บทที่ 16
"ไอ้ปัญญาถูกสั่งให้ปล่อยตัว"
"แม่ง!!" ท่านรองแผ่นดินนั่งมองสารวัตรพชรที่กำลังหัวเสียเพราะได้ข่าวว่าผู้ต้องหาที่เป็นคนบุกจับเมื่อวานถูกเบื้องบนสั่งให้ปล่อยตัว
"ใจเย็นสารวัตรรอบนี้หลักฐานที่เราได้มาจากผับมันไม่ค่อยมีน้ำหนักจริง ๆ นั่นแหละ" ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าของผิดกฎหมายนที่พบในผับนั้นเป็นของไอ้ปัญญาเลยทำให้มันหลุดจากข้อกล่าวหา
"มันมีแบ็กอยู่เบื้องหลังจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย" และสิ่งที่พวกเขาต้องสืบกันต่อไปก็คือใครอยู่เบื้องหลังของไอ้ปัญญา ซึ่งท่านอนุรักษ์คิดว่าน่าจะเป็นตำรวจยศใหญ่เนี่ยแหละ ถึงได้รับเขากับกวินภพเข้ามาร่วมทีมทำคดีแก๊งมังกรนิลด้วย
"แบบนี้ต้องสืบดู" บางที่ท่านอนุรักษ์อาจจะรู้อยู่แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังของไอ้ปัญญา แต่คงยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดก็เป็นไปได้ "แล้วสายของพวกคุณล่ะ"
"คนที่ส่งข่าวพิกัดรังของมันนะเหรอ"
"อืม"
"หึ เสียใจด้วยท่านรองเขาทำงานนั้นให้เราเป็นงานสุดท้าย" เพราะท่านอนุรักษ์สั่งไม่ให้พะพิงยุ่งเรื่องนี้ต่อแล้ว
"เขาโดนเก็บแล้วเหรอ" น่าเสียดายฝีมือดีเสียด้วย
"เฮ้อ เขาไม่ใช่คนของเราเขาแค่เป็นคนขายข่าว"
"ขายข่าว?" ท่านรองสืบถามอย่างสงสัยว่าใครกันมาขายข่าวให้กับตำรวจ
"ใช่ น่าเสียดายฝีมือของเขาใช่ไหมล่ะครับ"
"ครับ" ถึงอยากรู้ว่าคนนั้นเป็นใครแต่ก็คงทำได้แค่อยากรู้ เพราะเพชรคงไม่เปิดเผยว่าคนขายข่าวคนนั้นคือใคร
"แล้วท่านรองจะทำอย่างไรต่อ"
"เดี๋ยวเราคงต้องสืบกันเอง" เขาคาดไว้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของปัญญาต้องอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเขา
"เอาไงเอากันครับ" ตัวเพชรเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเบื้องหลังไอ้ปัญญามันคือใครกันแน่
"คุณช่วยบอกคนขายข่าวได้ไหมว่าผมขอพบเขาหน่อย" คนฟังอย่างพชรได้แต่ยกยิ้มเพราะคนขายข่าวเขาก็อยู่แค่เอื้อมถ้าเขาอยากให้รูู้ว่าเป็นใครคงไม่ต้องรอให้ท่านรองสืบถามหรอก
"เดี๋ยวผมบอกเขาให้แต่ไม่มั่นใจว่าเขาจะพบคุณหรือเปล่านะครับ"
"เป็นไปตามที่เจ้คาดเลยไอ้ปัญญารอดคุกแบบไม่มีความผิดอะไรสักคดี"
คนที่คาดเดาไว้แล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นอาการหัวเสียของกันยา
"ก็เป็นไปตามคาดไง แล้วจะหัวเสียทำไม"
"ก็มันน่าโมโหนี่เจ้ กฎหมายเอาผิดคนทำผิดไม่ได้สักคดีเพราะว่ามันมีเส้นสายและทำงานให้กับคนมีอำนาจไง”
"ทางป๋าติดต่อมาบ้างไหมเก่งกล้า" ช่วงทำคดีพะพิงจะไม่ติดต่อกับป๋าโดยตรงเพราะด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง เลยให้คนในทีมเป็นคนติดต่อให้แทน
"ยังเงียบอยู่เจ้ แต่สารวัตรเพชรติดต่อมาว่าท่านรองสืบอยากพบคนที่ขายข่าวให้"
"เขาจะลงมือสืบเองแล้วสินะ" เป็นไปตามที่ป๋าวางแผนไว้ตั้งแต่แรก ถ้าอยากปิดคดีนี้ต้องเอาคนอยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้ และป๋าก็มั่นใจว่าหัวหน้าแก๊งมังกรนิลอีกคนเป็นตำรวจยศใหญ่เลยจำเป็นต้องให้ท่านรองสืบช่วยสืบด้วยตัวเอง
"ทำไมต้องให้รองสืบ สืบ"
"เพราะพ่อของท่านรอง" ความจริงคดีนี้เกือบปิดได้ตั้งแต่สิบปีก่อนแต่สารวัตรผู้ทำคดีกลับเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ส่วนหลักฐานทั้งหมดกลับหายไปอย่างปริศนา
"แล้วเจ้จะไปพบเขาไหม"
"ไม่ กันยาส่งพัสดุที่ตู้ไปให้เขา” มันคือนาฬิกากับเครื่องติดตามที่ร่างบางฉกมาเมื่อรอบก่อน
“เดี๋ยวจัดให้เจ้”
“เก่งกล้าตอนนี้ซันอยู่ไหน” เจ้ามาเฟียพ่อค้าอาวุธนั่นหลังจากที่มาป่วนเธอเมื่อวันนั้นก็หายตัวไปเลยดีที่เธอให้เก่งกล้าคอยจับตาดูอยู่
“ตอนนี้อยู่เชียงรายครับ เมื่อสองวันก่อนมีข่าวว่าริวโดนตำรวจสากลบุกรัง แล้วก็โดนมาเฟียคู่แข่งโจมตีระหว่างทางกลับบ้าน” ถึงเรื่องที่สองเก่งกล้าเหมือนจะพูดบอกเล่าเฉย ๆ แต่พะพิงมั่นใจว่าเกี่ยวข้องกับซันซัสแน่นอน หมอนั่นคงอดใจไม่ไหวเลยลงมือ
“อืม”
"คาดว่าริวอาจหนีมากบดานที่ไทยหรือไม่ก็ประเทศเพื่อนบ้าน" แสดงซันซัสน่าจะไปจัดการตอนรับเพื่อนทางการค้าล่ะมั้ง ช่างหมอนั่นไปก่อน
"หวังว่าหมอนั่นจะไม่เล่นใหญ่นะ"
"แล้วเจ้จะทำอะไรต่อ"
"ไปพักผ่อนที่ทะเลกันไหม จากนั้นผมว่าจะแวะไปหาธารสักหน่อย" ไม่รู้ว่าช่วงนี้ธารหายไปไหนแม้แต่แชตที่มักจะไว้คุยกันตลอดก็มีเพียงแต่เล่าเนื้อหานิยายเล่มขาวที่ได้จากเธอไปให้ฟังหลังจากที่เจ้าตัวใช้เวลาอ่านเพียงหนึ่งวันก็จบ จากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่ออะไรมาอีกเลยมันแปลกเกินไป ถึงพะพิงกับธารจะนาน ๆ เจอกันสักครั้ง แต่ส่วนใหญ่มักติดต่อกันผ่านทางช่องแชตเสมอ และธารก็ไม่เคยหายไปหลายวันขนาดนี้
"คุณธาร ธารธารา เจ้าของอาณาจักรธารากรุ้ปนะเหรอ" เก่งกล้าถามขึ้นเมื่อนึกถึงเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของพะพิง
"ใช่ ช่วงนี้มีข่าวอะไรบ้างไหม" พะพิงไม่ได้สั่งให้ใครคอยจับตาดูเพื่อนสนิทเพราะธารเพราะอยากให้เพื่อนใช้ชีวิตแบบปกติ
"เมื่อสองเดือนก่อนผมเจอเขาโดยบังเอิญที่ร้านกาแฟแถว ๆ บริษัทของเขา"
"เล่าต่อสิ"
"เขากำลังนั่งคุยอยู่กับนักสืบ" ธารจ้างนักสืบเหรอไปสืบอะไรกันนะ หรือธารกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่จริง ๆ
"เก่งผมอยากได้ข้อมูลทั้งหมด"
"รับทราบครับเจ้" เขาคิดว่าคงต้องไปหาธารวันนี้เสียแล้วเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาแล้วสิ ปกติธารไม่เป็นแบบนี้หรือมีเรื่องอะไรที่ไม่อยากให้คนนอกรู้