค่ได้แต่งงานกับเธอมันก็ดีเกินฝันแล้ว ส่วนเรื่องอื่นค่อยปล่อยให้เวลาค่อยๆ ทำหน้าที่ของมันไป และไม่ว่าจะต้องรอนานแค่ไหน เขาก็พร้อมที่จะรอและเชื่อว่าสักวันความรักของเขามันจะทำให้อีกคนรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน
“แต่ว่า…” เกิดความลังเลขึ้นภายใต้ดวงตาคู่สวย มันดูเหมือนเธอกำลังเอาเปรียบเขาเกินไปรึเปล่า ต้องมาแต่งงานกับเธอเพราะคำขอของคุณป้าแล้วเขายังต้องลำบากไปนอนที่โซฟาแบบนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด
“หรือจะให้พี่นอนด้วยบนเตียงครับ”
“มะ…ไม่ใช่นะคะ! คือว่าภัค…” สุดท้ายก็กลายเป็นภัคจิราเองที่พูดไม่ออก เธอไม่อยากเอาเปรียบเขานั่นมันก็เรื่องหนึ่ง แต่ก็หวั่นๆ ไม่น้อยหากจำต้องนอนร่วมเตียงกันในค่ำคืนนี้ อย่างน้อยก็อยากขอเวลาปรับตัวสักระยะ ส่วนหลังจากนั้นหากเขาอยากจะเรียกร้องสิทธิ์เธอก็ยินดีให้ เพราะเขาทำเพื่อเธอกับป้ามามากพอแล้ว
“ไปนอนได้แล้วครับ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก พี่เข้าใจว่าเรื่องของเราไม่เหมือนคนอื่น พี่จะรอจนกว่าภัคจะพร้อม ให้รอทั้งชีวิตพี่ก็รอได้” คำตอบนั้นมันช่างคุ้มแสนคุ้มเมื่อเขาได้รับรอยยิ้มอ่อนหวานเป็นการตอบแทนก่อนที่ภัคจิราจะยอมเดินไปที่เตียงได้อย่างสบายใจ
“ขอบคุณนะคะพี่น่าน” ภัคจิราเอ่ยขึ้นหลังจากพาตัวเองมาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงโดยมีสามีเดินมาส่งก่อนที่เขาจะกลับไปที่โซฟา
“ฝันดีครับ”
เพราะความเหนื่อยล้าจากการแต่งทำให้ภัคจิราตื่นสายกว่าทุกวัน หญิงสาวมองไปยังโซฟาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องเป็นอย่างแรกก่อนจะพบเพียงความว่างเปล่าจึงได้รีบลุกขึ้นจัดเก็บที่นอนและเดินเข้าห้องน้ำ แต่สิ่งที่รออยู่นั้นกลับทำให้รู้สึกว่าหัวใจกำลังพองโต เมื่อพบว่าหลายสิ่งถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นยาสีฟันที่ถูกบีบเอาไว้ให้อย่างเรียบร้อย ผ้าขนหนูสีขาวที่ถูกพาดเอาไว้ให้ไม่ไกลกัน สิ่งที่เห็นอดทำให้ใจสั่นไม่ได้ เมื่อคิดว่าคนที่ทำทั้งหมดนี้ให้คือใคร
แต่เดี๋ยวก่อนสิ!
มันควรเป็นเธอไม่ใช่รึไงนะ ที่ต้องทำอะไรพวกนี้ให้ให้กับสามีหญิงสาวคิดก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัว หวังจะลงไปชั้นล่างทำอาหารเช้าเพื่อตอบแทนความน่ารักของสามีที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่เขาก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร
ทว่าเมื่อลงมาถึงก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้หมดแล้ว และคนที่กำลังยืนทำอาหารเช้าในครัวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
“หอมจังเลยค่ะ” น่านฟ้าหันมาส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยาเป็นการทักทาย ก่อนจะหันกลับไปหาข้าวต้มกุ้งตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ภัคไปนั่งก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วพี่ยกไปให้ที่โต๊ะ” ภัคจิราได้แต่จ้องมองสามีหมาดๆ ของตัวเองตาแป๋ว นั่นมันเป็นหน้าที่ของเธอไม่ใช่รึไง ทำไมเขาถึงแย่งไปหมดจนเธอไม่เป็นอันทำอะไรเลยแบบนี้
“ภัคอยากช่วยค่ะ ให้ภัคช่วยนะคะ” คิดเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยอาสา ไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นภาระที่เขาจำต้องแบกรับไว้ ไปมากกว่านี้
“แต่พี่ว่า…”
“อันที่จริงนี่เรื่องพวกนี้มันควรเป็นหน้าที่ของภัคด้วยซ้ำ ภัคนี่มันเป็นตัวถ่วงชีวิตพี่จริงๆ แค่ต้องขอให้พี่น่านมาแต่งงานด้วยก็มากพอแล้ว ยังต้องให้พี่น่านมาดูแลเรื่องอยู่เรื่องกินของภัคอีก…” เมื่ออีกคนทำท่าจะไม่ยอมให้ช่วยภัคจิราจึงเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำท่าจะเดินหนี แต่ก็ไปได้ไม่ไกลเพราะถูกคนตกหลุมพราง เดินตามมาคว้าต้นแขนเอาไว้เข้าเสียก่อน
“พูดอะไรอย่างนั้นครับ! สำหรับพี่ภัคไม่ใช่ตัวถ่วง ไม่ใช่และไม่มีวันใช่ด้วย! ทุกอย่างที่พี่ทำให้ภัคพี่ทำด้วยความเต็มใจ ภัคห้ามคิดแบบนี้อีกนะครับพี่ไม่ชอบเลย”คนเจ้าแผนการลอบยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น