พสุธาตื่นแต่เช้าตามที่ยัยน้องสาวตัวดีเชิญชวน เขาเดินออกจากบ้านของน้าสาวพร้อมด้วยกาแฟ และผลไม้หนึ่งตะกร้าเดินออกมาในสวน เค้ารู้สึกอเมซิ่งอย่างที่ยัยน้องสาวตัวดีบอกจริง ๆ ด้วย
*แอ่ แอ่ กี๊ก ก๊าก* (เสียงกระรอก) อู้หู๊ เยอะจริง ๆ ด้วย เขารีบล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอัดคลิปวีดีโอส่งไปอวดให้เพื่อน ๆ ที่อยู่ในเมืองได้ดู พร้อมกับให้อาหารกระรอกไปด้วย สนุกดีแฮ๊ะ บ้านยัยน้องนี่ร่มรืนดีจริง อ๊ะนั่นกิ้งก่า แย้ นก เยอะว่ะ นี่บ้านหรือสวนสัตว์ว๊ะ
"สุขใจมั๊ยล่ะพี่ชาย" พสุธาหันไปทางเสียงที่ดังขึ้น
"อ้าวยัยนุช มาแล้วเหรอ ตื่นเช้าเหมือนกันนะเนี่ย" คนพี่ทักทายน้องสาว
"อื่อตื่นตั้งนานแล้ว คุณนายธิดารัตน์ปลุกให้มาเรียนทำกับข้าวกับคุณป้ากัน" นุชธิดารายงานพร้อมกับขยี้ตาอ้าปากหาว
"อ้าวปากหาวเสียกว้างเลยเป็นผู้หญิง ให้มันรักษากิริยาหน่อย" คนพี่บ่นน้องสาวไปอย่างนั้นเองไม่จริงจัง
"ช่างเถอะ หนูไม่สนหรอก ก็มันง่วง"
"กาแฟหน่อยมั๊ย" คนพี่ยื่นแก้วกาแฟในมือให้น้องสาว
"ไม่ล่ะ มันขม ไม่ชอบ" คนน้องตอบไปพร้อมกับยักไหล่
"เพื่อน ๆ จะมาอีกหรือเปล่าล่ะ" คนพี่ถามขึ้นลอย ๆ ขณะจิบกาแฟและดูนกดูไม้ไปเพลิน ๆ
"ใครเหรอ ยัยสองคนเมื่อวาน?" คนน้องถามเพื่อความแน่ใจ
"อือ หรือมีเพื่อนหลายคน" คนพี่แกล้งย้อนกลับ
"แหม่....ถามแค่นี้ทำเป็นหัวร้อน ยัยต้องเดี๋ยวคงมา ส่วนยัยเตยไม่แน่ว่าจะมาได้หรือเปล่าเพราะพี่ชายมันไม่ว่างมาส่ง เปิดคลินิก บางทีมันก็ไปหัดเข้าเคสกับพี่มันที่คลินิกถือว่าเป็นการก้าวเร็วกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันเห็นมันบอกอย่างนั้น" คนน้องอธิบาย
"อื้อ คิดดี คิดก้าวหน้าเกินเด็ก" คนพี่พึมพำ
"แอ้ สนใจมั๊ยล่ะ ถึงไม่สวยเฉิดฉายแต่ก็น่ารักเข้าตาอยู่นา พี่ว่ามั๊ย?"
"ฮื้อ อย่ามาขายของ จะไปทำอะไรก็ไป พี่จะนั่งฟังเสียงนก กระรอก กระแต ดีกว่าฟังแกพูดเป็นไหน ๆ" คนพี่เผลอยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัว แต่อีกใจก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสเพราะวัยที่ต่างกันมากเกินไป ผ่านไปสักพักเสียงเจี๊ยวจ๊าวจากผู้มาใหม่
ต้องตารีบเดินเข้ามาหาเพื่อนสาวหลังจากลงจากรถที่มีพี่ชายเป็นสารถี
"ยัยนุชฉันมาแล้ว มีขนมมาฝากด้วย คุณนายแม่ทำมาให้" ต้องตาพูดเจื้อยแจ้วพร้อมกับชูกล่องขนมขึ้นให้เพื่อนสนิทดู
"คุกกี้แสนอร่อย กำลังอยากกินเลย ลาบปาก/พี่พสุลองชิมมั๊ย แกล้มกับกาแฟ อร่อยอยู่นา ไม่หวาน ลองเลย" พร้อมกับเปิดกล่องหยิบขนมป้อนใส่ปากคนพี่ไปคำนึง
"อื้อ อร่อย แต่ชิ้นเดียวพอ พี่ไม่ชอบกินของหวาน"
"ได้ไง เดี๋ยวน้องไปจัดใส่จานมาให้/ไปยัยต้องเข้าบ้านกัน" ว่าแล้วสองสาวก็วิ่งจูงมือกันเข้าบ้าน
ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาที่หน้าบ้าน และเป็นยัยเด็กเนิร์ดปากแจ๋วที่ลงจากรถยืนหันรีหันขวางคงกำลังมองหาเพื่อน และรถที่มาส่งก็ขับออกไป พสุธาจึงตัดสินใจเดินไปทัก
"เพื่อนเราวิ่งเข้าบ้านไปแล้ว คงกำลังไปเอาขนมจัดใส่จาน เข้าไปหาซิ" สาวน้อยหน้าตาน่ารักทำหน้าเหรอหราสักพักจึงส่งยิ้มให้พร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้
"สวัสดีค่ะ หนูมาหาเพื่อน พอดีไม่ได้รับปากไว้ว่าจะมา แต่ความจริงหนูอยากมานะคะอยากมาตรวจร่างกายให้จิ๊ดริ๊ดค่ะ"
"อืม เข้าไปเถอะ คงอยู่ในบ้านนู่นแหละ" พสุธาพูดกลั้วหัวเราะ แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะนั่งชมสวนที่ใช้เป็นโต๊ะทำงานชั่วคราวของเขาแทน
เขาทำงานอยู่พักใหญ่จึงเข้าไปรับประทานอาหารเช้าตามเสียงนกแก้วนกขุนทองที่มาร้องเรียกให้ไปกินข้าวถ้าไม่ไปจะเรียกอยู่อย่างนั้น
.......................................
บนโต๊ะอาหาร
"พ่อพสุ บ่ายนี้ ๆ ว่างมั๊ย พาแม่กับน้าธิไปซื้อของหน่อยซิ" คุณนายกัลยารัตน์หยั่งถาม
"ว่างครับ ได้ครับ"
"เด็ก ๆ อยู่บ้านกันนะ อย่างเถลไถลออกไปข้างนอก หม่าม๊าไม่อนุญาตเข้าใจมั๊ย?"
"เข้าใจค่า สามเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง"
"ดีมาก แล้วหม่าม๊าจะซื้อไอศกรีมอร่อย ๆ มาฝากทั้งสามคนเลยดีมั๊ย?"
"ดีคะ" หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ (เรียกว่ารับประทานอาหารสายจะถูกกว่าเพราะเป็นเวลาสายมากแล้ว) สามสาวเลือกที่จะไปเล่นกันข้างบนห้องของเจ้าบ้าน เพราะมีเจ้าดีดี้เป็นขวัญใจประจำห้อง (ดีดี้คือแมวเปียร์เซียสีขาวอ้วนจ้ำม้ำค่ะ) สามสาวเล่นกันจนเหนื่อยแล้วก็นอนหลับไปพร้อม ๆ กัน ทั้งคนทั้งแมว โดยไม่สนใจว่าใครจะออกไปไหนมาไหน
ช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก หนูลงไปทานไอศกรีมกันเร้ว หม่าม๊าซื้อมาฝาก เสียงคุณนายธิดารัตน์ร้องเรียกลูกสาวและเพื่อน ๆ
ลูกสาว
"แกร ไอติมมาแล้ว ปะ ลงไป" ว่าจบสามสาวก็รีบลงมาจากชั้นบนโดยพร้อมเพรียง
"อร่อยมั๊ยคะ กินกันเงียบเชียว" คุณนายธิดารัตน์แกล้งสัพยอกเด็ก ๆ
"อร่อยค่ะ" สามเสียงประสานกัน
"อุ่ย เลอะหมดเลย" เป็นเสียงน้องเล็กของกลุ่มอุทานขึ้นอย่างหัวเสีย
"กินยังไงให้หกเลอะเทอะล่ะยัยคนนี้ ปะ ไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วทิ้งตัวนี้ไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวให้แม่บ้านซักเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันเอาไปคืนให้" นุชธิดาจัดแจงเสร็จสรรพ
"แค่ล้างก็พอ"
"แกกลัวพี่ข้าวจะว่าแกเหลวไหลเหรอ ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวฉันยืนยันให้ ว่าแกไหลจริง ๆ แหละ เหนียวหนึบเลยช็อคโกแลตเนี่ย เห็นแล้วเหนียวแทน หึหึ"
ว่าแล้วหนึ่งคนจูงมืออีกหนึ่งคนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อแล้วลงมาด้วยเสื้อตัวใหม่
ใบเตยอยู่ในลุคคุณหนู เสื้อสีฟ้าสดใสแขนตุ๊กตา พอดีตัวชายเสื้อผูกโบว์ตรงเอวดูน่ารักน่าเอ็นดู
"ใบเตย แกใส่เสื้อตัวนี้แล้วดูน่ารักจังเลย" เป็นต้องตาที่เอ่ยชม
ส่วนอีกคนที่ไปนอนเหยียดแข้งเหยียดขาที่เก้าอี้โยกในห้องนั่งเล่น ได้ยินเสียงคนคุยกันจ้อจึงออกมาดู สิ่งที่พบคือยัยเด็กเนิร์ดปากแจ๋วอยู่ในเสื้อผ้าที่ดูแปลกตาแต่น่ารักดูเป็นสาวขึ้นทันตาประกอบกับหน้าผมถูกจัดแจงเสียใหม่ นั่นคงเป็นฝีมือยัยหมวยน้อยของเขาเป็นแน่ จากนั้นเขาเลือกที่จะไปนั่งเล่นที่สวนกล้วยไม้ของน้าเขยเพื่อหามุมสงบ ๆ อ่านอะไรไปเรื่อยเปื่อยและแอบสังเกตเด็กน้อยของเขาไปด้วย