บทที่4

1143 Words
คามิลลาเดินเข้ามาในห้องน้ำ เธอกำมือแน่นด้วยความโกรธ มันแทบระเบิดออกมา แต่ก็ไม่อาจระบายให้ใครฟัง ตั้งแต่เล็กจนโตมาได้เท่าทุกวันนี้ เธอพยายามคิดบวกเสมอ บิดาคงมีเหตุผลจำเป็นบางอย่าง เขาถึงได้ทิ้งเธอกับมารดาและคาร์เตอร์ไป แต่พอคิดหาคำตอบนี้ทีไร สุดท้ายเธอก็ได้รู้ว่า คนเห็นแก่ตัวเท่านั้น ถึงทิ้งลูกกับภรรยาไปได้อย่างไม่ใยดี “หนูเกลียดพ่อ เกลียดที่สุดในโลก เกลียดจนไม่อยากเจอ เกลียดจนอยากเฉือนเนื้อกรีดเลือดของพ่อออกไปจากตัวหนู... ฮึก...ฮื้อ” เสียงสะอื้นเบา ๆ ของเธอ ทำให้บุรินทร์อยากเดินเข้าไปปลอบ แต่ก็ทำได้แค่รอเธอเดินออกมา เขารักคามิลลากับพี่ชายของเธอประหนึ่งลูกหลาน เพราะเขาเห็นลูกแฝดของพราวมุกมาแต่อ้อนแต่ออกแล้ว มารดาของเขา คุณยายบุหลันของเด็ก ๆ ก็รักและเอ็นดูเด็กทั้งสองไม่ต่างจากลูกชายของนางเช่นกัน “คุณลุง...” เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ คามิลลารู้สึกแปลกใจ ที่เห็นบุรินทร์ยืนดักรอเธอ “ลุงไม่ว่าหรอก ถ้าหนูจะจัดการกับลูกค้านิสัยเสียอย่างคนเมื่อกี้ ยังไงคามิลลาก็สำคัญกับลุงกว่าลูกค้านิสัยแย่ ๆ แบบนั้น” “คุณลุง... ฮึก... ฮื้อ” คามิลลาโผเข้าไปซบอกแกร่งบุรินทร์เอาไว้ ราวกับว่าเขาคือที่พึ่งหนึ่งเดียวของเธอ “อยากร้องก็ร้อง ไม่ต้องพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ คนเราก็มีโมเมนต์อ่อนแอด้วยกันทั้งนั้นแหละ แม้แต่ลุงเองก็ยังเคยมีเลย" “ใครคะ ที่ทำให้คุณลุงร้องไห้ บอกหนูได้ไหม” คามิลลาเงยหน้าขึ้น แววตาใสซื่อประสานเข้ากับดวงตาของคนตัวโต ทำให้เขาไม่กล้าบอกเธอ เพราะคนที่ทำให้บุรินทร์น้ำตาซึมได้ มีเพียงแค่พราวมุกเท่านั้น “ช่างเถอะ ตอนนี้ลุงหายโกรธเธอแล้ว ไม่เศร้าเหมือนเมื่อก่อน หรืออาจเป็นเพราะว่าลุงชิน กับสิ่งที่เธอเฉยชาก็ไม่รู้” เขาอดไม่ได้ที่จะตัดเพ้อต่อหญิงสาวที่แอบรัก “หนูเป็นกำลังใจให้นะคะ ไปทำงานก่อนเดี๋ยวไม่ได้ค่าแรง” คามิลลาปาดน้ำตา พลางยิ้มแฉ่งจนเห็นไรฟัน ถึงแม้รูปร่างหน้าเธอจะดูโตเป็นสาวแล้ว แต่ความที่ยังเด็กก็ทำให้บุรินทร์อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เขามองตามหลังเธอออกไปด้วยความรู้สึกเอ็นดู ในความไร้เดียงสาและใฝ่ดีของเธอ หลายวันผ่านไป เมื่อเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย สถานที่แรกที่ชายหนุ่มเดินทางไปไม่ใช่บ้าน แต่เป็นคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง เควินได้จ้างแม่บ้านให้ดูแลระหว่างที่เขาต้องไปทำงานที่ต่างแดน แม้เวลาผ่านไปสิบกว่าปี ห้องนี้ก็ดูสะอาดสะอ้าน ซึ่งทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิม สิ่งของเครื่องใช้บางอย่างยังคงมีให้เห็น เหมือนครั้งที่เขาอาศัยอยู่กับเธอ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คือเรื่องราวระหว่างเขากับหญิงสาวคนนั้น ความสัมพันธ์ได้แตกหักขาดสะบั้นลงอย่างไร้เยื่อไย “ผมไม่ดีตรงไหน ทำไมคุณต้องทรยศต่อความรักที่ผมมีให้กับคุณ ผมเสียใจมากแค่ไหน คุณรู้บ้างไหมพราวมุก” เควินเดินไปหยิบภาพถ่าย ที่เขากับเธอเคยถ่ายคู่กัน เมื่อคราวรักหวานชื่นขึ้นมาดู ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปี ความรู้สึกที่มีต่อพราวมุกก็ยังคงเดิม แต่เพิ่มเติมคือการอยากเอาคืนเธอ เขาส่งนักสืบมืออาชีพตามหาหญิงสาว จนกระทั่งทราบว่าพราวมุกอาศัยอยู่บ้านเช่า พร้อมกับเด็กชายและเด็กหญิงย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นสองคน แต่ไม่พบสามีของเธอ ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ซึ่งทำให้เควินค่อย ๆ วางกรอบรูปไว้ที่เดิม เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงไม่สามารถเปิดใจรับใครเข้ามาในหัวใจได้สักที ทั้งที่ข้างกายของเขามีสาวสวยอย่างณิชา แต่ทว่าวันเวลาไม่อาจเยียวยาแผลเป็นกลางหัวใจได้เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้มารดาอยากให้เขาหมั้นหมายกับณิชาไว้ก่อน แต่เควินก็เลี่ยงมาโดยตลอด เพราะเขาไม่อยากเอาชีวิตไปผูกมัดไว้กับใคร “นายครับได้เวลาแล้ว ตอนนี้มีคนมาสมัครงานในตำแหน่งเลาขาเกินเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ แต่หนึ่งในนั้นยังไม่มีชื่อคุณพราวมุกเลยครับ” เมื่อมือขวาเดินเข้ามารายงาน ทำให้ใบหน้าคมขรึมลงกว่าเดิม เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมพราวมุกยังไม่มาสมัคร ทั้งที่เขาตั้งหลักเกณฑ์ให้ตรงกับคุณสมบัติเธอทุกประการ “วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนะ” ชายหนุ่มอยากรู้เหมือนกัน ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร คนที่ทำให้พราวมุกทรยศความรักที่มีต่อเขาได้ลงคอ ทั้งที่เขาทุ่มเทให้เธอ จนไม่เหลือที่ว่างให้ใครเข้ามา จวบจนปัจจุบันเขากลายเป็นคนไม่มีหัวใจไปโดยปริยาย ในช่วงเย็น รถยนต์คันหรูติดฟิล์มดำ ค่อย ๆ ขับมาจอดหน้าบ้านเช่า เขากวาดสายตามองเข้าไปด้านใน แต่ก็ไม่พบใครเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง ดวงอาทิตย์อัสดงค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้าลงไป ก่อนจะมีรถจักรยานยนต์แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน “พราวมุก!” หัวใจของเควินเต้นแรงจนมันแทบกระเด็นออกมาจากอกข้างซ้าย ทั้งที่เขาพร่ำบอกกับตัวเอง ที่มากลับมาไม่ใช่เพราะห่วงหา แต่มาเพื่อเอาคืนเธอต่างหาก เขาแอบมองเธออยู่เป็นนานสองนาน จนกระทั่งสามคนแม่ลูกเดินเข้าไปในบ้าน ความรู้สึกของเควินระคนกำลังอ้างว้าง ใบหน้าของเด็กสองคนกำลังสะกิดหัวใจของเขาอย่างบอกไม่ถูก ขณะที่เขากำลังจะกลับได้มีรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอด ผู้ชายคนนั้นไม่ได้กดออด เขาเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับข้าวของเต็มไม้เต็มมือ จนเควินแอบสงสัยในความสัมพันธ์ของพราวมุกกับผู้ชายคนนั้น “พราวมุก!” “คามิลลา” บุรินทร์เรียกหญิงสาวแต่เธอไม่ตอบ เขาจึงเปลี่ยนเป็นเรียกลูกสาวของเธอแทน “แม่กำลังเตรียมตัวจะขึ้นไลฟ์ขายของ ลุงบุรินทร์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” คามิลลาเดินออกมาเปิดประตูบ้านให้กับเจ้าบ้านเช่า ใช่แล้วนอกจากบุรินทร์จะมีกิจการคาเฟ่ เขายังเป็นเจ้าของกิจการบ้านเช่าแถบนี้ทั้งหมด ซึ่งรวม ๆ แล้วก็น่าจะเกินสิบหลัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD