เหล่าคนงานมากมายแอบชะโงกหน้ามองเข้ามาในห้อง รอยยิ้มเล็กๆ ประดับขึ้นบนใบหน้า ภาพพ่อเลี้ยงไร่ส้มเหนือภูผากำลังนอนก้มหน้าจับมือนายหญิงแน่น
"พ่อเลี้ยงอยู่ดูแลนายหญิงทั้งคืนเลยเหรอ"
"ดูอะไรกันวะ"
มืดเดินขยี้ตาเข้ามา เขารีบแทรกตัวเหล่าคนงานที่มายืนกันตั้งแต่เช้า ก่อนจะเบิกตากว้าง
"แม่เจ้าโว้ย! แหมแล้วทำมาบอกไ****ดว่ากลับเองได้"
เสียงดังรบกวนหน้าประตูเรียกคนป่วยที่นอนซมอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้น ปิ่นมุกยกมือแตะศรีษะที่หนักอึ้งของตัวเอง เธอไล่สายตามองมืออีกข้างที่โดนจับอยู่
ร่างสูงนั่งบนรถวีลแชร์ กำลังก้มหน้านอนข้างขอบเตียงแถมยังเอามือเธอไปกุมไว้แน่น
พ่อเลี้ยงภูผา!
"นายหญิงอาการดีขึ้นหรือยังคะ"
เสียงคนงานกระซิบถามไถ่อยู่ด้านนอกเพราะไม่กล้าจะเดินเข้าไป ร่างเล็กทำได้เพียงพยักหน้าตอบ เธอรีบหันไปปลุกคนข้างๆ
"คุณภูผา"
"อือ"
เสียงครางในลำคอไม่สบอารมณ์เมื่อถูกรบกวนจากการนอน
"ปล่อยมือได้แล้ว"
สายตาแซวหลายสิบคู่ของเหล่าคนงานทำเอาปิ่นมุกเคอะเขินไม่ได้ เธอมองคนข้างๆที่เงยหน้าขึ้นมามือหนาปัดป่ายในอากาศไปทั่วก่อนจะมาหยุดที่ใบหน้าของเธอ
ภูผาพึงพอใจเล็กน้อยเมื่อเห็นตัวหญิงสาวไม่ค่อยร้อนแล้ว ก่อนจะรีบชักมือกลับทันที
"ไ****ด!"
"อยู่ข้างหลังพ่อเลี้ยงนี้แหละครับ แต่เมื่อคืนนอนเฝ้านายหญิงทั้งคืนเลยเหรอ"
"หุบปาก แล้วรีบพากูขึ้นห้อง"
"นายหญิงเขินหน้าแดงเชียว"
ปิ่นมุกรีบยกมือปฏิเสธเมื่ออยู่ดีๆ ลูกน้องคนสนิทของอีตาพ่อเลี้ยงไร่ส้มมาพูดจาใส่ร้ายเธอ
"ใครเขินห้ะมืด!"
"ก็นายหญิงไงครับ ตอนเห็นพ่อเลี้ยงนอนจับมือนายหญิงยิ้มแก้มปริ แถมยังมองตาหวานเชื่อมอีก"
ภูผาหูผึ่งทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เขาแอบอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อจินตนาการถึงหน้าหญิงสาวตามที่ลูกน้องคนสนิทพูด
"จริงเหรอไ****ด"
"จริงแท้แน่นอนครับ"
"พอเลยมืด ใส่ร้ายกันเกินไปแล้วนะ"
"ฉันก็แค่มาดูอาการเพราะกลัวใครบางคนมาตายในบ้าน แต่หากการกระทำของฉันทำให้เธอคิดเองไปไกลขนาดนั้นก็ขอโทษด้วย"
"เดี๋ยวนะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย"
"รีบพากูออกไปเถอะไอ้มืด เดี๋ยวคนแถวนี้จะคิดเองเออเองแล้วมีใจให้กูอีก"
ปิ่นมุกแทบจะกรี๊ดออกมา เธอไม่ได้มีอาการแบบนั้นสักหน่อย ดวงตาคู่สวยมองทั้งสองคนที่เดินออกไปอย่างคาดโทษ
ลูกน้องก็มโนเก่ง เจ้านายก็หลงตัวเองเก่ง!
"นายหญิงทานข้าวต้ม และยาก่อนนะคะ"
ป้าหญิงรีบเดินมายกข้าวต้มหอมกรุ่นให้เธอ พร้อมกับเตรียมยาก่อนอาหารและหลังอาหารให้เสร็จสรรพ
"โคตรหลงตัวเองเลยเจ้านายป้า"
"แล้วนายหญิงไม่หลงพ่อเลี้ยงหน่อยเหรอคะ นั้นนะหนุ่มหล่อของจังหวัดเชียงรายเชียวนะ"
"คนเอาแต่ใจแบบนั้นใครจะไปหลงค่ะ"
"แต่พ่อเลี้ยงดูเป็นห่วงนายหญิงมากนะคะ มาตามเฝ้า ตามถามอาการตลอดเลย ไ****ดมาบอกป้าว่าเมื่อคืนกว่าจะได้นอนเพราะพ่อเลี้ยงเอาแต่เรียกถามไถ่จนต้องพาลงมาดูนายหญิงในห้อง"
ปิ่นมุกชะงักช้อนที่กำลังตักข้าวต้มค้างเมื่อได้ยินคำพูดยาวเหยียดของป้าแม่บ้าน แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าคนที่ใจแคบแบบนั้นจะเป็นห่วงใครได้
"คงกลัวปิ่นมาตายในบ้านมั้งคะ"
"ปกติพ่อเลี้ยงไม่ค่อยใส่ใจใครแบบนี้หรอกนะคะ"
"พอเลยค่ะป้า บิ้วเก่งทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะ"
"ฮ่าๆ ป้าพูดจริงๆ นะ"
เสียงรถหลายคันขับมาจอดหน้าบ้าน ป้าหญิงขมวดคิ้วสงสัยเลยเดินออกไปดู ก่อนจะรีบวิ่งมาหาเธอ
"คุณนายใหญ่กับพ่อเลี้ยงพงษ์มาค่ะ"
ปิ่นมุกรีบขยับตัวลงจากเตียงนอน เธอเดินออกมาดูสองชายหญิงที่นั่งรออยู่บนโซฟา
"อ้าวหนูปิ่น อาการเป็นยังไงบ้าง"
"หนูดีขึ้นแล้วค่ะ"
"แล้วนี้ภูผาไปไหนเหรอ"
"พ่อเลี้ยงเพิ่งขึ้นไปบนห้องค่ะ ดูแลนายหญิงทั้งคืนเลย"
ป้าหญิงรีบทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหว จนร่างเล็กหันขวับไปมองทันที
"จริงเหรอ แม่ดีใจนะที่ลูกทั้งสองเข้ากันได้"
เข้าอะไรล่ะค่ะ จะเข้าโรงพยาบาลเพราะตบตีกันมากกว่า
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ"
"ให้คนไปตามภูผามาหน่อยนะ อยากคุยเรื่องสำคัญ"
ปิ่นมุกเดินมาทรุดนั่งข้างๆว่าที่แม่สามีที่ยกยิ้มกว้างให้เธอด้วยความเอ็นดู
มืดพาพ่อเลี้ยงหนุ่มที่อาบน้ำแต่งตัวเพิ่งเสร็จลงมา ใบหน้าหล่อดูจะติดรำคาญและไม่พอใจเมื่อถูกรบกวนจากการนอนอีกครั้ง
"รีบๆ พูดนะครับ ผมง่วง"
"น้อยๆ หน่อยไอ้เสือ พ่อกับแม่อุตส่าห์มา"
พ่อเลี้ยงพงษ์พัฒน์ อดีตเจ้าของไร่ส้มขนาดใหญ่ที่สุดในเชียงราย รีบปรามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์
"มืดไปตามคนในไร่ให้ช่วยยกข้าวของหนูปิ่นขึ้นไปบนห้องตาภูผาหน่อย"
"เดี๋ยวนะแม่!"
"ไม่เดี๋ยวแล้ว ลูกทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่มาแยกห้องนอนได้ยังไง"
"ผมไม่ชอบอยู่ร่วมกับใคร"
ปิ่นมุกมองบนคนตรงหน้าที่แสนเอาแต่ใจ ไม่ใช่แค่เขาหรอกนะ แต่เธอก็ไม่ชอบอยู่ร่วมกับใครเหมือนกันจะบอกไว้ให้
"หนูปิ่นจะได้ช่วยดูแลเราไงภูผา ยังไงต่อไปก็ต้องตบแต่งเป็นผัวเมียกันอยู่ดี"
"ไ****ดก็อยู่ มันดูแลผมได้"
"พ่อจะให้ไ****ดมันเข้าไปดูแลไร่ มีเวลาที่ไหนมาดูแลแก"
"แม่ให้ยัยนั้นมาดูแลผม ถามความเห็นเขาหรือยัง ใครจะอยากมาดูแลคนตาบอดอย่างผม"
ปิ่นมุกทำท่าจะปฏิเสธแต่พอมาได้ยินประโยคตัดพ้อตัวเองพร้อมกับใบหน้าเศร้าสลดของคนบนรถวีลแชร์ก็ทำใจปฏิเสธไม่ลง
"ปิ่นดูแลได้ค่ะ"
ใจที่เย็นชาของภูผาเต้นสั่นไหวมาเสียดื้อๆ เขาเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น
สงสัยคงจะชอบเขาจริงๆ อย่างที่ไ****ดบอกแน่เลย
"ขอบใจมากนะหนูปิ่น"
ใบหน้าหวานยกยิ้มกว้างให้คุณหญิงมลทิพย์ เธอเหลือบมองร่างสูงอย่างเห็นใจ ถือว่าช่วยเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก
เสียงดังของรถขับเข้ามาจอดหน้าบริเวณบ้าน มืดอาสาออกไปดูให้ก็พบว่าเป็นสองเพื่อนสนิทของเจ้านายหนุ่ม
"อยู่กันเต็มเลยนะครับ"
ร่างกำยำของนำทัพเดินเข้ามาพร้อมของกินเต็มไม้เต็มมือ ปิ่นมุกชะโงกหน้าดูอีกคนที่ตามหลังเข้ามาติดๆ
"พ่อแม่หวัดดีครับ"
พ่อเลี้ยงฟาร์มโคอย่างศิลายกยิ้มกว้างทักทายคนตรงหน้า ก่อนจะหันมองหญิงสาวร่างบอบบางที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
"มาทำไม"
"โห เพื่อนอุตส่าห์มาเยี่ยมนะมึง"
ภูผายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขารีบหันบอกลูกน้องคนสนิทให้พาไปในห้องทำงานเพื่อคุยธุระ
"ผมขอตัวไปคุยธุระกับไอ้ภูผาก่อนนะครับ"
"จ้ะ งั้นหนูปิ่นช่วยแม่จัดจานตั้งโต๊อาหารหน่อยได้ไหม"
"ได้ค่ะ"
"สายเบรคถูกตัดอย่างนั้นเหรอ!"
เสียงพ่อเลี้ยงพงษ์พัฒน์สบถออกมาด้วยความเดือดดาลเมื่อเรื่องที่เขาให้เพื่อนลูกชายไปช่วยสืบได้ความมาแบบนั้น
"ใช่ครับ ถึงคืนนั้นไอ้ภูผาจะเมาก็จริง แต่ก็มีเรื่องน่าสงสัยอยู่เยอะมาก"
"ถึงว่าตอนหักเลี้ยวกลับเบรคไม่อยู่"
ภูผากำหมัดแน่นอย่างข่มอารมณ์ คืนนั้นตอนเกิดอุบัติเหตุเขาหักหลบได้ทัน ซึ่งถ้าเบรคไม่มีปัญหารถของเขาคงไม่ไปพุ่งชนเสาไฟฟ้าแบบนั้น
"มึงคิดว่าใครไอ้ภูผา ที่ทำเรื่องแบบนี้"
"มีคนเดียวที่มันประกาศเป็นศัตรูกับกูอยู่ตลอด"
ไอ้พ่อเลี้ยงศรัณ!