แนะนำ
นายพสุธา ธำรงวงศ์ตระกูล หรือพสุ→ ลูกชายคนเดียวของแม่กัลยารัตน์ กับพ่อภูผา ซึ่งบิดาของเขาเสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาคือหนุ่มใหญ่หัวใจเย็นชา เขาประกอบกิจการฟาร์ม ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ งานส่วนใหญ่เขาจะมีส่วนร่วมในทุก ๆ รายละเอียด เขาทำงานหนัก ทำงานไม่เคยมีวันหยุด ตั้งแต่พ่อของเขาได้เสียชีวิตไปหลังจากที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยได้เพียงปีเดียว แต่นั่นก็ถือว่าดีโขเพราะเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ตั้งแต่ยังไม่จบมัธยมปลาย ถือว่าได้กำไรชีวิต เสียดายเพียงอย่างเดียวที่พ่อได้เสียชีวิตไปเร็วเกินไป เขาอยากจะรายงานความก้าวหน้าให้พ่อฟังแต่พ่อก็ไม่อยู่เสียแล้ว มีเพียงแม่เท่านั้น ซึ่งเธอก็จะ.... นั่นไง เสียงเธอมาล๊ะ
นางสาวพีรดา บำรุงวงศ์ (เอื้ออารีชน) หรือ ใบเตย→ลูกสาวคนเล็กของแม่ดวงดาว หรือพิมพ์ดาว บำรุงวงศ์ และพ่อปกป้อง เอื้ออารีย์ชน สาวน้อยหน้าตาน่ารัก ตาคมสวยนัยน์ตาหวาน หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ผิวสีน้ำผึ้งสว่างใส น้องน้อยของบ้าน เธอรักสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์จำพวกสกุลนกจะชอบมากเป็นพิเศษ แต่ขี้แย ทำไงดี
______________________________
"ลูกพะ ลูก.....อยู่ไหน....ยู้ฮู....คุณแม่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย..." เจ้าของชื่อได้แต่มองบนในความคุณแม่ของแม่ของเขา
"พสุธาครับแม่ จะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ ขออย่างเดียว อย่าเรียกว่า (ลูกพะ) จะได้มั๊ยครับ ผมอายคนอื่นเค้า (พสุ) น่ะ เรียกเป็นมั๊ย?"
"อ้อ อยู่ตรงนี้นี่เอง ลูกพสุ คือว่าแม่คิดถึงยัยหมวยเล็ก น้าสาวของเราน่ะ สุดสัปดาห์นี้พอจะว่างมั๊ย แม่อยากให้ลูกขับรถพาแม่ไปเยี่ยมน้าเราหน่อย จะได้ไปเล่นกับยัยหมวยน้อยด้วย" คุณนายกัลยารัตน์ลองหยั่งถามลูกชายสุดที่รักอย่างรอความหวัง
"สุดสัปดาห์นี้ก็พอว่างครับ ไปวันไหนดี วันเสาร์เช้ามืดเลยดีมั๊ย?" พสุธาแกล้งเย้าผู้เป็นมารดาเล่น
"แหม่ แหม่ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ จากนี่ไปกรุงเทพฯ ก็ไม่เท่าไรแค่ออกจากบ้านสัก หก-เจ็ดโมงเช้าก็ได้ ไปนอน คืนนึงกลับวันอาทิตย์บ่าย ๆ เน๊าะ" กัลยารัตน์ปิดดีล
"หึ หึ แล้วแต่คุณนายกัลยารัตน์จะบัญชาครับ"
"น่ารักที่สุดเลยลูกพะเนี่ย" ว่าแล้วนางก็หอมแก้มทั้งสองข้างของลูกชายอย่างหนัก ..ฟอด ฟอด..
พสุธาได้แต่มองบน
"เฮ๊อ..แม่ครับผมสามสิบกว่าแล้วนะครับผมขอเถอะแม่ทำแบบนี้ระวังลูกน้องมันจะไม่นับถือเอานะคร้าบ"
"หึ๊ ใครว่าก็ชั่งมันซิ ไม่ได้ขอใครกินซักหน่อย ไปได้ล๊ะ แม่หมดธุระกับเราล๊ะ....อ้อของว่างบนโต๊ะอาหารแม่ทำใส่ปิ่นโตไว้ ในถุงเอาไปแจกคนสวนด้วยจะได้มีแรงทำงานกัน"
"คร้าบ" ชายหนุ่มรับคำมารดาพร้อมกับเดินไปหอบหิ้วอาหารว่างแล้วเดินออกจากบ้านไป
ตัดมาที่คุณนายธิดารัตน์
สายโทรออกหาพี่สาว
กัลยารัตน์: หวัดดีจ้ะยัยธิ มีไรว่ามะ
ธิดารัตน์: ธิดารัตน์ ค่ะ หรือ ธิดา ก็ได้ เอาดีดีค่ะพี่สาว
กัลยารัตน์: ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวเราะร่วน นี่หลานเธอมันได้เธอจริง ๆ นะ มันก็พูดแบบนี้แหละ มันบอกว่าไม่ให้พี่เรียกชื่อมันสั้นเกินไป
ธิดารัตน์: ก็เน๊าะ ธิ เฉย ๆ นี่นะ มันเพราะตรงไหนเล่า คืองี้ หนูจะโทรมาถามว่าพี่จะมาวันไหน ถ้าเป็นไปได้หนูอยากให้มาเย็นวันศุกร์เลยได้ป๊ะ
กัลยารัตน์: เห็นจะไม่ได้ละซิ คุณสารถีเค้าไม่ว่าง จะพามาวันเสาร์ออก หก-เจ็ดโมงเช้า ไปถึงก็สาย ๆ ละมั๊ง
ธิดารัตน์: เอางั้นก็ได้ ว่าแต่ หลานหนูมีแฟนยัง?
กัลยารัตน์: โอ๊ย ไม่ต้องพูดถึง บนหัวหมูก็แล้ว ขอพระก็แล้ว ยังไม่เห็นจะมี
ธิดารัตน์: หึหึ เดี๋ยวหนูจะให้เด็กเตรียมห้องให้นะคะ อย่าลืมเอาของโปรดมาให้หนูด้วยล่ะ
กัลยารัตน์: กะหรี่ฯ น่ะเหรอ ไม่ลื๊ม ไม่ลืม จำได้เดี๋ยวจะไปสั่งไว้รอเลย เจ้าอร่อยขอบอก
ธิดารัตน์: ว๊าย พี่กัน พูดอะไรน่าเกลียด กะหรี่ปั๊ป หรือไม่ก็เคอรี่พัพ ก็ได้ มันฟังดูไม่ดีเลยค่ะพี่กัน
กัลยารัตน์: เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ เธอนี่มันเหมือนกันหลานของเธอจริง ๆ อุ่ย ไม่ใช่ซิ ต้องบอกว่าหลานเธอน่ะ มันเหมือนเธอจริง ๆ ถึงจะถูก นี่ถ้าเค้าอยู่ก็คงบ่นฉันอีกหนึ่งกระบุงโกย
ธิดารัตน์: ค่า… เท่านี้แหละค่าที่จะโทรบอก จะวางแล้ว รักพี่นะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ
กัลยารัตน์: อือ รักด้วย จุ๊ฟด้วย
เมื่อคุยธุระเสร็จจึงวางสาย
"คุยโทรศัพท์กับป้ากันใช่มั๊ย ถ้าหนูเดาไม่ผิด" นุชธิดาลองหยังถามมารดาดู
"ผิดที่ไหนเล่า ก็ป้าเรานั่นแหละ" ธิดารัตน์เฉลย
"ป้าจะมาบ้านเราเหรอคะ" "อืมใช่ พี่พสุ จะพามาวันเสาร์นี้ ทำตัวให้ว่างล่ะ ใครไม่อยู่ไม่ได้กินกะหรี่ฯ สด ๆ ด้วย ป๊าเราก็เหมือนกัน อด ไป อยากไปต่างประเทศดีนักกลับมาจะไม่เหลือไว้ให้เลย คอยดู"
"อูว อยากกิน ต้องว่างซิคะ เดี๋ยวชวนเพื่อนมาบ้านด้วยได้มั๊ย? พี่พสุจะอึดอัดรึเปล่า"
"ไม่รู้สิ คงไม่เป็นไรมั๊ง พี่เค้าไม่ได้ใจแคบซักหน่อย" "เหรอ เดี๋ยวหนูไลน์บอกยัยต้อง กับยัยเตยก่อน" ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ยุกยิก ๆ ชวนเพื่อนสาวทั้งสอง และได้คำตอบว่า โอเค "เย้ มันทั้งสอง โอ เค ค่ะหม่าม๊า" หม่าม๊าของเธอเป็นคนไทยแท้แต่คุณทวดของเธอมีเชื้อสายจีนแม้ใบหน้าของหม่าม๊าของเธอจะสวยหวานน่ารักแบบไทยแต่แอบหมวยนิดนึง
และแล้ววันหยุดก็มาถึง
@บ้านวาณิชกิจไพบูลย์
คุณนายธิดารัตน์ยืนชะเง้อคอรอพี่สาวและหลานตั้งแต่ หลังเคารพธงชาติ อยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง
"หม่าม๊า มานั่งก่อน คุณป้ายังไม่มาหรอก อาจจะรถติด เดี๋ยวได้เป็นลมเป็นแล้งหรอก" นุชธิดาบ่นมารดาด้วยความเป็นห่วง
"อืม นี่ก็เก้าโมงแล้วทำไมยังไม่ถึงอีกนะ"
"แหม่ กรุงเทพฯ นะ กว่าฝ่าด่านมาบ้านเราได้นี่ก็ใช้เวลาอยู่นา"
ฮึ่ม ๆ เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มที่หน้าบ้าน ธิดารัตน์จึงรีบลุกขึ้นไปดู
"มากันแล้ว มา มา เข้ามา ของไม่ต้อง เดี๋ยวให้เด็ก ๆ ช่วยยก" ธิดารัตน์เรียกพี่สาวและหลานชายเข้าบ้าน หันไปเรียก ลูกสาวและเพื่อน ๆ ลูกสาวมาช่วยกันยกข้าวของ ส่วนเด็ก ๆ ไหว้ผู้ใหญ่ที่มาใหม่ และเข้ามาช่วยกันยกอย่างแข็งขัน โดยมีแม่บ้านและคนงานมาช่วยยกของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ลงจากรถ
พสุรับไหว้ แต่! ถึงกับชะงักเมื่อเห็นหน้าเด็กผู้หญิงหน้าคมคายและออกไปทางน่ารักในคราวเดียวกันที่ยืนอยู่ข้าง ๆ น้องสาว แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน