ธีร์ยิ้มมุมปาก ตาคมหวานเยิ้มมองเธอ “ยอมให้พี่มอมหรือเปล่าล่ะ” เขาส่งแก้วเครื่องดื่มให้เธอ
“ไม่ยอม” นิดาหลบตาเขาพลางจิบเครื่องดื่ม จากนั้นก็ลงมือหั่นสเต๊กกินโดยไม่มองหน้าเขาเพราะเขินเกินกว่าจะกล้าสบตาเขา
“ชนแก้วกับพี่หน่อยสิคะ” ธีร์ยื่นแก้วไปข้างหน้า
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ” เธอหันมามองหน้าเขา แต่มือก็เอื้อมหยิบแก้วไปชนกับเขา
“อยากดื่มกับนิ” พูดจบเขาก็หยิบกุหลาบสีชมพูดอกใหญ่ยื่นไปข้างหน้า “กุหลาบหนึ่งดอก”
“รักแรกพบ...เหรอคะ” นิดาพูดถึงความหมายของกุหลาบหนึ่งดอก แล้วมองหน้าเขาอย่างงงๆ
“ครับ เอาไว้พี่จะเล่าให้ฟัง เรื่องมันยาว”
นิดารับกุหลาบมา รู้สึกคุ้นเคยกับกุหลาบหน้าตาแบบนี้ ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเธอเคยเห็นในไอจีของคนชื่อ T_C แสดงว่าเป็นเขาไม่ผิดแน่ เธอยกกุหลาบขึ้นดม กลิ่นของมันหอมอวลในจมูก
“สวย...หอม...ขอบคุณนะคะ” เธอยกดอกไม้ขึ้นดมอีกครั้ง
“เดี๋ยวไปดูดาวกันนะครับ”
“พี่สิริเป็นห่วงแย่แล้ว” นิดานึกขึ้นได้ว่าวันนี้เธอขอให้สิริมาอยู่เป็นเพื่อนอีก ป่านนี้คงชะเง้อคอมองหาด้วยความเป็นห่วง
ธีร์เพียงแค่มองหญิงสาวแล้วยิ้ม
“ยิ้มอะไร”
“สิริกลับบ้านไปนอนแล้วละ”
“หมายความว่าไงคะ”
“พี่เคลียร์ให้แล้ว ไม่ต้องห่วง” ธีร์ทิ้งคำพูดไว้เท่านี้และเติมเครื่องดื่มให้เธออีก
นิดาแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าซึ่งตอนนี้เริ่มระบายด้วยแสงดาว “แล้วไปดูดาวที่ไหนคะ”
“ตรงโน้น พี่เตรียมไว้ให้เราแล้ว” เขาชี้ไปยังลานไม้อีกด้านที่ยื่นออกไปยังลำธาร นิดาหันไปมองตาม
.................
เบาะนอนปูผ้าสีขาวมาวางอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหน นิดาแอบสงสัยในใจ ที่แน่ๆ ก้าวแรกที่เธอมาเยือนบ้านพักหลังนี้ เธอไม่เห็นมัน นอกจากนี้ยังมีหมอนอิง หมอนหนุน ผ้าห่มสีขาว และโต๊ะเตี้ยวางเครื่องดื่ม หัวใจของหญิงสาวรู้สึกหวั่นไหวกับความใกล้ชิดและการดูแลเอาใจใส่ของเขา บางช่วงเวลาเธอก็อยากตัดโลกภายนอกทิ้งไป แล้วถลำลึกไปให้สุดทางกับความต้องการของหัวใจโดยไม่ต้องแคร์สิ่งใด อย่างเช่นเวลานี้
“ทำบ่อยเหรอคะ” นิดาหยิบเอาคำถามที่เขาเคยถามเธอมาถามบ้าง หลังจากทรุดตัวลงนั่งพิงหมอนอิงบนที่นอนนุ่ม
“ครั้งแรก” เขาตอบพร้อมนั่งลงพิงหมอนอิงใบเดียวกับเธอและโอบบ่าบางไว้
นิดาหันหน้ามามองเขาที่มองหน้าเธออยู่ก่อนแล้ว เขาแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากอิ่มเบาๆ
“สำหรับนิแล้ว ไม่มีอะไรที่พี่ทำโดยไม่ตั้งใจ” เขาทิ้งคำพูดเป็นปริศนาไว้ให้หญิงสาวอยากรู้
“หมายความว่าอะไรคะ”
“สักวันก็จะรู้เอง” เขาหอมหน้าผากมน แล้วไล้จมูกมาตามแก้ม ก่อนจะซุกไซ้ตรงซอกคอระหงและขบเม้มดูดดึงเบาๆ นิดารู้สึกเหมือนมีกระแสไฟแล่นปลาบจากจุดที่เขาสัมผัสวิ่งไปทั่วร่าง เธอรีบผลักเขาออก
“อย่าค่ะ เดี๋ยวเป็นรอย” เธอไม่อยากให้เขาทิ้งหลักฐานไว้ในจุดที่คนทั่วไปสามารถสังเกตเห็นอีก ณ เวลานี้ไม่ใช่ว่าร่างกายเธอไม่ปรารถนาเขา เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองมาตั้งแต่เป็นของเขาแล้ว แต่ก็ต้องฝืนความรู้สึกไว้ เพราะเธอมีคนในหัวใจ ส่วนเขาก็คงศึกษาดูใจอยู่กับใครบางคน
ธีร์ยอมเชื่อฟังคำร้องขอของหญิงสาว และดึงเธอลงมาให้ซบอยู่กับอกเขา แล้วมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว โดยมีเสียงน้ำในลำธารเบื้องหน้าขับกล่อม
“เคยเห็นดาวตกไหม” เขาเอ่ยถาม
“ไม่เคยค่ะ” เธอตอบ ดมกุหลาบอีกครั้งก่อนจะส่งไปที่จมูกของเขา
มาที่รีสอร์ตทุกปิดเทอม แต่เธอก็ไม่เคยมีโอกาสมานอนดูดาวอย่างตอนนี้
“ที่นี่จะได้เห็นบ่อยๆ ถ้าได้เห็นแล้วอย่าลืมอธิษฐานล่ะ”
นิดาหันไปวางกุหลาบ แล้วกลับมายกมือขึ้นแตะที่ใบหน้าหล่อคม นิ้วนุ่มลูบไล้กรอบหน้าลงมายังสันคาง มันเป็นครั้งแรกที่เธอกล้าสัมผัสเขาแบบนี้ ถ้าลองฟังให้ดีๆ เธอจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่เต้นรัวแรงจนแทบจะคร่อมจังหวะ
“คุณอธิษฐานว่าอะไรคะ”
“ไม่ว่าจะเห็นดาวตกสักกี่ดวง คำอธิษฐานของพี่ก็มีเพียงสิ่งเดียว” เขาพูดชิดริมฝีปากอิ่มที่กำลังรอคำตอบ
“อะไรคะ”
“ขอให้พี่ได้เป็นคู่ชีวิตของนิดา”
จบคำพูดเขาก็ครอบครองริมฝีปากอิ่ม วาดลิ้นเปิดปากบาง ไล้ลิ้นบนไรฟันที่เรียงซี่สวย เมื่อหญิงสาวเผยอปากเปิดทาง เขาก็แทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นสากร้อนควานไล้หาลิ้นเล็ก หญิงสาวตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ สลัดโลกภายนอกทิ้งไปจากสมองแล้วทำตามใจตัวเอง สองลิ้นตวัดพันตู หยอกล้อกันอย่างดื่มด่ำ มัวเมา
มือบางเริ่มโลมลูบไปบนหน้าอกแกร่งผ่านเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมใส่ บีบเคล้นรีดเร้นอารมณ์ตามความกระสันที่พวยพุ่งมาจากการดูดดึงของลิ้น กระแสเสียวอาบไปทุกอณูของกายหนุ่มจากสัมผัสนั้น เสื้อผ้าอาภรณ์กลายเป็นของร้อนเมื่อหญิงสาวเริ่มบีบยอดอกของเขาจนแข็ง เขาอยากให้เธอสัมผัสมันมากกว่านี้ แนบชิดกว่านี้ เขาจะต้องรีบกำจัดเสื้อผ้าออกไปในบัดดล ธีร์ไม่รอช้า เขาผละริมฝีปากออก หากจะมัวแกะกระดุมทีละเม็ดอาจจะทำให้เขาขาดใจตายได้ เขาจึงกระชากออกทีเดียวจนกระดุมหลุดไปทั้งแผง จากนั้นก็ปลดเข็มขัดและถอดกางเกงยีนส์ออก