บทที่ 4
"ทำไมถึงเลือกจัดที่นี่ล่ะคะ" พะพิงที่กำลังนั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิวทะเลเอ่ยถามไอเซยาห์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กัน
"งานการกุศลน่ะ ควีนของเกาะนู้นเขามอบสร้อยคอมาให้ประมูลแล้วเอารายได้บริจาคทั้งหมด คนที่คอยดูแลความปลอดภัยของงานนี้เลยเป็นทหารราชองครักษ์" อ่อ เขาคงคิดว่างานประมูลทรัพย์สินของพวกไฮโซเซเลปเล็ก ๆ คงไม่มีของมีค่าอะไรที่จะเรียกนักโจรกรรมให้เสียเวลาเข้ามาขโมย "แต่อย่าประมาทไปล่ะ ของเก่าที่เจ้าของอยากได้ ไม่ได้มีแต่เจ้าของเท่านั้นที่อยากได้นะ" ไม่วายเอ่ยเตือนนักโจรกรรมตัวน้อย
"รับทราบ ว่าแต่ไอยังไม่ตอบพิงเลยว่าทำไมถึงหลอกให้ป๋าไปรอที่เนเธอแลนด์" ไม่รู้ปานนี้ป๋าจะรู้ตัวหรือยังว่าโดนหลอกให้ไปอยู่ที่นั่น
"ก็เพิ่งปิดคดีใหญ่มาไม่ใช่เหรอ ก็แค่อยากให้พักผ่อน" อันนี้พะพิงเห็นด้วยกับไอเซยาห์แต่ถ้าป๋ารู้ว่าโดนหลอกเราจะไม่โดนกันทั้งอาจารย์ทั้งลูกศิษย์เหรอ
"ก็จริง พักนี้ป๋าดูโทรมลงจริง ๆ นั่นแหละ" วัยก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วด้วย
"เมื่อวานเขาโทรมาฟ้องว่าเราว่าเขาแก่ด้วยแหละ" อีกคนว่าอย่างขำ ๆ เมื่อนึกถึงบทสนทนาที่อนุรักษ์โทรมาอ้อนเขาเมื่อวาน
"ไอรู้อะไรไหม ป๋าน่ะเดี๋ยวนี้ห่วงเรื่องรูปลักษณ์มากเลยนะ"
"ทำไมเหรอ" ไอเซยาห์เลิกคิวสงสัย
"หึ ๆ ก็ป๋ากลัวแก่นำหน้าไอไง"
"ยังไง" คนสวยก็ยังไม่เข้าใจที่พะพิงพูดอยู่ดี ปีนี้อนุรักษ์อายุ 51 ปี ส่วนเขา 42 ปี อนุรักษ์ก็ต้องแก่นำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
"ก็ตอนนี้ป๋าอายุห้าสิบกว่าแล้วใช่ไหมผมที่เคยดำก็เริ่มขาวเหมือนคนมีอายุแล้ว ถึงหน้าป๋าจะยังไม่เหี่ยวแต่ก็มีริ้วรอยอยู่หลายจุด ...แล้วดูไอสิถึงปีนี้จะสี่สิบสองแล้วแต่หน้าไอเหมือนคนอายุยี่สิบปลาย ๆ อยู่เลย ป๋าก็คงกลัวถ้าออกไปข้างนอกด้วยกันคนอื่นจะเข้าใจว่าพาลูกออกมาด้วย" พะพิงอธิบายจนไอเซยาห์เห็นภาพ
"ก็ไม่เห็นต้องคิดมากขนาดนั้น" ไอเซยาห์ได้แต่ถอนหายใจเมื่อนึกถึงสามีอายุมากของตัวเองยิ่งแก่ยิ่งใจน้อยสินะ
"เพราะเขารักไอมากไง" พูดจบก็ส่งยิ้มไปให้คนรักของป๋า
"แล้วโกรธหรือเปล่าที่ฉันมาแย่งความรักจากรักษ์ไป"
"หึ ๆ ไม่เคยโกรธเลยไอ ถึงไอจะมาแบ่งความรักจากป๋าไป ป๋าก็ไม่ได้รักพิงน้อยลง แล้วอีกอย่างไอก็มอบความรักของไอให้พิงด้วยนิ ไม่มีอะไรที่พิงจะขาดทุนเลย ไอเลิกคิดมากได้แล้ว" พะพิงจำวันแรกที่เจอกับไอได้ดีตอนนั้นเธออายุห้าขวบ ป๋าพาคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในบ้านแล้วบอกให้เขาจับตาดูไว้ดี ๆ ถ้าไอคิดหนีให้เขาร้องดัง ๆ
"แล้วโกรธหรือเปล่าที่เราสอนให้เธอเป็นโจร" เมื่อหวนนึกถึงวีรกรรมตอนเด็กของตัวเองพะพิงก็ได้แต่ยิ้มตาม จริง ๆ แล้วไอไม่ได้สอนให้เธอเป็นโจร ไอแค่สอนวิชาล้วงกระเป๋าและเทคนิคของนักโจรกรรมให้เท่านั้น รวมถึงสอนศิลปะป้องกันตัวให้เธอด้วย
"หึ โจรมันเป็นพรสวรรค์นะไอ ที่พิงเก่งขนาดนี้เพราะพิงมีพรสวรรค์ ไอแค่สอนทฤษฎีให้เฉย ๆ เอง" ตลอดชีวิตที่ผ่านมาหล่อนถูกไอเซยาห์กับป๋าเลี้ยงมาด้วยความรักเธอไม่มีแม่ไอ้ก็เหมือนแม่ของเธอ ถึงไอจะเป็นผู้ชายแต่ไอก็ทำทุกอย่างที่คนเป็นแม่ควรทำ มีอยู่ครั้งหนึ่งไอเคยแต่งตัวเป็นผู้หญิงไปงานโรงเรียนเพื่อหล่อนด้วยและแบบนี้จะไม่ให้หล่อนรักไอเซยาห์ได้อย่างไร
"แล้วเสียใจหรือเปล่าที่เราให้ไปทำงานนั้น" งานนั้นหมายถึงงานนักสืบนั่นแหละจุดประสงค์ที่ไอส่งเขาไปก็เพราะให้ช่วยสืบงานให้ป๋า แต่ด้วยอาชีพที่ต่างกันพะพิงเลยเลือกเป็นผู้รับจ้างคอยรับงานสืบให้ป๋าเป็นงาน ๆ ไป
"ไม่เคยเสียใจเลยไอ งานป๋าอันตรายต้องได้มืออาชีพแบบพิงหาข้อมูลให้ถึงหายห่วง อีกอย่างถ้าไอไม่ขอให้ทำพิงก็ไปทำอยู่แล้ว" ใจจริงเคยอยากคิดสอบตำรวจเหมือนป๋า แต่เห็นอาชีพนักโจรกรรมมันคลูกว่าเลยเลือกอย่างหลัง สุดท้ายก็มารวมกันกลายเป็นนักโจรกรรมยอดนักสืบไปแล้ว "อย่าคิดมากเลย พิงมีความสุขกับชีวิตแบบนี้ ชีวิตที่มีป๋ากับไอเป็นคนคอยดูแลคอยมอบความรักให้"
ถ้าอนุรักษ์ไม่เก็บหล่อนมาจากซ่องชีวิตของหล่อนจะเป็นอย่างไรพะพิงคิดไม่ออก
ต้องขอบคุณป๋าที่อุ้มเด็กที่เกิดได้เพียงสามวันกลับไปเลี้ยงที่บ้านพัก จนคนแถวนั้นพากันเรียกว่าผู้กองพ่อลูกอ่อน
"พิงว่าเราไปเตรียมตัวกันดีกว่า" อย่างที่ไอเซยาห์บอกนั่นแหละไม่น่ามีแค่พวกเขากลุ่มเดียวที่จะมาชิงของ ก็นะของแบบนี้ใครเร็วใครได้นี่เนอะ
ร่างบางมาในชุดราตรีสีแดงขับผิวขาวเนียนให้ดูสว่างขึ้น ชุดราตรีแบรด์ดังขนาดพอดีตัวโชว์แผ่นเนียนขาวจนคนอื่นต้องเหลียวหลังมองบวกกับผมสีบลอนด์ถูกรวบเก็บไว้ข้างหลังทำให้ใบหน้างดงามที่ถูกแต่งแต้มพอเหมาะดูมีเสน่ห์มากจนที่สนใจของคนในงาน
"เชิญเข้างานได้ครับ" พนักงานเปิดประตูให้แก่ร่างบางเมื่อตรวจสอบบัตรเชิญเสร็จ
ขาเรียวก้าวเข้าไปในงานท่ามกลางสายตาของแขกที่มาถึงก่อนหลายสิบคู่ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่เก้าอี้ตัวที่พนักงานเดินนำมาส่ง
"ขอบคุณ"
/เจ้ ได้ยินชัดไหม/ เสียงของเก่งกล้าดังรอดออกมาจากเครื่องมือสื่อสารขนาดจิ๋วที่ร่างบางเหน็บไว้ที่หู
"อืม"
/สู้ ๆ นะเจ้นาน ๆ จะเป็นได้เป็นตัวหลอก ฮ่า ๆ / คนที่รับบทเป็นตัวหลอกถึงกับกรอกตา ไอนะไอจะรีบปิดงานแล้วไปหาป๋ามีตั้งหลายวิธีทำไมให้เขามาเป็นตัวหลอกด้วย
"ตัวแทนของเจ้าชายไอเซยาห์ใช่ไหมครับ" หนุ่มตาสีฟ้าเดินเข้ามาทักพะพิงหลังจากที่พนักงานเดินออกไปแล้ว
"ค่ะ" รอยยิ้มการค้าถูกส่งไปให้ผู้มาเยือน และที่ทำให้ผู้คนนี้รู้ว่าเขาคือตัวแทนของไอก็น่าจะเป็นเข็มกัดที่รับมาจากหน้างาน
"ผมปิแอร์เป็นรุ่นน้องของเจ้าชาย" ,
"ยินดีที่ได้รู้จัก"
"คุณ..."
"หึ พะพิง" พอทักทายเสร็จร่างเพรียวก็นั่งลงที่เดิมโดยไม่สนใจผู้ชายคนนั้นอีก
"หึ น่าสนใจจังนะครับ หวังว่าวันนี้คุณจะได้ของตามที่ปรารถนา" พูดจบปิแอร์ก็เดินจากไปแต่ไม่ลืมส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับร่างบาง ราวกับว่าเดินเข้ามาทักทายคู่แข่งและประกาศศึก
งานประมูลเริ่มขึ้น ของหลายชิ้นถูกนำออกมาประมูล