บทที่ 15
"เพราะมีความหลังสินะคุณถึงขอมาทำคดีนี้กับผม" เป็นเรื่องที่เดาได้ไม่ยากว่าทำไมแผ่นดินถึงขอผู้ใหญ่เข้ามาทำคดีนี้ร่วมกับหน่วยพิเศษ
"ก็นิดหน่อยครับ" และเขาก็สาบานไว้แล้วว่าจะถล่มแก๊งของมันให้ได้ก่อนที่จะลาออกจากราชการ
/บีหนึ่งเรียกฐานตอนนี้มาถึงพิกัดพีพีแล้วครับ/
/บีสองเรียกฐานตอนนี้ถึงพิกัดพีพีแล้วเช่นกัน/
"รับทราบ" หลังจากเปลี่ยนพิกัดมารอทั้งสองทีม ณ จุดนัดหมายท่านอนุรักษ์ก็ประสานงานกับทีมตำรวจสากลที่เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย "พร้อมไหมท่านรอง"
"พร้อมครับ" แผ่นดินอยู่ในชุดพร้อมปฏิบัติการตอบรับอย่างสงบนิ่ง นี่ถือว่าเป็นปฏิบัติการใหญ่มาก ๆ ครั้งหนึ่งเลย ทีแรกท่านอนุรักษ์ว่าจะจัดการปลายแถวมันก่อนไง แต่จากที่สังเกตที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่พวกมันใช้เก็บของผิดกฎหมายเพื่อส่งไปต่างประเทศ
"พวกเราเตรียมตัว บีหนึ่งกับตำรวจสากลชุดแรกอ้อมไปบุกเข้าจากด้านหลังถ้าพร้อมแล้วส่งสัญญาณมา" ท่านอนุรักษ์เริ่มบอกแผนปฏิบัติการอีกหน
"รับทราบ"
"บีสองกับทีมตำรวจสากลชุดสองรอสัญญาณจากชุดแรกบุกเข้าจากทางด้านหน้า"
"รับทราบ"
"ส่วนผมท่านรองและทีมสนับสนุนจะรับผิดชอบบริเวณรอบ ๆ และท่าน้ำ" เมื่อท่านอนุรักษ์ออกคำสั่งเสร็จแล้วตำรวจหลายสิบนายก็เตรียมตัวพร้อมปฏิบัติการ เมื่อทีมที่สองได้สัญญาณจากทีมแรกก็เริ่มบุกเข้าไปด้านในทันที ทำให้ครั้งนี้คนร้ายตั้งตัวไม่ทันและคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะทราบตำแหน่งที่พวกมันใช้ซ่อนของผิดกฎหมาย
ปัง ปัง
ในการบุกมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับคนร้ายนิดหน่อยแต่ทางฝั่งตำรวจไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนพวกที่คิดจะหนีทางท่าน้ำก็เจอกับท่านอนุรักษ์และแผ่นดินที่ดักรออยู่ที่ท่าน้ำ
/บีหนึ่งเคลียร์ ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ/
/บีสองก็เคลียร์ ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ/
ปฏิบัติการครั้งนี้เสร็จสิ้นไปได้ด้วยดีทั้งคนร้ายและของกลางถูกตำรวจเก็บไปด้วยทั้งหมด
"ข่าวด่วน! ตำรวจชุดสืบสวนพิเศษและตำรวจสากลบุกเข้าจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ และสิ่งผิดกฎหมายของแก๊งมังกรนิลซึ่งคาดว่าเป็นแก๊งมาเฟียแก๊งใหญ่ในเอเชีย"
"ข่าวก็ออกจะดัง ทำไมคุณตำรวจถึงมานั่งทำหน้าแบบนี้อยู่ที่ผับของฉันละคะ" พะพิงเอ่ยแซวนายตำรวจหนุ่มที่นั่งทำหน้ายุ่งตั้งแต่เข้ามาจนหล่อนอดไม่ได้จนต้องเข้ามาหา
ทั้งที่ปฏิบัติการของเมื่อวานก็เป็นไปได้ด้วยดีแต่ไม่รู้ทำไมร่างสูงถึงมีสีหน้าแบบนี้
"ปฏิบัติการครั้งแรกพลาด" เขาพูดขึ้นมาเสียงเรียบ พรางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
"..."
"คนร้ายไหวตัวทันขนย้ายเหยื่อไปไว้ที่อื่น" พะพิงนั่งเงียบ ๆ เพื่อรับฟังสิ่งที่นายตำรวจหนุ่มพูด "ทีมของลูกน้องผมบุกเข้าไปพบแต่ความว่างเปล่า แต่ที่น่าเจ็บใจคือคนร้ายเพิ่งหนีไปได้ไม่นานก่อนที่เราจะไป"
"คุณคิดว่าไง"
"หึ ท่านอนุรักษ์ก็ถามผมแบบนี้" พ่อลูกคู่นี้ถามเหมือนกันเป๊ะ "แต่ผมกับลูกน้องทำงานด้วยกันมานานจะให้คิดว่าโดนหักหลังมันค่อนข้างเชื่อยาก"
"แล้วมันมีความเป็นไปได้ทางอื่นไหมท่านรอง"
"ไม่รู้สิ แต่ป๋าคุณไม่ไว้ใจผม" คนเริ่มเมาเริ่มพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเลยระบายความในใจออกมา
"ผิดแล้วคุณแผ่นดินป๋าไว้ใจคุณ ไม่งั้นปฏิบัติการครั้งนี้คงไม่ให้คุณร่วม และอีกอย่างคุณไม่ได้ล้มเหลวแค่รอบนี้เสียเมื่อไหร่" คดีก่อนหน้านั้นสองสามคดีก็คว้าน้ำเหลว
"..." ความจริงตรงนี้ทำให้แผ่นดินเถียงไม่ออก สองคดีก่อนที่เขาจะขอย้ายมาทำคดีนี้ร่วมกับท่านอนุรักษ์เขาก็เหลวไม่เป็นท่า แถมคดีสุดท้ายยังโดนโอนให้คนอื่นดูแลแทนด้วย
"ฉันรู้ว่ามันทำใจยากเรื่องที่โดนคนในทีมหักหลัง แต่คุณก็ลองนึกดูให้ดีว่ามันมีทางเป็นไปได้ไหม"
"อืม ช่างเรื่องผมเถอะ"
"..."
"เรื่องเมื่อสองวันก่อนผมขอโทษนะ" คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม เมื่ออยู่ ๆ คนที่มีใบหน้าอมทุกข์ก็เปลี่ยนเรื่อง
"เรื่องสั่งปิดผับน่ะเหรอก็น่าโมโหอยู่หรอก แต่คุณจ่ายค่าเสียหายมาแล้วฉันก็จะแกล้งเป็นลืม ๆ ไปแล้วกัน"
"หึ ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยไหม" แปลกอีกอย่างคือพะพิงไม่หาเรื่องแกล้งแผ่นดินในวันนี้
"คุณดื่มไปเถอะเดี๋ยวฉันนั่งเป็นเพื่อน" เห็นแก่ที่วันนี้คู่หูของอีกฝ่ายไม่มาก็แล้วกัน
"ทำไมตอนแรกคุณเลือกรูดทรัพย์ผม"
"หลอกถามหรือไงคุณตำรวจ"
"เปล่าผมแค่สงสัย" ตาคมเงยขึ้นมาสบมันบ่งบอกว่าสงสัยจริง ๆ เลยทำให้ร่างบางคี่ยิ้มออกมา
"หึ จำไม่ลืมเลยใช่ไหมล่ะ"
"หือ?"
"เขาว่าตอนเด็ก ๆ เรามักแกล้งคนที่แอบชอบ เพื่อให้เขาจำเรา" พะพิงช่วยขยายความแต่ทำให้หัวใจของคนฟังดันเต้นแรงผิดจังหวะเสียดื้อ ๆ
"สารภาพรักเหรอคุณ" คนหูแดงแกล้งถาม
"เปล่าฉันแค่จะบอกว่าตอนแรกฉันแค่ถูกใจคุณก็แค่นั้น"
"..."
"หึ ไม่เห็นต้องทำหน้าคิดแบบนั้นเลย ฉันขอตัวดีกว่าขอให้สนุกกับค่ำคืนนี้นะคะท่านรอง" ว่าจบเจ้าของผับก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมที่จะ
จุ๊บ
"ไว้เจอกันนะ" สาวเจ้าของผับจุ๊บแก้มสากของคนหูแดงไปหนึ่งทีแล้วจึงเดินขึ้นไปทำงานต่ออย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้คนหูแดงที่บัดนี้แดงทั้งหน้านั่งหน้าเหวออยู่คนเดียว
:เมื่อหลายชั่วโมงก่อน:
"เจ้ ชวนมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย"
"แคมป์ปิ้ง"
"ฮะ บนนี้เนี่ยนะ"
"ใช่" วันนี้แต่เช้าตู่พะพิงชวนลูกน้องอย่างกันยาออกมาตั้งเก้าอี้แคมป์ปิ้งกันที่ตึกล้างชั้นบนสุดแถว ๆ ชาญเมือง
"โห แล้วของกินเจ้กะมาอยู่ทั้งวันเลยใช่ไหม" แล้วคนถูกชวน (บังคับ) มาด้วยก็ต้องตกใจกับของกินที่ร่างบางขนมาด้วย
"ใช่ จริง ๆ คือมาสังเกตการณ์ด้วย"
"อ่อวันนี้เขาเริ่มปฏิบัติการแรกสินะ ว่าแต่เจ้ติดใจอะไรถึงออกมาสังเกตการณ์แบบนี้" ปกติถ้าป๋าของพะพิงออกปฏิบัติการข้างนอกพะพิงจะไม่ค่อยออกมาสังเกตการณ์แบบนี้นอกจากจะสงสัยอะไรบางอย่าง
"หนอนไง"
"เจ้คิดว่าทีมของท่านอนุรักษ์มีหนอนเหรอ" ทีมของป๋าจะมีหนอนได้ไงล่ะกันยาก็ถามไม่คิด
"ไม่ใช่ ทีมของท่านรองแผ่นดินต่างหาก"
"อ๋อ" ถึงพะพิงจะมั่นใจเกินครึ่งว่าใครคือหนอนแต่ก็อยากมั่นใจมากกว่านี้อีกหน่อยเลยออกมาหาข้อมูลด้วยตัวเอง
"ให้เก่งกล้ากับณภัทรรออยู่ที่รถจับตาดูผับนั่นไว้ จำไว้เราแค่สังเกตการณ์จะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด"
"รับทราบเจ้"
เมื่อสั่งงานเสร็จคนริเริ่มจะมาแคมป์ปิ้งก็จัดการกางโต๊ะกางเก้าอี้ เอาเตาแก๊สมาจุดเพื่อต้มน้ำร้อนชงกาแฟ แล้วก็ตั้งอีกเตาหนึ่งเพื่อทอดไข่กับปิ้งขนมปัง ทอดไส้กรอกด้วย
"ว้าว เจ้จริงจังไปไหมเนี่ย"
"อ้าว ก็มาแคปป์ไง นั่งลง ๆ นี่กาแฟ" มือบางส่งแก้วกาแฟให้กันยา ก่อนจะหยิบแว่นส่องทางไกลขึ้นมาส่องมองความเคลื่อนไหวในโกดังเก็บของที่อยู่ข้าง ๆ กัน
"เหตุการณ์สงบมากเจ้ เหมือนมันไม่รู้ตัว" ก็ขอให้เป็นแบบนั้น
"คอยดูเป็นระยะ"
"รับทราบ"
เพราะงานนี้หญิงสาวรับปากผู้เป็นบิดาบุญธรรมเอาไว้ เลยทำให้ต้องลากกันยามาสังเกตการณ์แบบนี้ หวังว่างานนี้ท่านรองแผ่นดินจะหาหนอนของทีมตัวเองเจอสักทีนะ