ลภัชดนย์ตามเจ้าของบ้านอย่างสิงห์เข้ามาในห้องทำงาน ห้องทำงานที่เต็มไปด้วยหนังสือ จะว่าไปเป็นห้องหนังสือดีๆ นั่นแหละ เพียงแค่มีโต๊ะทำงานตั้งประดับเฉยๆ และมีชุดโซฟาไว้นั่งอ่านหนังสือ กับถ้วยกาน้ำชาตั้งอยู่โต๊ะกลางโซฟา ทุกอย่างถูกเตรียมไว้ก่อนจะเดินมาถึง เพราะสิงห์ได้ไปสั่งให้เด็กมาเตรียมเครื่องดื่มไว้รอในห้องทำงานแล้ว
“เชิญครับพี่เลว” เจ้าบ้านเชิญแขกนั่ง
“อือ...ทำตัวตามสบายนะไอ้สิงห์” แขกเอ่ยกวนๆ พร้อมหย่อนก้นนั่งลงกับโซฟาตัวนุ่ม
“แน่นอนสิพี่ ก็เนี่ยบ้านผม ว่าแต่พี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม จริงๆ วันจันทร์พี่เรียกผมเข้าไปหาที่อู่ก็ได้นะครับ ไม่ต้องมาถึงบ้านผมเลย ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันเสาร์วันหยุดแท้ๆ” ใช่...สิงห์ไม่เข้าใจ เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องมาหาที่บ้านเลยสักนิด
“ก็แค่อยากแวะมาเยี่ยมคุณอาด้วย ไม่เจอท่านนาน อีกอย่างอะไหล่ล็อตก่อนที่ส่งให้น่ะมันไม่ผ่านนะไอ้สิงห์ มันเกรดต่ำมาก ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นวะ” เมื่อบอกจะมาพูดเรื่องงาน เขาก็เปลี่ยนน้ำเสียงยียวนให้เป็นเคร่งขรึม พร้อมสีหน้าที่ปรับเป็นเข้มและจริงจัง
“ผมต้องขอโทษพี่เลวด้วยครับที่ทำให้ไม่พอใจ ยอมรับว่ารอบก่อนมีปัญหาจริงๆ เพราะโรงงานแม่ที่ฮ่องกงของเราเครื่องจักรเสียและทำให้งานเราคุณภาพต่ำไปด้วย ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับ เดี๋ยวผมทำเรื่องเคลมสินค้าให้ครับพี่”
“ไม่ต้องหรอก ฉันแก้ไขไปแล้ว ถ้าจะขอโทษจริงๆ ก็ลดราคาล็อตใหม่ก็พอ และขอมีคุณภาพด้วย ไม่ใช่ส่งงานห่วยๆ แบบล็อตที่แล้วมาให้ฉัน ถ้าเป็นแบบนั้นบ่อยๆ เราคงได้จบกันแน่ไอ้สิงห์ ฉันไม่อยากเปลี่ยนเจ้านำเข้าอะไหล่แกก็รู้ อีกอย่างเราค้าขายกันมานานแล้วด้วยไม่ใช่เพิ่งจะมาทำ หวังว่าแกจะตรวจเช็กงานให้ดีก่อนส่งล่ะ” มันก็ไม่ได้คุณภาพต่ำมากอะไร มันพอได้อยู่ แต่ทุกอย่างสำหรับเขาแล้วมันต้องดีที่สุด และลูกค้าที่มาใช้บริการที่อู่ลภัชดนย์ก็ต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดไปด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณพี่เลวมากๆ นะครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเหล้าและสาว”
“หึหึ...อย่าเอาผู้หญิงมายั่วกูไอ้สิงห์ ว่าแต่มึงเถอะ ไปอยู่ฮ่องกงเป็นไง สาวที่นั่นเด็ดสู้ของไทยเราไหม” เล่นเอาคู่สนทนาปรับอารมณ์ตามไม่ทัน ก็ก่อนหน้านี้จริงจัง หน้าเข้มขรึม แต่ตอนนี้เป็นทะเล้น นี่แหละลภัชดนย์ ยากที่ใครจะเข้าใจและตามอารมณ์ของเขาทัน
ตู๊ด! ตู๊ด! ตู๊ด!
สิงห์ยังไม่ทันได้ตอบกลับ เสียงสั่นเตือนของโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นเตือน
“มีสายเข้า ผมขอรับสายก่อนนะพี่เลว” สิงห์เอ่ยขออนุญาตรุ่นพี่คู่สนทนาก่อนจะล้วงออกมาดูว่าใครกันโทรหาตัวเองในวันหยุด พอเห็นว่าเป็นใครก็เลิกคิ้วสงสัยเล็กน้อย แต่ก็กดรับสายโดยไม่ลุกจากที่นั่ง
“ว่าไงไอ้แตง” สิงห์ถามปลายสายเมื่อกดรับสาย
‘เฮียสิงห์ คุณเลวกลับไปรึยังฮะ’ คนที่บอกจะขึ้นไปนอนพักผ่อนนั้นนอนไม่หลับ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ลภัชดนย์กลับไปรึยัง และอยากรู้ด้วยว่าตอนที่ตนเองไม่อยู่ ชายหนุ่มคุยอะไรกับพี่ชายและพ่อของตนเอง
“พี่เลวน่ะเหรอ ยังไม่กลับ ตอนนี้ก็นั่งอยู่กับเฮีย จะคุยไหม” สิงห์พูดตอบคนในสายพร้อมส่งยื่นโทรศัพท์ในมือตนเองให้กับลภัชดนย์ที่นั่งตรงข้ามตนไปคุยกับน้องสาว
“ว่าไงแตง ถามถึงฉันมีอะไรเหรอ” ใจอยากพูดคำว่า ‘คิดถึงผัวเหรอเมียจ๋า...’ แต่ก็ทำได้แค่พูดในใจ เพราะพูดตรงนี้ไม่ได้ด้วยมีคนนอกอย่างสิงห์อยู่ด้วย
‘ปะ...เปล่าฮะ’ แล้วเธอก็กดตัดสายอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่าคนตัวโตยังอยู่ที่บ้านของตนเอง
หึหึ
ลภัชดนย์แค่นขำในลำคอแล้วส่งโทรศัพท์กลับคืนให้เจ้าของ
“พี่เลวอย่าถือสาไอ้แตงของเราเลยนะพี่ ไอ้แตงมันก็แบบนี้แหละ ผมกับป๊าตามใจมันแต่เด็กเลยห้าวเป้งแบบผู้ชาย แต่จริงๆ มันเป็นผู้หญิงนะ ถึงจะตัดผมซอยสั้นแบบผู้ชายแบบนั้น” สิงห์รับโทรศัพท์คืนพร้อมพูดขอโทษแทนน้องสาวที่เสียมารยาทกับรุ่นพี่
“หึหึ...ฉันรู้ว่าแตงเป็นผู้หญิง...และรู้ดีด้วยว่าสวยไปทั้งตัว” ท้ายประโยคเป็นเพียงเสียงพึมพำในลำคอที่พูดให้ตนเองได้ยินคนเดียว
“ใช่ไหมครับ ถึงท่าทางการพูดการจามันดูห้าวก็เถอะ แต่มันก็หญิงแท้แหละพี่เลว หน้ามันหวานขนาดนั้น เพื่อนผมมีหลายคนชอบมัน แต่ก็นะ มันไม่สนใจใครเลย วันๆ สนใจแต่เครื่องยนต์ จนผมคิดว่ามันจะแต่งงานกับเครื่องยนต์แหละชาตินี้” สิงห์ได้ทีก็ขายน้องสาวให้รุ่นพี่ฟัง
“อือ...มึงก็พูดถึงน้องสาวให้กูฟังแบบนี้บ่อยๆ ไม่เบื่อรึไง กูรู้น่า ห้าเดือนกว่าที่น้องสาวมึงไปทำงานที่อู่กู กูพอเดาออกว่ารักอาชีพนี้มาก ขยันขันแข็ง เก่งกว่าผู้ชายอีกไอ้สิงห์” ความจริงเขาไม่ได้ชมให้อีกฝ่ายพอใจ แต่มันคือความจริง เห็นตัวเล็กๆ แบบนั้น แต่แตงไทยก็สู้งานไม่แพ้ช่างผู้ชายคนอื่นในอู่ แถมยังใส่ใจทุกงานที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบด้วย และขยันเรียนรู้งานจากหัวหน้าตลอด
“มันสู้ขาดใจถ้าเป็นงานช่างงานซ่อม ใจมันรักน่ะพี่เลว ว่าแต่มันไม่สร้างปัญหาอะไรให้ใช่ไหมครับ”
‘สร้างสิ ทำให้กูทรมานแทบทุกวันที่ได้มองหน้า แต่ตอนนี้กูสมหวังแล้ว แต่ก็ยังไม่สมใจเท่าไหร่ไอ้สิงห์’ เขาตอบรุ่นน้องในใจ ส่วนสิงห์ก็ไม่เข้าใจที่รุ่นพี่ไม่ตอบตนเองมีเพียงยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากให้ได้เห็น
“พี่เลวคิดอะไรอยู่ครับ” สิงห์เรียกอีกฝ่ายเมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบตนเอง
“ไม่มีอะไร”
“อ้อ...ว่าแต่ที่ผมถามล่ะครับ ไอ้แตงไม่ได้ไปสร้างปัญหาที่อู่ใช่ไหมครับ”
“ถ้ามีก็คงไม่ผ่านโปรจนได้เป็นพนักงานประจำที่อู่กูหรอกไอ้สิงห์ อืม...นึกได้ว่ามีธุระต่อ คงอยู่กินมื้อเที่ยงด้วยไม่ได้แล้วไอ้สิงห์ กูต้องไปแล้วว่ะ” เขาก้มมองนาฬิกาเห็นเวลาที่ใกล้เที่ยงก็เอ่ยขึ้น ที่จริงเขาไม่ได้อยากอยู่ทานข้าวที่บ้านเสริมบารมี แต่ที่พูดตกลงไปก่อนหน้าเพียงเพราะอยากแกล้งสาวห้าวเฉยๆ
“เอ้า! เหรอพี่ งั้นก็รีบไปเถอะครับ”
“อือ...ไปนะ ฝากลาคุณอาให้พี่ด้วยนะ พี่ต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยววันหลังกูจะแวะมาทานข้าวเย็นกับท่าน” เขาลุกขึ้นตบไหล่รุ่นน้องแล้วรีบสาวเท้าเดินออกไปจากห้อง ส่วนสิงห์ก็ตะโกนตอบรับคำสั่งแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบหนังสือในชั้นหนังสือมาอ่านระหว่างรอเด็กรับใช้มาตามไปทานมื้อเที่ยง