9.รู้ความจริง

1119 Words
ต้นข้าวที่เดินเข้ามาเพื่อจะปรนนิบัติพัดวีให้คุณย่าเหมือนอย่างที่เคยทำให้ทุกครั้งถึงกับอึ้งที่มาได้ยินพอดี เขาเคยคิดสงสัยมานานเรื่องชาติกำเนิดของเขาและน้องสาว เพราะคิดด้วยตรรกะและมันมีความซับซ้อน เพราะในสูติบัตรของน้องไม่ระบุชื่อผู้เป็นบิดา ต่างกับของเขาที่ระบุชื่อบิดา นั่นก็เป็นข้อบ่งชี้ได้อย่างหนึ่ง และมีเพียงบุคคลทั้งสามของบ้านเท่านั้นที่จะให้ข้อกระจ่างแก่เขาได้ เขาจึงเลือกที่จะเดินออกมาจากจุดนั้นอย่างเงียบ ๆ "อ้าวพี่ต้นข้าว ไหนบอกว่าจะไปนวดให้คุณย่าไง นี่หนูกำลังจะตามไปพอดีเลย ไหนว่าเราจะไปนอนห้องคุณย่าด้วยกันไง?" เป็นใบเตยที่พูดจาพาซื่อออกมา "อ๋อ เพิ่งอาบน้ำเสร็จน่ะ กำลังจะมาชวนเรานี่ไง จะไปหรือยังล่ะ" ต้นข้าวตอบน้องสาวพลางนั่งกับพื้นข้าง ๆ โซฟาที่พิมพ์ดาวหรือดวงดาวนั่งอยู่ และบีบนวดขาให้มารดาอย่างรู้งาน "ไม่ต้องนวดให้แม่หรอกลูก ไปนวดให้คุณย่าเถอะ พาน้องไปได้แล้ว คุณย่ารออยู่" ผู้เป็นแม่เอ่ยอย่างจริงใจพร้อมกับลูบผมบุตรชายอย่างเบามือพลางนึกถึงคนที่จากไปอย่างจุกอกว่าทำไม่ถึงเลือกที่จะตายแทนคนอื่นทั้งที่มีลูกเมียรออยู่ข้างหลังแท้ ๆ "ครับแม่/ปะเร็วยัยตัวกะเปี๊ยก" "ได้เลย..ไปเลย..ไปเลย.." ใบเตยขึ้นขี่หลังพี่ชายที่นั่งยอง ๆ ให้คนน้องขึ้นขี่แล้วลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องคุณย่าอย่างเงียบเชียบที่สุด "หึหึ พี่น้องเค้ารักกันน่าดูเล น่าชื่นใจแทน" เป็นปกป้องที่เปรยขึ้นหลังจากได้เห็นภาพที่น่าประทับใจเมื่อสักครู่ "ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ นะคะที่ช่วยเหลือพิมพ์ทุกอย่างจนพิมพ์มีวันนี้ วันที่พิมพ์ให้อภัยตัวเอง และยืนได้อีกครั้ง" พิมพ์ดาวหรือดวงดาวกล่าวอย่างจริงใจ "ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ แล้วคุณพิมพ์จะไปอยู่ที่ฟาร์มเป็นการถาวรเมื่อไรหล่ะครับ บอกผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ ผมจะได้บอกคุณแม่ให้ท่านได้ทำใจก่อน คนแก่น่ะครับอาจจะใจหายน่ะครับ ไม่ทันตั้งตัวน่ะครับ" "คุณหมอไม่อยากให้พิมพ์อยู่ที่นี่แล้วเหรอคะ?" พิมพ์ดาวหรือดวงดาวหยั่งถาม "เปล่าหรอกครับ เมืองนนท์กับแก่งคอยน่ะถึงมันจะไม่ไกลกันจนเกินไปแต่มันก็ไกลเกินและผิดวิสัยที่จะไปเช้าเย็นกลับได้นะครับ อีกหน่อยต้นข้าวไปทำงานที่ฟาร์มจะห่วงหน้าพะวงหลังเปล่า ๆ" "นั่นซิคะ พิมพ์กำลังคิดว่าจะพาคุณย่าไปอยู่ที่ฟาร์มด้วยจะดีมั๊ย เพราะให้อยู่ที่บ้านสวนก็อยู่คนเดียวอยู่ดี เพราะคุณหมอเองก็ต้องทำงานเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ?" อีกคนแย้งขึ้นอย่างมีหลักการ "ก็คงต้องถามความสมัครใจของคุณแม่แหละครับ แต่คนแก่ก็รักบ้านคงไม่อยากไปไหน" "นั่นซิคะ งั้นคนไม่แก่ก็ต้องอยู่ดูแลซิคะถึงจะถูก จะทิ้งคนแก่ให้อยู่บ้านคนเดียวได้ยังไง" เป็นพิมพ์ดาวหรือดวงดาวที่เล่นคำอย่างนึกขำอีกคนที่ไปไม่เป็น "....." ไม่มีคำพูดใดจากปกป้อง มีเพียงสายตาที่เว้าวอนให้เธอคนนี้อยู่ต่อ แต่ไม่รู้จะพูดออกมาได้อย่างไรในเมื่อเธอนั้นอยู่สูงเกินเอื้อมสำหรับเขาเหลือเกิน หลังจากนั้นพิมพ์ดาวหรือดวงดาวได้ไปปรึกษาหารือกับผู้สูงวัยของบ้านได้ข้อสรุปว่าท่านจะอยู่ที่บ้านไม่ไปไหนและขอตายที่บ้านหลังนี้เช่นเดียวกับคู่ชีวิตที่จากไปอย่างสงบเมื่อหลายปีก่อน -เช้าวันใหม่เป็นวันอาทิตย์ ต้นข้าวและน้องสาวยังคงใช้เวลาอยู่ที่บ้านสวนอย่างต้องการเก็บซับความอบอุ่นเพื่อเป็นพลังผลักดันในการต่อสู้กับโลกภายนอกจนเวลาล่วงเลยเข้าสู่เวลาบ่ายจึงเดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯ เพื่อมาส่งใบเตยไว้ทีบ้านของนุชธิดาตามที่ผู้ใหญ่ได้ตกลงกันไว้ "สวัสดีครับม๊า ผมพาน้องมาส่งครับ" ต้นข้าวเข้ามาทำความเคารพผู้ใหญ่ของบ้านและฝากฝังน้องสาวเหมือนเช่นเคย "ไหว้พระเถอะลูก กินอะไรมาหรือยัง เดินทางอีกไกลกว่าจะถึง เดี๋ยวจะหิวเอานะ หรือพักดื่มเครื่องดื่มอะไรก่อนดีมั๊ย เดี๋ยวม๊าให้เด็กไปเอามาให้" "เรียบร้อยมาจากบ้านสวนแล้วครับ ขอบคุณครับ คงต้องกลับเลยเดี๋ยวจะถึงที่นู่นค่ำมืด กลัวของฝากจากเมือง-นนจะไม่สดเสียก่อนน่ะครับ" "อ้อ อย่างนั้นเหรอลูก งั้นไปเถอะ เดินทางปลอดภัยจ้ะ" "ครับ สวัสดีครับ" "จ้าลูก บุญรักษาน๊า" ธิดารัตน์รู้สึกชื่นชมในความเสมอต้นเสมอปลายและความโอบอ้อมอารีที่เด็กหนุ่มคราวลูกคราวหลานคนนี้ทำมาตลอด เธอเฝ้ามองเด็กหนุ่มคนนี้ที่กำลังขับรถออกไปจนลับตา "มองอะไรอยู่เหรอหมวยเล็ก" เป็นเขตแดนที่เอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว "เฮ๊อ....สารค่ะ ทำไม่เกิดมาไม่พร้อมก็ไม่รู้ ต้องเข้มแข็งขนาดไหนถึงอยู่ได้ดีขนาดนี้" "นี่หมวยเล็กกำลังใจอ่อนให้เด็กคนนั้นแล้วใช่มั๊ย?" "แล้วเค้าไม่ดีตรงไหนล่ะค๊ะ หรือเค้าไม่คู่ควรกับลูกเรา?" "มันต้องมีบททดสอบกันบ้างซิหมวย อย่าลืมน๊ะว่าเราเป็นฝ่ายหญิง" "ข้อนั้นหมวยไม่ลืมหรอกค่ะบอกแต่ตัวเองเถอะ ไหนบอกว่าจะเป็นพ่อทูลหัวให้เค้าเองไม่ใช่เหรอคะ ทำไมกลับมาวางกล้ามหวงลูกสาวกับเขาล่ะ?" ธิดารัตน์เหวี่ยงเล็ก ๆ ให้ผู้เป็นสามีแล้วสะบัดบ๊อบจากไปในทันทีหลังจากพูดจบ "อ๋าว อยู่ ๆ ก็งอนซ๊ะงั้น นี่เธอมีลูกสาวหรือมีลูกชายกันแน่ล่ะหมวยเล็ก ลูกเราน่ะเป็นผู้หญิงนะเธอ" เขตแดนได้แต่พึมพำคนเดียว (หึหึ นายถ้าจะมีเสน่ห์ยาแฝกนะต้นข้าว ใครเห็นใครรักใครเห็นใครหลงไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายอย่างเจ้าสองแดนนั่น) เขตแดนได้แต่พึมพำในใจคนเดียว แต่ก็แอบกระหยึ่มในใจที่เขาจะสามารถฝากชีวิตลูกสาวคนเดียวของเขาให้มีความสุขได้ เชื่อว่าเด็กหนุ่มคงทำได้อย่างไม่ยาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD