ไอรีนรีบเอ่ยขอโทษพี่ชาย ด้วยน้ำเสียงสั่นนิดๆ หลบสายตาดุของพี่ชาย เธอกลัวพี่ชายคนโตที่สุดเพราะเขาดุและเจ้าระเบียบที่สุดในบ้าน
เอริกพยักหน้ารับ “ไม่เป็นไร พี่ไปนอนก่อนนะ คงไม่มีใครนึกสนุกทำเสียงดังกลางดึกอีกนะ” เขากำชับ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
โรสิตามองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไป รู้สึกหวาดหวั่นกับสายตาที่เขามองมา แววตาของพี่ชายไอรีช่างน่ากลัวจนขนลุก หญิงสาวอดนึกถึงคำเตือนของโอลิเวอร์ไม่ได้
“มองตามพี่เอริกตาปรอยเลยนะยายโรส หลงเสน่ห์พี่ชายจอมเฮี้ยบของฉันเข้าแล้วใช่ไหมจ้ะ” ไอรีนแกล้งเย้าเพื่อนสาว ท่าทางกลัวหงอเมื่อครู่หลายไปเมื่อพี่ชายเดินออกไปพ้นห้อง
โรสิตาย่นจมูก พร้อมส่ายหน้า “โอ้ย... ไม่ไหวหรอก พี่ชายเธอคนนี้ท่าทางดุจะตาย แค่เขามองหน้าฉันเมื่อกี้ อุจจาระของฉันก็ขึ้นไปกองบนหัวแล้ว” หญิงสาวลูบขนแขนที่ลุกชันยังไม่หาย
การเปรียบเปรยของเพื่อน ทำให้คนฟัง หัวเราะขำ
“ยายโรส ว่าซะพี่ชายฉันหมดราคาเลย “
“ก็ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นี่ เธอเองก็ตัวสั่นพั่บๆ ตอนที่ถูกพี่ชายมองเหมือนกันนี่”
“แหม ใครว่าฉันกลัวพี่เอริก แอร์ในห้องมันเย็นต่างหาก เธอก็ว่าเข้าไป”
คำแก้ตัวของไอรีนทำให้โรสิตาเผลอตัว หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะรีบหุบปาก เมื่อนึกได้ว่าเมื่อครู่เพิ่งถูกคาดโทษไว้ สองสาวมองหน้ากัน แล้วรีบปิดไฟนอน
นอกห้อง พี่ชายใหญ่ของบ้านยังยืนฟังเสียงคนในห้องอยู่ ภาพความสนิทสนมของน้องสาวกับเพื่อน ทำให้เอริกรู้สึกระแวง ลักษณะของโรสิตาเหมือนพวกลักเพศ ไอรีนเองก็มีทีท่าสนองตอบจนคนเป็นพี่รู้สึกหนักใจ หากน้องสาวของเขากลายเป็นพวกชอบเพศเดียวกัน เขาคงรับไม่ไหว เขาต้องหาทางป้องกันไว้ก่อน
“ฉันจะไม่ยอมให้เธอ มาทำให้น้องสาวฉันเสียคนหรอก ยายทอมบ้า”
เช้าวันต่อมา สองสาวพากันเดินทางไปยังอาคารเมดิสันกรุ๊ป อันเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ ตระกูลเมดิสันมีกิจการด้านโรงแรม เมื่อมาแต่งงานกับคนในตระกูลจิรากรซึ่งทำกิจการอัญมณีส่งออก จึงเข้ามารวมกันเครือเดียวกัน กิจการในเครือเมดิสันมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต รวมถึงอัญมณีในแบรนด์มารีนบลู ซึ่งอยู่ในความดูแลของโอลิเวอร์ โดยมีไอรีนเป็นผู้ช่วยของพี่ชาย เอริกพี่ชายคนโตนั้นดูแลเกี่ยวกับโรงแรมในเครือเมดิสันทั้งหมด เช้านี้ไอรีนพร้อมโรสิตาต้องนำเสนอผลวิจัยเกี่ยวกับการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียของบริษัทเมดิสันแกร์นจิวเวลรี่ หนึ่งในบริษัทในเครือเมดิสันกรุ๊ป
การประชุมผ่านพ้นไปด้วยดี โรสิตาต้องเป็นคนนำเสนอโปรเจกต่อที่ประชุมตามที่คาด เมื่อคนเป็นเพื่อนไม่อาจให้ข้อมูลได้ชัดเจนเท่า โปรเจกนี้ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ทำให้ไอรีนยิ้มแก้มแทบปริ คล้องแขนเพื่อนรักเดินออกมาจากห้องประชุม ด้วยท่าทางรื่นเริง
“ขอบใจมากนะจ้ะโรส ถ้าไม่ได้เธอฉันแย่แน่เลย”
“ไม่เป็นไร เพื่อนต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้วนี่” โรสิตายิ้มให้เพื่อน มองใบหน้าแจ่มใสของไอรีนอย่างเอ็นดู “งานก็เสร็จแล้ว ฉันขอตัวกลับบ้านเลยนะ”
“จะรีบกลับทำไมกันอยู่นอนเป็นเพื่อนฉันก่อน งานคราวนี้ถ้าไม่ได้เธอมาช่วย ฉันไม่รู้ว่าโปรเจกนี้จะผ่านที่ประชุมไหม ฉันจะให้พี่โอลิเวอร์ย้ายเธอมาช่วยฉันทำงานที่สำนักงานใหญ่ ส่วนสาขาที่เธอดูแลอยู่ฉันจะให้คนอื่นไปดูแลแทน”
ไอรีนวางแผนไว้ให้เพื่อนสาวย้ายกลับมาช่วยเธอทำงาน หลังจากที่อีกฝ่ายเคยปฏิเสธมาตลอด คราวนี้โรสิตาจะไม่มีข้ออ้างมาโยกโย้อีก เมื่อเธอจัดการกระซิบโอลิเวอร์ ให้ทำเรื่องย้ายเพื่อนรักจากการเป็นผู้จัดการสาขามาเป็นผู้ช่วยของโอลิเวอร์ที่สำนักงานใหญ่ที่ลอนดอนแทน โดยหวังเป็นแม่สื่อให้เพื่อนกับพี่ชายคนรอง ความคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อเธอเห็นโอลิเวอร์กับโรสิตาพูดคุยกันที่สวน ทั้งสองดูเหมาะสมกันมากจนอยากให้เพื่อนรักกลายเป็นพี่สะใภ้อีกตำแหน่ง ไอรีนลอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“จะดีเหรอ ฉันกลัวว่าจะไม่มีความสามารถพอ หาคนอื่นทำแทนเถอะ”
โรสิตาพยายามบ่ายเบี่ยง แค่เธอได้งานทำก็ถูกนินทาว่าเป็นเด็กเส้นแล้ว ทั้งๆที่สอบคัดเลือกมาด้วยความสามารถของตัวเองโดยไม่ยอมบอกให้ไอรีนช่วยเหลือ มาตอนนี้เพื่อนสาวคิดย้ายเธอมาทำงานยังสำนักงานใหญ่ มันยิ่งทำให้เธอวางตัวลำบาก
“เธอนั่นแหละที่มีความสามารถมากที่สุด อย่าสนใจพวกปากหอยปากปูเลยน่า ยิ่งพวกนั้นนินทาเธอเท่าไหร่ เธอต้องพิสูจน์ให้ทุกคนยอมรับความสามารถมากเท่านั้น ฉันเชื่อว่าเธอทำได้นะโรส” ไอรีนจับมือเพื่อนรัก บีบให้กำลังใจแรงๆ
โรสิตามองหน้าเพื่อนแล้วจำต้องพยักหน้ารับ เมื่อคิดตามคำพูดของไอรีนแล้วเห็นพร้องด้วย บิดาของเธอเคยพูดว่า ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ เหมือนคนเก่งคนดีต่อให้มีอุปสรรคแค่ไหน ก็สามารถฝ่าฟันไปได้สำเร็จ ขอเพียงให้เชื่อมั่นในความดีของตัวเองพิสูจน์ให้ทุกคนยอมรับ
“โอเค ฉันจะพิสูจน์ให้ทุกคนยอมรับ” โรสิตายอมรับ
“เยี่ยมมากเลยจ้าโรส ฉันรักเธอที่สุด คนเก่งของฉัน”
ไอรีนยิ้มกว้างหอมแก้มเพื่อนสาว พร้อมกับกระโดดกอดอีกฝ่ายด้วยความดีใจ โดยลืมคำเตือนของโอลิเวอร์พี่ชายคนรองไปเสียสนิท เมื่อภาพนี้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพี่ชายคนโตที่เดินออกมาจากห้องประชุมอีกห้องพอดี เอริกนิ่งขึงจ้องสองสาวด้วยแววตาดุกร้าว จนไอรีนและโรสิตาที่หันมาเห็นถึงกับยิ้มไม่ออก โรสิตารีบดันร่างเพื่อนให้ออกห่างทันที ขณะที่ไอรีนยิ้มเจื่อนๆ ให้พี่ชาย
“การประชุมเป็นยังไงบ้าง” เขาถามเสียงขรึม
ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องหน้าน้องสาว ก่อนจะตวัดมองใบหน้าของหญิงสาวอีกคนด้วยแววตาเข้มดุ สายตาจ้องมองร่างเพรียวระหงที่ยามนี้สวมกระโปรงสั้นกับเสื้อเชิ้ตกึ่งสูทสีเทา ผมซอยสั้นเรียบกริบตกแต่งอย่างดีไม่ยุ่งฟูเหมือนเมื่อวานก่อน ใบหน้ารูปไข่แต่งเติมสีสันบางเบา ริมฝีปากอิ่มแต้มลิปสติกสีชมพูกลีบบัวดูอ่อนหวานชวนให้คนมองเผลอหัวใจเต้นแรง ก่อนจะรู้สึกตัวดึงความคิดชื่นชมออกจากความรู้สึก เมื่อนึกถึงพฤติกรรมน่ารังเกียจในสายตาเขาเมื่อวาน และเมื่อครู่นี้
“ที่ประชุมอนุมัติโปรเจกของไอรีนแล้วค่ะ อาทิตย์หน้าไอรีนกับโรสจะเริ่มดำเนินการค่ะ” ไอรีนตอบพี่ชาย
“อืม... เก่งนี่” เอริกเอ่ยชมน้องสาว เขาไม่คิดว่าไอรีนจะสามารถทำให้โปรเจกนี่ผ่านได้ แต่น้องสาวก็ทำได้จริงๆ
ไอรีนฉีกยิ้มกว้างรับคำชมจากพี่ชาย ซึ่งไม่ง่ายนักที่อีกฝ่ายจะเอ่ยชมออกมา
“ต้องยกความดีให้โรสค่ะ โรสเขามาช่วยไอรีนทำโปรเจกนี้ แล้วยังช่วยพรีเซ้นส์งานด้วย”
หญิงสาวหันมายิ้มให้เพื่อน มือบางกุมมือเพื่อนรักไว้แน่น โดยไม่ทันเห็นสายตาวาววับของพี่ชาย แต่คนที่เห็นคือโรสิตาเจ้าตัวรีบดึงมือออกแทบไม่ทัน
“แบบนี้พี่ต้องให้รางวัลคนเก่งสินะ” เอริก กระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมจ้องหน้าโรสิตานิ่ง “นี่ก็เที่ยงแล้ว พี่ว่าพี่พาไอรีนกับเพื่อนไปเลี้ยงกลางวันดีกว่า”
ข้อเสนอของพี่ชายทำเอาน้องสาวดีใจจนยิ้มไม่หุบ รีบพยักหน้าทันที โดยไม่ถามความเห็นของเพื่อน
“ได้เลยค่ะพี่เอริก ไอรีนขอเลือกร้านเองนะคะ วันนี้ไอรีนอยากกินอาหารไทย พี่เอริกพาไปที่ร้านไหมไทยนะคะที่นั่นอาหารอร่อย”
“ได้สิ ไปกันเถอะ พี่มีนัดกับลูกค้าบ่ายสองเดี๋ยวจะเสียเวลา” เอริกเดินนำสองสาวมายังลิฟต์ของผู้บริหาร
ไอรีนยิ้มร่า ดึงแขนเพื่อนให้เดินตามมา “อยากกินอะไรนึกเมนูไว้นะโรส พี่เอริกเขาไม่เลี้ยงใครง่ายๆ หรอกนะ”
โรสิตานิ่วหน้า มองท่าทางตะกละของเพื่อนอย่างระอาใจ “ถามฉันหรือเปล่า ว่าฉันอยากมาหรือเปล่า ฉันมีนัดกับอแมนด้าตอนเที่ยง แบบนี้จะให้เลิกนัดทันหรือไง” หญิงสาวบ่นเสียงขรม