บทที่ 15

1344 Words
บทที่ 15 "เพราะมีความหลังสินะคุณถึงขอมาทำคดีนี้กับผม" เป็นเรื่องที่เดาได้ไม่ยากว่าทำไมแผ่นดินถึงขอผู้ใหญ่เข้ามาทำคดีนี้ร่วมกับหน่วยพิเศษ "ก็นิดหน่อยครับ" และเขาก็สาบานไว้แล้วว่าจะถล่มแก๊งของมันให้ได้ก่อนที่จะลาออกจากราชการ /บีหนึ่งเรียกฐานตอนนี้มาถึงพิกัดพีพีแล้วครับ/ /บีสองเรียกฐานตอนนี้ถึงพิกัดพีพีแล้วเช่นกัน/ "รับทราบ" หลังจากเปลี่ยนพิกัดมารอทั้งสองทีม ณ จุดนัดหมายท่านอนุรักษ์ก็ประสานงานกับทีมตำรวจสากลที่เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย "พร้อมไหมท่านรอง" "พร้อมครับ" แผ่นดินอยู่ในชุดพร้อมปฏิบัติการตอบรับอย่างสงบนิ่ง นี่ถือว่าเป็นปฏิบัติการใหญ่มาก ๆ ครั้งหนึ่งเลย ทีแรกท่านอนุรักษ์ว่าจะจัดการปลายแถวมันก่อนไง แต่จากที่สังเกตที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่พวกมันใช้เก็บของผิดกฎหมายเพื่อส่งไปต่างประเทศ "พวกเราเตรียมตัว บีหนึ่งกับตำรวจสากลชุดแรกอ้อมไปบุกเข้าจากด้านหลังถ้าพร้อมแล้วส่งสัญญาณมา" ท่านอนุรักษ์เริ่มบอกแผนปฏิบัติการอีกหน "รับทราบ" "บีสองกับทีมตำรวจสากลชุดสองรอสัญญาณจากชุดแรกบุกเข้าจากทางด้านหน้า" "รับทราบ" "ส่วนผมท่านรองและทีมสนับสนุนจะรับผิดชอบบริเวณรอบ ๆ และท่าน้ำ" เมื่อท่านอนุรักษ์ออกคำสั่งเสร็จแล้วตำรวจหลายสิบนายก็เตรียมตัวพร้อมปฏิบัติการ เมื่อทีมที่สองได้สัญญาณจากทีมแรกก็เริ่มบุกเข้าไปด้านในทันที ทำให้ครั้งนี้คนร้ายตั้งตัวไม่ทันและคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะทราบตำแหน่งที่พวกมันใช้ซ่อนของผิดกฎหมาย ปัง ปัง ในการบุกมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับคนร้ายนิดหน่อยแต่ทางฝั่งตำรวจไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนพวกที่คิดจะหนีทางท่าน้ำก็เจอกับท่านอนุรักษ์และแผ่นดินที่ดักรออยู่ที่ท่าน้ำ /บีหนึ่งเคลียร์ ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ/ /บีสองก็เคลียร์ ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ/ ปฏิบัติการครั้งนี้เสร็จสิ้นไปได้ด้วยดีทั้งคนร้ายและของกลางถูกตำรวจเก็บไปด้วยทั้งหมด "ข่าวด่วน! ตำรวจชุดสืบสวนพิเศษและตำรวจสากลบุกเข้าจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ และสิ่งผิดกฎหมายของแก๊งมังกรนิลซึ่งคาดว่าเป็นแก๊งมาเฟียแก๊งใหญ่ในเอเชีย" "ข่าวก็ออกจะดัง ทำไมคุณตำรวจถึงมานั่งทำหน้าแบบนี้อยู่ที่ผับของฉันละคะ" พะพิงเอ่ยแซวนายตำรวจหนุ่มที่นั่งทำหน้ายุ่งตั้งแต่เข้ามาจนหล่อนอดไม่ได้จนต้องเข้ามาหา ทั้งที่ปฏิบัติการของเมื่อวานก็เป็นไปได้ด้วยดีแต่ไม่รู้ทำไมร่างสูงถึงมีสีหน้าแบบนี้ "ปฏิบัติการครั้งแรกพลาด" เขาพูดขึ้นมาเสียงเรียบ พรางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม "..." "คนร้ายไหวตัวทันขนย้ายเหยื่อไปไว้ที่อื่น" พะพิงนั่งเงียบ ๆ เพื่อรับฟังสิ่งที่นายตำรวจหนุ่มพูด "ทีมของลูกน้องผมบุกเข้าไปพบแต่ความว่างเปล่า แต่ที่น่าเจ็บใจคือคนร้ายเพิ่งหนีไปได้ไม่นานก่อนที่เราจะไป" "คุณคิดว่าไง" "หึ ท่านอนุรักษ์ก็ถามผมแบบนี้" พ่อลูกคู่นี้ถามเหมือนกันเป๊ะ "แต่ผมกับลูกน้องทำงานด้วยกันมานานจะให้คิดว่าโดนหักหลังมันค่อนข้างเชื่อยาก" "แล้วมันมีความเป็นไปได้ทางอื่นไหมท่านรอง" "ไม่รู้สิ แต่ป๋าคุณไม่ไว้ใจผม" คนเริ่มเมาเริ่มพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเลยระบายความในใจออกมา "ผิดแล้วคุณแผ่นดินป๋าไว้ใจคุณ ไม่งั้นปฏิบัติการครั้งนี้คงไม่ให้คุณร่วม และอีกอย่างคุณไม่ได้ล้มเหลวแค่รอบนี้เสียเมื่อไหร่" คดีก่อนหน้านั้นสองสามคดีก็คว้าน้ำเหลว "..." ความจริงตรงนี้ทำให้แผ่นดินเถียงไม่ออก สองคดีก่อนที่เขาจะขอย้ายมาทำคดีนี้ร่วมกับท่านอนุรักษ์เขาก็เหลวไม่เป็นท่า แถมคดีสุดท้ายยังโดนโอนให้คนอื่นดูแลแทนด้วย "ฉันรู้ว่ามันทำใจยากเรื่องที่โดนคนในทีมหักหลัง แต่คุณก็ลองนึกดูให้ดีว่ามันมีทางเป็นไปได้ไหม" "อืม ช่างเรื่องผมเถอะ" "..." "เรื่องเมื่อสองวันก่อนผมขอโทษนะ" คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม เมื่ออยู่ ๆ คนที่มีใบหน้าอมทุกข์ก็เปลี่ยนเรื่อง "เรื่องสั่งปิดผับน่ะเหรอก็น่าโมโหอยู่หรอก แต่คุณจ่ายค่าเสียหายมาแล้วฉันก็จะแกล้งเป็นลืม ๆ ไปแล้วกัน" "หึ ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยไหม" แปลกอีกอย่างคือพะพิงไม่หาเรื่องแกล้งแผ่นดินในวันนี้ "คุณดื่มไปเถอะเดี๋ยวฉันนั่งเป็นเพื่อน" เห็นแก่ที่วันนี้คู่หูของอีกฝ่ายไม่มาก็แล้วกัน "ทำไมตอนแรกคุณเลือกรูดทรัพย์ผม" "หลอกถามหรือไงคุณตำรวจ" "เปล่าผมแค่สงสัย" ตาคมเงยขึ้นมาสบมันบ่งบอกว่าสงสัยจริง ๆ เลยทำให้ร่างบางคี่ยิ้มออกมา "หึ จำไม่ลืมเลยใช่ไหมล่ะ" "หือ?" "เขาว่าตอนเด็ก ๆ เรามักแกล้งคนที่แอบชอบ เพื่อให้เขาจำเรา" พะพิงช่วยขยายความแต่ทำให้หัวใจของคนฟังดันเต้นแรงผิดจังหวะเสียดื้อ ๆ "สารภาพรักเหรอคุณ" คนหูแดงแกล้งถาม "เปล่าฉันแค่จะบอกว่าตอนแรกฉันแค่ถูกใจคุณก็แค่นั้น" "..." "หึ ไม่เห็นต้องทำหน้าคิดแบบนั้นเลย ฉันขอตัวดีกว่าขอให้สนุกกับค่ำคืนนี้นะคะท่านรอง" ว่าจบเจ้าของผับก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมที่จะ จุ๊บ "ไว้เจอกันนะ" สาวเจ้าของผับจุ๊บแก้มสากของคนหูแดงไปหนึ่งทีแล้วจึงเดินขึ้นไปทำงานต่ออย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้คนหูแดงที่บัดนี้แดงทั้งหน้านั่งหน้าเหวออยู่คนเดียว :เมื่อหลายชั่วโมงก่อน: "เจ้ ชวนมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย" "แคมป์ปิ้ง" "ฮะ บนนี้เนี่ยนะ" "ใช่" วันนี้แต่เช้าตู่พะพิงชวนลูกน้องอย่างกันยาออกมาตั้งเก้าอี้แคมป์ปิ้งกันที่ตึกล้างชั้นบนสุดแถว ๆ ชาญเมือง "โห แล้วของกินเจ้กะมาอยู่ทั้งวันเลยใช่ไหม" แล้วคนถูกชวน (บังคับ) มาด้วยก็ต้องตกใจกับของกินที่ร่างบางขนมาด้วย "ใช่ จริง ๆ คือมาสังเกตการณ์ด้วย" "อ่อวันนี้เขาเริ่มปฏิบัติการแรกสินะ ว่าแต่เจ้ติดใจอะไรถึงออกมาสังเกตการณ์แบบนี้" ปกติถ้าป๋าของพะพิงออกปฏิบัติการข้างนอกพะพิงจะไม่ค่อยออกมาสังเกตการณ์แบบนี้นอกจากจะสงสัยอะไรบางอย่าง "หนอนไง" "เจ้คิดว่าทีมของท่านอนุรักษ์มีหนอนเหรอ" ทีมของป๋าจะมีหนอนได้ไงล่ะกันยาก็ถามไม่คิด "ไม่ใช่ ทีมของท่านรองแผ่นดินต่างหาก" "อ๋อ" ถึงพะพิงจะมั่นใจเกินครึ่งว่าใครคือหนอนแต่ก็อยากมั่นใจมากกว่านี้อีกหน่อยเลยออกมาหาข้อมูลด้วยตัวเอง "ให้เก่งกล้ากับณภัทรรออยู่ที่รถจับตาดูผับนั่นไว้ จำไว้เราแค่สังเกตการณ์จะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด" "รับทราบเจ้" เมื่อสั่งงานเสร็จคนริเริ่มจะมาแคมป์ปิ้งก็จัดการกางโต๊ะกางเก้าอี้ เอาเตาแก๊สมาจุดเพื่อต้มน้ำร้อนชงกาแฟ แล้วก็ตั้งอีกเตาหนึ่งเพื่อทอดไข่กับปิ้งขนมปัง ทอดไส้กรอกด้วย "ว้าว เจ้จริงจังไปไหมเนี่ย" "อ้าว ก็มาแคปป์ไง นั่งลง ๆ นี่กาแฟ" มือบางส่งแก้วกาแฟให้กันยา ก่อนจะหยิบแว่นส่องทางไกลขึ้นมาส่องมองความเคลื่อนไหวในโกดังเก็บของที่อยู่ข้าง ๆ กัน "เหตุการณ์สงบมากเจ้ เหมือนมันไม่รู้ตัว" ก็ขอให้เป็นแบบนั้น "คอยดูเป็นระยะ" "รับทราบ" เพราะงานนี้หญิงสาวรับปากผู้เป็นบิดาบุญธรรมเอาไว้ เลยทำให้ต้องลากกันยามาสังเกตการณ์แบบนี้ หวังว่างานนี้ท่านรองแผ่นดินจะหาหนอนของทีมตัวเองเจอสักทีนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD