“ลุงเอาของกินมาฝาก พอดีลืมเอาให้ที่ร้านน่ะ”
“ขอบคุณค่ะ ลุงจะเข้าไปนั่งเล่นข้างในบ้านก่อนไหมคะ แม่ขึ้นไลก์น่าจะหลายชั่วโมงค่ะ”
คามิลลายิ้มให้กับบุรินทร์อย่างเป็นมิตร เธอรู้สึกปลอดภัย ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม สำหรับคามิลลาแล้วผู้ชายคนนี้ไม่มีพิษภัยกับเธออย่างแน่นอน
“ไม่เป็นไร พอดีว่าลุงมีธุระต้องไปทำต่อ ฝากบอกแม่ด้วยนะวันหลังลุงจะแวะมาใหม่”
“ได้ค่ะ แต่ว่าแม่ก็ไปรับหนูกับคาร์เตอร์ที่ร้านทุกวันอยู่แล้วนี่นา... ลุงมีอะไรก็คุยกับแม่ได้นะคะ”
“โอเค... ลุงไปแล้วนะ”
“ค่ะ” คามิลลายืนงงอยู่หน้าบ้าน เมื่อเห็นท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ ของบุรินทร์ เพราะเขาเองก็อยากมีบทบาทในชีวิตของพราวมุกบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะปิดกั้น จนเขาหาทางทำลายกำแพงใจ ที่เธอสร้างเป็นเกราะกำบังเอาไว้ ไม่ให้ใครเข้าอยู่อยู่ในหัวใจได้เลยสักคน
“รถใคร เห็นมาจอดตั้งนานแล้ว ทำไมไม่ไปสักที”
“คามิลลา! หิวข้าว!” คาร์เตอร์ตะโกนออกมาจากในบ้าน
“เออ! รอแป๊บ” คามิลลาถึงกับถอยหายใจออกมาเสียงดัง พลางส่ายศีรษะไปมา เมื่อเธอต้องจัดการเตรียมมื้อเย็นให้กับคาร์เตอร์และตัวเอง ส่วนมารดาไม่ต้องพูดถึง กว่าจะได้กินข้าวก็ลงไลฟ์อีกหลายชั่วโมง
“ไอ้นี่เหรอ พ่อของเด็กสองคน” เควินสบถออกมาด้วยความรู้สึกแค้นอยู่ในที เมื่อเขาเห็นว่าพราวมุกมีความสุขดี เธอมีครอบครัวสมบูรณ์แบบ ขณะที่เขาเป็นเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ
Rrrr!!! เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องแพงดังขึ้น ซึ่งลูกน้องคนสนิทได้โทรมารายงานเรื่องของพราวมุก
“นักสืบส่งประวัติของคุณพราวมุกมาอย่างละเอียด เอกสารทั้งหมดผมวางไว้ที่โต๊ะทำงาน นายจะเข้าบ้านเลยไหมครับ”
“ไม่! เอาเอกสารมาให้ฉันที่คอนโด” เควินอยากใช้เวลาอยู่ที่คอนโดอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาไม่อาจลบภาพเหล่านั้นออกไปจากใจได้เลยก็ตามที
“ครับนาย”
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครออกมาจากบ้าน จึงทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถกลับออกไป เขาไม่รู้ว่าทำไม ภายในใจลึก ๆ ถึงไม่สามารถตัดพราวมุกออกไปได้ เควินคิดว่าเหตุผลที่เป็นเช่นนั้น เพราะเธอได้ฝากรอยแผลเอาไว้ จนวันเวลาไม่อาจเยียวยาให้มันหายดี จนกว่าเขาจะได้คำตอบจากเธอ
เควินคิดหาวิธีที่จะเอาคืนเธอ อันดับแรกเขาต้องร่างสัญญาให้เธอไม่สามารถลาออกจากบริษัทได้ เพราะเงินเดือนที่มากกว่าตำแหน่งเดียวกันหลายเท่า พราวมุกคงไม่กล้าปฏิเสธ พอเธอลงนามในสัญญา เกมที่เขาวางเอาไว้ จะเริ่มต้นขึ้นทันที
“ไปแล้วเหรอเห็นจอดอยู่ตั้งนาน” คามิลลามองลอดหน้าต่างออกไป พลางบ่นกับตัวเองออกมาเบา ๆ ด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่า” คาร์เตอร์ชะเง้อมองตามน้องสาวออกไปด้วยความสงสัย
“นายเห็นรถคันหรู ที่มาจอดอยู่หน้าบ้านเราไหม”
“คันไหนอ่ะ”
“ก็คันที่มาจอดก่อนที่เราจะเข้าบ้านไง แต่ตอนนี้เขาขับออกไปแล้ว”
“ทำไมล่ะ เขาคงมาหาญาติแถวนี้มั้ง”
“บ้านใครนะ มีญาติขับรถหรูขนาดนั้น”
“ญาติใครไม่รู้ แต่ที่ฉันรู้คงไม่ใช่ญาติเราแน่” สองพี่น้องพูดจาตอบโต้กันไปมา ขณะที่รับประทานอาหารไปด้วย
“ฉันเป็นคนตั้งโต๊ะอาหาร นายเป็นคนเก็บจาน กินเสร็จแล้วรีบตามฉันขึ้นไปช่วยแม่รับเออร์เดอร์ด้วยนะคาร์เตอร์”
คามิลลาไม่รอให้พี่ชายได้ตอบกลับ เมื่ออิ่มแล้วเธอรีบเดินขึ้นไปบนบ้าน เพื่อช่วยงานมารดา โดยไม่ต้องรอให้พราวมุกร้องขอ อย่างน้อยสวรรค์ก็ไม่ได้ใจร้ายกับเธอ เพราะลูกทั้งสองเป็นทั้งเพื่อนและแก้วตาดวงใจ ที่ทำให้หญิงสาวอยากมีลมหายใจอยู่ต่อบนโลกใบนี้ในทุก ๆ วัน
เมื่อเดินทางกลับมาถึงห้อง เควินรีบเปิดซองสีน้ำตาลทันที รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในเอกสารตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือคำบรรยายใต้ภาพ ทำเอาเคนวินถึงกับขมวดคิ้วด้วยความฉงน
“ฝาแฝดเหรอ” เขาพยายามมองข้ามผ่านเด็กทั้งสอง แต่พอจ้องมองทีไร เหมือนมีอะไรดึงดูดใจทุกที
“ครับนาย เด็กผู้ชายชื่อคาเตอร์ ส่วนเด็กผู้หญิงชื่อคามิลลาอายุสิบสามปี เป็นลูกของคุณพราวมุก แต่ไม่ได้ระบุบิดา” ชาร์ลีมือขวาของเขาเริ่มรายงานในสิ่งที่นักสืบเล่าเรื่องให้ฟังก่อนหน้านี้
“บุรินทร์ เขาเป็นใครแฟนใหม่ของพราวมุกใช่ไหม”
“เท่าที่สืบมา ได้ข่าวว่าเขาตามจีบคุณพราวมุกครับ แต่รู้สึกว่าจะเป็นการตบมือข้างเดียวมากกว่า”
“แล้วจัสตินล่ะ เขาไม่เคยแวะมาหาพราวมุกกับลูก ๆ บ้างเลยรึไง ทำไมเขายังอยู่กับน้ำค้าง” สิ่งที่คาใจเควินคือจัสติน หรือเป็นเพราะว่าพราวมุกรักเพื่อนของเธอมาก จึงยอมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพื่อชดเชยความผิดพลาดของตัวเอง
“คุณน้ำค้างมาหาคุณพราวมุกบ่อยมาก แต่ทุกครั้งเธอมักจะมาคนเดียว”
“ไอ้เชี้ยจัสติน!” ถึงแม้เขาจะโกรธพราวมุกมากแค่ไหน แต่ก็ดูเหมือนว่าเควินจะเกลียดเธอไม่ลง ยิ่งเขาเห็นเธอกับลูกนั่งอัดจักรยานยนต์ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสงสาร ทั้งที่เขาควรสะใจ ที่เห็นหญิงสาวมีชีวิตตกต่ำกว่าที่เขาเคยคิดเอาไว้
“อาชีพหลักของคุณพราวมุก เธอเป็นแม้ค้าออนไลน์ ขายสบู่เป็นหลัก รองลงมาก็มีพวกครีมต่าง ๆ แต่รายได้ก็ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ คนติดตามแค่หลักพัน วัน ๆ ก็ขายได้พอเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านครับ”
“ฉันอยากจะรู้นัก ถ้าเธอพบกับฉันอีกครั้ง เธอจะทำหน้ายังไง” เควินยังคงไม่เลิกล้มความตั้งใจ ที่จะเอาคืนหญิงสาว ถึงแม้ว่าภายในใจลึก ๆ เขาจะนึกสงสารเธออยู่มากแค่ไหนก็ตามที
“เด็กสองคนนั้น เป็นเด็กดีมากเลยครับ เรียนเก่งทั้งคู่ อีกทั้งเลิกเรียนยังแวะเวียนไปทำงานที่ร้านของคุณบุรินทร์อีกด้วย”
“หึ! หึ! คงคิดใช้ลูกเป็นเครื่องมือสินะ เธอมันร้ายลึกจริง ๆ พราวมุก” เควินคิดว่าหญิงสาวกำลังหาทางจับคนรวย คงหวังจะได้บุรินทร์มาทำหน้าที่พ่อของลูกแทนจัสติน
“แต่เท่าที่ผมให้นักสืบสะกดรอยตามคุณพราวมุก เธอไม่มีทีท่าว่าจะยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลยนะครับ”
“ช่างเถอะ พรุ่งนี้เราจะได้รู้กัน”
“นายแน่ใจได้ยังไงครับ ว่าคุณพราวมุกจะมาสมัครงาน” ชาร์ลีไม่เข้าใจว่าทำไมเควินต้องผูกใจเจ็บ ทั้งที่พราวมุกดูไม่มีพิษมีภัยกับใครเลย
“วันสุดท้าย ถ้าเธอปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ก็คงไม่มีบริษัทไหนยื่นข้อเสนอทั้งเงินเดือน และเงื่อนไขการรับสมัครได้มากกว่าบริษัทของฉันอีกแล้วแหละ”
“แต่ผมว่าเด็กสองคนมีเค้าโครงใบหน้าและแววตาคล้ายนายอยู่นะครับ”
“เฮ้อ! พูดเพ้อเจ้อไปกันใหญ่ นายกลับห้องของนายไปได้แล้วชาร์ลี” เควินไม่อยากฟังเรื่องไร้สาระ เพราะเขาคิดว่าพราวมุกมีลูกกับจัสติน ตามที่มารดาของเขาเคยเล่าให้ฟัง เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมันยังก้องอยู่ในหู จนเขาไม่รู้ว่าความเจ็บปวดครานั้น ทำไมเขาต้องแบกรับเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวด้วย