“รังรักบ้าบออะไร พาฉันกลับเดี๋ยวนี้” นิดาเสียงแข็งออกคำสั่ง ไม่มีทางที่เธอจะรักผู้ชายลอบจัดคนนี้ลงหรอก เธอวาดขาลงบนพื้นทันทีที่เขาวางเธอลงบนเตียง แต่ก็ถูกเขารวบเอวไว้แล้วกดตัวให้นอนแนบลงไปบนเตียงด้วยกัน
“หยุด เราจะไม่ทำเรื่องแบบนี้กันอีก” หญิงสาวตวาด ออกแรงผลักแขนเขา ธีร์จึงขยับขึ้นไปทาบทับกักขังหญิงสาวไว้ใต้ตัวเขา ชายหนุ่มยกมือข้างหนึ่งขึ้นเกลี่ยไล้เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาตามไรผมบนกรอบหน้าสวย ก่อนใช้มือข้างนั้นประคองแก้มเธอไว้แล้วใช้นิ้วโป้งลูบไล้แก้มเนียนไปมา
“เราจงใจกันพี่ออกไปใช่ไหม” เขาไม่สนใจคำพูดของเธอเลย
หลายคืนแล้วที่เธอตั้งใจกันเขาออกไปโดยให้สิริมานอนเป็นเพื่อน ตอนสายเขาไปหาเธอที่บ้านก็ไม่พบ จึงไปถามสิริที่สโมสร ได้ความว่านิดาออกมาทำงานแต่เช้า สิริยังบอกอีกด้วยว่าเมื่อเช้าที่เธอขึ้นไปดู หญิงสาวตัวรุมๆ เธอท้วงติงให้นอนพักแต่ก็ไม่เป็นผล ธีร์ไปที่ออฟฟิศรีสอร์ต แล้วนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขาให้ดาวพาเธอไปงานข้างนอก เขาเปิดดูตารางเวลา ช่วงเวลานั้นน่าจะพากันไปที่น้ำตกแล้ว เขาจึงตามไปที่นั่น
“เปล่า ทำไมจะต้องกัน” หญิงสาวตอบโต้
“ยังจะปากแข็ง ไม่งั้นจะให้สิริมาคอยกันทำไม แล้วเมื่อวานไปตากแดดซนตั้งครึ่งค่อนวัน นี่ตัวยังร้อนอยู่เลย” เขาพูดหลังจากก้มลงจรดปากและจมูกลงมาตามข้างแก้มเธอ หญิงสาวขนลุกซู่แต่ไม่สามารถหันหนีไปไหนได้ เพราะมีมือเขาล็อกใบหน้าของเธอไว้
“ขวัญใจหนุ่มวิศวะเหรอเรา” เขายังไม่ละทิ้งเรื่องเมื่อครู่ “หลับตาค่ะ” เขาบอกชิดริมฝีปากอิ่ม และขบเม้มเบาๆ จากนั้นก็ขยับไปจูบเปลือกตาบาง เป็นการบังคับให้หญิงสาวต้องหลับตาลงตามคำสั่งของเขา จากนั้นชายหนุ่มก็ทิ้งกายลงนอนข้างตัวเธอ ซุกซบใบหน้ากับซอกคอหอมกรุ่นที่ผสมด้วยกลิ่นเหงื่อจางๆ แขนแกร่งไม่ได้คลายอ้อมกอด เพราะไม่อยากให้เธอขัดขืน
เมื่อรู้ว่าไร้ประโยชน์ที่จะต่อต้าน และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายที่อ่อนแรงทำให้นิดาโหยหาการพักผ่อน ยิ่งเมื่อได้หลับตาลง ความร้อนในร่างกายจากพิษไข้ที่ยังไม่หายดีก็พากันวิ่งขึ้นมายังกระบอกตา เพียงไม่นานหญิงสาวก็หลับไปในอ้อมกอดของเขา
...............
สองทุ่มโดยประมาณ
นิดาลืมตาขึ้นมาในห้องที่สลัวด้วยแสงไฟสีส้ม เพดานห้องดูแปลกตาจากภาพจำ หญิงสาวหลับตาลงอีกครั้งเพื่อใคร่ครวญเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ไม่นานก็จำได้ว่าเธอหลับไปในบ้านพักของธีร์ในช่วงบ่าย เธอลืมตาแล้วลุกขึ้นนั่งสำรวจตัวเองทันที
เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่ถูกแทนที่ด้วยเสื้อยืดตัวใหญ่เนื้อดี ความว่างเปล่าเบาสบายทำให้เธอตะปบมือลงบนหน้าอก ขยำดูจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรโอบอุ้มก็ดึงคอเสื้อและมองลงไป มีแต่หน้าอกล้วนๆ เธอลุกขึ้นนั่งคุกเข่าถกเสื้อขึ้นมาก็เจอกับกางเกงบ็อกเซอร์ เมื่อดึงบ็อกเซอร์ลงมาก็เจอน้องสาวของตัวเอง เธอหันไปมองรอบกาย ก่อนจะพบกับเขาที่ยืนอยู่ตรงผนังกระจก กอดอกอมยิ้มมองมายังเธอ
“ผู้หญิงอะไรมาขยำนมเปิดอีโมะต่อหน้าผู้ชาย” เขาล้อเธออย่างอารมณ์ดี
“ปากเหรอนั่น”
“ไม่ต้องตกใจ พี่ไม่ได้ทำอะไร” ธีร์รู้ดีว่าหญิงสาวตื่นตระหนกเรื่องอะไร
“ละ...แล้วทำไมฉันอยู่ในชุดนี้” นิดาถามทันที “เสื้อผ้าฉันล่ะ”
เขาเดินช้าๆ มานั่งบนเตียง ยกมือเกลี่ยผมเธอแล้วทัดไปข้างใบหู “เราเป็นไข้ พี่เช็ดตัวให้ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ พี่เอาเสื้อผ้าชุดชั้นในของนิไปซักแล้ว เมื่อคืนพี่ก็เป็นคนเช็ดตัวนะ ไม่ใช่สิริ” ถือโอกาสบอกเสียเลย เผื่อเธอจะประทับใจในตัวเขาบ้าง
นึกตามแล้วก็อายที่ตนเองหลับไม่รู้เรื่องขนาดนั้น
“ขอบคุณนะคะ” นิดาเอ่ยเสียงเบา หน้าแดงเรื่อ ไม่ใช่เพราะพิษไข้ ตอนนี้อาการครั่นเนื้อครั่นตัวได้หายไปแล้ว แต่อายเพราะเขาเอาเสื้อผ้าของเธอไปซักให้
“อ้อ ชุดแบบนั้นอย่าให้พี่เห็นว่าใส่มันอีกนะ” ธีร์คาดโทษ
“ทำไมคะ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร”
“ก็ใส่เอี๊ยมแล้วใส่แค่บราตัวเล็กๆ มันจะไปปิดอะไรได้” เขาลดสายตาลงไปที่หน้าอกของหญิงสาวพร้อมกับยิ้มมีเลศนัย “แล้วนมเราก็ใหญ่”
นิดารีบยกมือขึ้นมากอดอก แม้ตอนนี้เธอจะใส่เสื้อยืดมิดชิด แต่การที่ไม่มีบราเซียร์ด้านในก็ทำให้หน้าอกของเธอดันขึ้นมาจนเห็นเป็นรูปเป็นร่าง
“อี๋ ลามก ล้าสมัย เชย ไม่รู้จักแฟชั่นหรือไง” เธอทำท่าจะทุบเขา ธีร์จึงจับข้อมือไว้
“ชอบตีพี่จัง อย่าลืมนะ นมคู่นี้มีเจ้าของแล้ว ไม่ต้องโชว์ให้มาก เจ้าของเขาหวง” เขายังไม่เลิกแหย่
“อะไรที่อยู่บนตัวฉัน มันก็เป็นของฉัน อย่ามาโมเม”
เขาจับมือเธอมา กำมือวางไปบนมือเธอ “อ้ะ พี่ให้”
“อะไรคะ” นิดางงไปหมด
“หัวใจพี่ มันอยู่ที่นิแล้ว” เขายิ้มพร้อมกับดึงเธอมาหอมแก้มแรงๆ จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เธอจะปาหัวใจของเขาทิ้ง “ใส่ชุดพี่ก็น่ารักดีนะ พี่ชอบ ปะ ไปกินอาหารกัน” ธีร์ดึงแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้นจากเตียง และพาเดินออกไปยังลานด้านนอก ซึ่งเขาได้เตรียมอาหารไว้รอหญิงสาวบนโต๊ะแล้ว
บนโต๊ะประกอบด้วยสเต๊กเนื้อสองจาน ผลไม้ เพิ่มความโรแมนติกด้วยเทียนในโหลแก้ว
“จะมอมเหล้าฉันเหรอ” นิดามองหน้าเขาหลังจากนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม และเขาเริ่มผสมเครื่องดื่ม