บทที่ 2
ต้องบอกว่าความทรงจำสุดท้ายของเขาคือรู้สึกดีมาก ร่างงดงามที่ถูกหิ้วขึ้นมาบนห้องก็ถูกใจเขาสุดที่สุด แต่ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ สติของเขาถึงได้หายไป แล้วมารู้สึกตัวอีกทีตอนนี้...เมื่อคืนเขาเมาเขาได้เปิดบทเพลงรักกับแม่สาวขี้ยั่วคนนั้นไปหรือเปล่า? หรือเขาเมาแล้วหลับไปทิ้งให้แม่สาวคนนั้นอยู่กลางทาง
สายตาคมจึงกวาดมองไปรอบห้อง ก็พบแต่ความว่างเปล่าไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่เขาอยู่ด้วยเมื่อคืน
...หรือหล่อนจะโกรธแล้วหนีไปแล้ว?
"ฉิบหาย" นายตำรวจหนุ่มสบถออกมาเมื่อสำรวจห้องเสร็จแล้วก็พบกับความว่างเปล่า ว่างเปล่าที่แปลว่าทรัพย์สินของเขาทุกชิ้นหายไปทั้งหมดกระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่มีเหลือสักชิ้น นี่เขาโดนรูดทรัพย์เหรอเนี่ย ทำไมถึงกล้ากระตุกหนวดเสือแบบนี้นะ หน้าก็ไม่ได้เห็นแต่ถ้าได้เจอกันอีกหนเขาจำได้แน่ แสบนักนะยัยจิ้งจอกน้อย
ดีหน่อยที่ในตู้เสื้อผ้ายังมีชุดคุมอาบน้ำนายตำรวจหนุ่มจึงหยิบมาสวมก่อนจะลงไปหาพนักงานที่ฟร้อนท์
"อ๋อ คุณลูกค้าห้อง 609 ใช่ไหมคะ พอดีคนที่คุณพามาเขาฝากอันนี้ไว้ให้ค่ะ" มือหนารับซองสีขาวจากพนักงานมาเปิดดูก่อนจะหน้าเปลี่ยนสีด้วยความโมโหเพราะเห็นเงินจำนวน 500 บาท อยู่ในซองสีขาว "เอ่อ แล้วเขาส่งรถของคุณลูกค้าไปล้างให้นะคะ เดี๋ยวตอนสิบเอ็ดโมงร้านจะเอามาส่งให้ค่ะ คงเป็นเวลาที่ลูกค้าต้องเช็กเอาต์พอดี
"ขอบคุณครับ" ร่างสูงถึงกับคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินสิ่งที่พนักงานต้อนรับพูด นอกจากเขาจะโดนรูดทรัพย์แล้วเขายังโดนดัดหลังด้วย ถ้าเจอกันอีกรอบนะเจอดีแน่แม่โจรรูดทรัพย์
"ฮ่า ๆ ๆ นี่พี่โดนรูดทรัพย์เหรอ" สารวัตรกวินภพระเบิดขำออกมาเมื่อฟังเรื่องทั้งหมดที่รุ่นพี่บวกตำแหน่งคู่หูเล่าให้ฟัง หลังจากกลับมาจากโรงแรม
เมื่อช่วงสายกวินภพได้รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก แต่คนโทรมาก็คือแผ่นดินเนี่ยแหละรุ่นพี่บอกให้เขาเอาเสื้อผ้าไปให้ที่โรงแรมตอนแรกก็แปลกใจอยู่หรอกแต่ไม่กล้าถามเพราะท่านรองเขากำลังทำหน้าดำหน้าแดงเหมือนกำลังโกรธใครอยู่ พอเขาส่งเสื้อผ้าให้ก็รีบเข้าไปแต่งตัวทันที พอออกมาจากห้องน้ำพนักงานของโรงแรมก็เอากุญแจรถมาให้พอดี พอเช็กเอาต์เสร็จก็นัดมาเจอกันที่คอนโดของแผ่นดิน
เจ้าของห้องใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ถึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
"ตลกมากเลยสินะไอ้กวิน" โดนรูดทรัพย์ไม่พอเสื้อผ้าก็โดนเอาไปหมดแม้แต่กางเกงในยัยโจรตัวแสบยังไม่เหลือเอาไว้ให้เลยมันน่าเจ็บใจจริง ๆ
"ดีที่เขาไม่เอารถไปด้วย" ไม่วายโดนรุ่นน้องหยอกเข้าให้อีก แต่คนถูกหยอกกลับมีสีหน้าเข้มขึ้น
"แค่นาฬิกาก็ซื้อรถได้สองคันแล้ว" นาฬิกาเรือนโปรดของเขาโดนฉกไปด้วยนาฬิกาเรือนนั้นตอนนี้ราคาก็ปาไปแปดหลักแล้วมันเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่เขาตัดสินใจใช้เงินที่ได้จากการปันผลหุ้นซื้อตอนที่เรียนนายร้อยใหม่ ๆ นึกถึงแล้วก็เสียดาย แต่เจ็บใจมากกว่า …เสียไปเป็นล้านสุดท้ายก็ไม่ได้จิ้ม
"ตาถึงจริง ๆ ว่าแต่จำหน้าเขาได้ไหม"
"เมา" จะให้ตอบว่าอะไรได้ล่ะในเมื่อนายตำรวจหนุ่มไม่เคยเห็นหน้าคู่นอนเมื่อคืนแบบเต็ม ๆ เลยสักครั้ง ก็คิดว่าน้องเขาชอบแบบนั้นใครจะคิดว่าเด็กในผับนั้นจะเป็นโจรรูดทรัพย์ได้ล่ะ
"แล้วลีลาดีไหม"
"อืม หุ่นดีมาก...มันใช่ไหมไอ้กวิน" ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละว่าเจ้าหล่อนหุ่นดีมากจริง ๆ ทรวดทรงองค์เอวนั้นล้วนจับแล้วพอดีไม้พอดีมือไปหมด แต่แม่คุณก็ทำไว้แสบจริง ๆ
"แล้วเอาไงพี่แจ้งความไหม"
"ไม่" ขืนคนอื่นรู้ก็อายเขาแย่ ท่านรองแผ่นดินทำคดีใหญ่ คดีระดับชาติมาหลายคดี มาเสียทีให้กับยัยโจรยั่วสวาทน่ะหรือ แค่คิดแผ่นดินก็อยากเอาปี๊บคุมหัวแล้ว
"งั้นเดี๋ยวให้วารีตามตัวให้" วารีที่กวินพูดถึงก็คือลูกน้องในสังกัดของแผ่นดินนั่นแหละเธอถนัดเรื่องไอที
"อืม"
"ว่าแต่เขาทิ้งอะไรไว้ให้พี่อีกไหม"
แปะ!
ซองสีขาวที่ได้รับมาจากพนักงานถูกมือหนาโยนลงบนโต๊ะรับแขก
"ห้าร้อย" กวินที่เอามาดูด้วยความสงสัยพรางเลิกคิ้วถาม "เขาเหลือไว้ทำไม"
"ไว้ให้เติมน้ำมันกลับบ้านมั้ง" แผ่นดินว่าอย่างหงุดหงิดแต่คู่หูกับหัวเราะออกมาอีกรอบ
"ฮ่า ๆ โอ๊ยชักอยากเจอเธอเสียแล้วสิ" คนที่ทำให้ท่านรองสืบสวนเสียท่าได้ขนาดนี้จะเป็นคนแบบไหนกันนะ
.
"เจ้ ทำไมสภาพเป็นงี้อ่ะ" ณภัทรที่นั่งรออยู่บนรถตู้ถึงกับเอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นพะพิงเดินจับหลังขึ้นมาบนรถ
"เหอะ" เป้าหมายตัวหนักมากน่ะสิเขาทั้งลากทั้งแบกขึ้นเตียง ด้วยความอยากให้อีกฝ่ายจำไม่ลืมจึงแกล้งรูดทรัพย์ออกมาทั้งหมด
"หึ ๆ เจ้ไปทำอะไรมา ไปหาหมอนวดไหม" พะพิงปรายตามองลูกน้องในทีมอยางเคือง ๆ เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยแซว
"เงียบไปเลยไอ้ภัทร จัดการซะ" ยื่นโทรศัพท์ที่หยิบมาด้วยให้ณภัทรจัดการ "พวกที่เอารถไปล้างว่าไงบ้าง"
"เดี๋ยวสิบเอ็ดโมงเอาไปส่งที่โรงแรม"
"เจออะไรผิดปกติไหม" ถามพรางมองณภัทรที่จัดกการดึงข้อมูลจากโทรศัพท์
"มีทั้งเครื่องดักฟังและเครื่องติดตาม" คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิดเท่าที่ติดตามแผ่นดินมาเกือบสามอาทิตย์ก็ไม่พบความผิดปกติอะไร "โอ๊ะ ในนี้ติดแอพดักฟังเสียงตอนโทรเข้าโทรออกด้วย"
"เอาเครื่องติดตามกับเครื่องดักฟังออกให้หมด" เมื่อเจ้าหล่อนคาดการณ์อะไรบางอย่างเสร็จก็ออกคำสั่งให้คนในทีมจัดการตามที่บอก "ส่วนโทรศัพท์เดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง"
"รับทราบครับเจ้ ว่าแต่เอายานวดหน่อยไหมเดี๋ยวให้ไอ้เก่งซื้อมาฝาก"
"ขอบคุณ" ก็รู้ว่าณภัทรแซวด้วยความเป็นห่วงนั่นแหละ ร่างบางเลิกสนใจลูกน้องขี้แซว แล้วเข้าไปนั่งประจำที่ของตัวเองภายในรถตู้ที่ด้านในถูกดัดแปลงเหมือนห้องปฏิบัติการเล็ก ๆ ที่เคยเห็นในหนังสายลับ
จุดหมายต่อไปคือรับเก่งกล้าที่ถูกส่งไปตรวจดูความผิดปกติในรถของแผ่นดินที่พะพิงสั่งให้ลูกน้องเอาไปล้าง
"กันยาให้เมสเซ็นเจอร์ไปรับของที่ร้านล้างรถแล้วให้ส่งไปรษณีย์ไปตามที่อยู่นี้นะ"
"ตู้ไปรษณีย์เช่าเหรอเจ้" กันยาที่วันนี้ทำหน้าที่ขับรถหันมาถามหัวหน้าด้วยความสงสัย
"ใช่"
"ผู้ว่าจ้างให้สืบต่อเหรอ"
"เปล่า ฉันแค่อยากรู้" ไหน ๆ หลังจากปิดจ็อบงานนี้ก็ไม่ได้รับงานอะไรต่อ เพื่อไขข้อข้องใจของตัวเองเลยเจ้าหล่อนจึงขอเล่นอะไรสนุก ๆ กับเจ้าของเครื่องดักฟังและเครื่องติดตามนี่สักหน่อย
"แต่งานนี้ไม่ได้ค่าจ้างนะ" ณภัทรแกล้งแซวคนขี้งก เมื่อนึกถึงเงินค่าจ้างงานก่อนที่พะพิงเรียกมาจากผู้ว่าจ้างก็รู้สึกขนลุก
"ใครไม่ทำก็ไปพักร้อน กันยาไปเป็นนักศึกษาอีกครั้งหนึ่งไหม"
"ไปสิ ไปฝึกงานที่ไปรษณีย์ใช่ไหม" คนถูกชวนตอบรับอย่างนึกสนุกกันยาชอบงานแฝงตัวที่สุดมันตื่นเต้นและหลากหลายดีเมื่อพะพิงมีงานให้ทำเธอก็อยากทำด้วยความยินดี
"ใช่ ดีลนะ"
"ดีล"
"ไปทำอะไรมาเหรอหนูน้อย" ผู้ว่าจ้างรายล่าสุดเอ่ยทักเมื่อเห็นคนเจ็บหลังเดินเข้ามา
"น่าจะหลังหยอกน่ะป๋า"
"หึ นั่งก่อนสิ" มือหนาของผู้ว่าจ้างผายมือไปที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามให้คนหลังเจ็บนั่ง
"ปิดคดีนิคันชินเสร็จแล้วเหรอป๋า" ไม่ใช่แค่พะพิงหรอกที่ดูร่างกายดูไม่ปกติ หนุ่มใหญ่ตรงหน้าก็ดูโทรมเหมือนกัน ผมสีดำที่เมื่อรอบก่อนยังไม่มีสีอื่นแซมผ่านไปแค่สามอาทิตย์พะพิงเห็นว่ามีสีขาวแซมขึ้นมาอยู่หลายเส้น
"ป๋าดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ" เมื่อได้ยินคนช่างสังเกตถามแบบนั้นคนถูกเรียกว่าป๋าก็เริ่มขาดความมั่นใจ
"ฮ่า ๆ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ป๋าแค่ดูโทรมนิดหน่อย"
"ช่างเถอะไม่ได้สบายใจขึ้นเลย เข้าเรื่องกันเถอะ"
"อายุเยอะแล้วขี้น้อยใจเหรอป๋า โอเค ไม่พูดก็ได้" เมื่อเห็นคนอายุเยอะแคร์รูปลักษณ์ภายนอกมากขนาดไหนพะพิงเลยพาเข้าเรื่องทันที "พิงตรวจสอบเส้นทางการเงินของเขาแล้ว ปกติดีทุกอย่างเงินส่วนใหญ่มาจากหุ้นที่ลงทุนในตลาดทั้งในและต่างประเทศ บัญชีเงินเดือนก็มีเข้าแค่เงินเดือนปกติ ลองตรวจทุกบัญชีแล้วก็ปกติดี รวมถึงบัญชีของคนใกล้ชิดและคนที่ติดต่อกันอยู่บ่อย ๆ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ"
"อืม มือสะอาดจริง ๆ สินะ แล้วไงต่อ"
"ชีวิตประจำวันก็ออกจากบ้านไปทำงาน ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน แต่ทุกวันศุกร์จะเข้าผับเข้าไปดื่มกับหูคู่หรือไม่ก็ลูกน้องบางทีก็เพื่อนสนิท วันเสาร์อาทิตย์ส่วนมากจะอยู่แต่บ้าน มีบ้างที่ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดแต่ก็ไปแบบเช้าเย็นกลับ" ร่างบางเล่าไปตามที่สืบมาตลอดสามอาทิตย์
"จะปกติก็ปกติ จะว่าแปลกก็แปลก" ผู้ว่าจ้างว่าเมื่อคิดตามที่พะพิงเล่าให้ฟัง
"ป๋าสงสัยตรงไหนเหรอ"
"แผ่นดินมีคนรักอยู่ที่บ้านเหรอ" มีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกที่ทำให้ผู้ชายอยากอยู่แต่บ้านน่ะ ตอนแรกพะพิงก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแต่พอลองให้คนในทีมเข้าไปสืบก็พบว่าแผ่นดินโสดสนิท แต่สาเหตุที่รีบกลับบ้านก็คือไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่
"เปล่า เขารีบกลับไปอยู่กับแม่เขาน่ะ" เท่าที่ได้ข้อมูลมาคือท่านรองแผ่นดินเสียบิดาไปตอนเรียนจบนายร้อยใหม่ ๆ แล้วเมื่อต้นปีก่อนมารดาของเขาตรวจพบมะเร็งระยะสามแต่อยู่ในที่รักษาไม่ได้หมอบอกว่าเธอจะมีเวลาอยู่ได้ไม่ถึงสองปี "แม่เขาป่วยน่ะป๋า"
"อืม"
"ข้อมูลอื่น ๆ ที่ป๋าอยากได้อยู่ในนี้หมดแล้ว" มือบางเลื่อนซองสีน้ำตาลไปให้ผู้ว่าจ้าง "ป๋าทำไมคดีล่าสุดที่รองแผ่นดินทำอยู่ ๆ ถึงโดนโยนไปให้คนอื่นล่ะ" คดีที่พะพิงพูดถึงคือคดีค้าอาวุธ และมนุษย์ของพ่อค้ารายใหญ่อันดับต้น ๆ ของเอเชีย เป็นคดีที่ทีมของแผ่นดินทำร่วมกับตำรวจสากล แต่กลับถูกคำสั่งย้ายสายฟ้าแลบให้ไปดูคดีอื่นและให้คนอื่นมาทำแทน
"ผู้ใหญ่บอกว่าเขาทำงานพลาด" แผ่นดินพลาดจริง ๆ นั่นแหละ ศัตรูดันไหวตัวทันเสียก่อนที่จะโดนจับกุม "เจออะไรผิดปกติเหรอ"
"ก็มี" นาฬิกาที่อยู่ในถุงซิปถูกหยิบขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ
"นี่ยังไม่เลิกรูดทรัพย์อีกเหรอ" คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อเห็นของที่ร่างบางหยิบขึ้นมาให้ดู
"โธ่ป๋าลูกศิษย์นักโจรกรรมอันดับหนึ่งในบัญชีดำเลยนะจะทิ้งอาชีพหลักได้ไง" ศิษย์อันดับหนึ่งของนักโจรกรรมเอ่ยอย่างขำ ๆ "ดูทำหน้าเข้าป๋าที่ยอมรับงานป๋านี่คือรักป๋านะ"
"เหอะ รู้สึกเหมือนโดนทดแทนบุญคุณ"
"ที่เอามาให้ดูนี่แค่จะบอกว่าในมือถือถูกติดตั้งแอพดักฟังตอนโทรเข้าออก ส่วนในนาฬิกาก็ถูกฝังเครื่องติดตามขนาดเล็กเอาไว้"
"แล้วไหนโทรศัพท์" นายจ้างถามเมื่อเห็นแค่นาฬิกา
"ทิ้งไปแล้ว" เมื่อคนถามทำหน้าสงสัยก็พูดต่อ "ป๋าไม่อยากทดสอบความสามารถเขาเหรอ"
"อืม ดูท่าหนูถูกใจเขามากนะ" คนถามเสียงเข้มขึ้นนิดหน่อยทำให้คนฟังถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
"หวงเหรอป๋า ถึงจะถูกใจมากขนาดไหนแต่ที่หนึ่งในใจพะพิงก็คือป๋ากับอาจารย์อยู่แล้ว"
"เฮ้อ หนูน้อยเอ๋ย นู้นเหยื่อหนูรื้อขยะอยู่นั่น" คนอายุมากทำเป็นบุ้ยปากไปตรงถังขยะเทศบาลที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านกาแฟ
"หึ ก็ถือว่าทำงานไวอยู่นะป๋า แต่น่าเสียดายที่มีหนอนอยู่ในทีม"
"นั่นสิ เอาล่ะนี่ค่าจ้างแล้วเจอกันนะหนู"
"โอ๊ย ป๋าเมื่อไหร่จะเลิกเรียกว่าหนูสักทีนะ" พะพิงอดไม่ได้ที่จะแหววใส่คนที่เดินอารมณ์ดีออกจากร้านไป
"พี่สัญญาณโทรศัพท์พี่อยู่แถวนี้" กวินภพดูพิกัดในโทรศัพท์ที่วารีส่งมาให้
"อยู่ในนี้" มือหนาหยิบถุงดำที่อยู่ในถังขยะเทศบาล
"ว้าว โจรอยากปั่นหัวพี่เล่นหรือเปล่านะ"
"เหอะ อย่าให้เจออีกนะยัยตัวแสบ" แผ่นดินหยิบโทรศัพท์ออกจากถุงขยะ แล้วขยำถุงดำปาลงถังขยะด้วยความโมโห
"ถ้าเจอพามาแนะนำให้ผมรู้จักหน่อยนะ"
"อืม" รับปากรุ่นน้องไปอย่างในแต่ในใจยังคิดไม่ออกว่าจะหาเจอได้อย่างไร ในเมื่อตอนแรกแผ่นดินคิดแค่ว่าเป็นแค่โจรรูดทรัพย์ธรรมดาแต่ที่ไหนได้เขาเจอของจริงเข้าแล้ว เพราะเจ้าหล่อนกำจัดร่องรอยทั้งหมดจนเขาตามสืบไม่ได้ ตอนไปขอดูกล้องวงจรปิดของผับก็ไม่เห็นหน้าเห็นแค่รูปร่างลาง ๆ พอไปขอดูกล้องวงจรปิดที่โรงแรมก็เห็นแต่ร่างบางในชุดของเขาพร้อมกับหมวกปีกกว้างปิดจนไม่เห็นหน้า ขอดูกล้อง ฯ บริเวณนั้นก็เสียทั้งหมดมันดูบังเอิญเกินไปมั้ย!!
เจอกันคราวหน้าเจอดีแน่ยัยโจรตัวแสบ!!