คฤหาสน์ฟอเรสต์
"การที่ป๊าตั้งใจพาเด็กผู้หญิงคนนี้เข้าบ้าน มันก็น่าจะเป็นคำตอบให้ผมได้แล้ว!" น้ำเสียงดุดันบ่งบอกความไม่พอใจจากฟอเรสต์ หลังได้เห็นหญิงสาวหน้าตาใสซื่อมีสิทธิ์เข้ามาอยู่ในบ้านของเขา ทำท่าทีไร้เดียงสาชะเง้อมองผ่านผนังกระจกกั้นห้อง
"ป๊าคุยเรื่องนี้กับเรามาหลายรอบแล้วนะ แล้วเด็กคนนี้ก็ไม่ได้มาสร้างความเสื่อมเสียอะไรในบ้านของเราด้วย" ฝ่ายเป็นบิดายังยืนยันหนักแน่น เพราะมีเหตุผลที่ท่านมีไม่อาจปริปากบอกลูกชายได้ในตอนนี้
"แต่การที่ม๊านอนป่วยติดเตียง อยู่ดีๆ ป๊าก็อยากเอาใครมาเลี้ยงดูงั้นเหรอ!"
"แล้วมันจะไปลำบากบ้านของเรายังไงฟอเรสต์! จะเลี้ยงดูใครสักอีกสิบคนยังได้เลย!"
"ที่ผ่านมาป๊าอาจจะมีเมียน้อยมาตลอดก็จริง แต่ครั้งนี้ถึงขั้นจะพาเข้าบ้านทั้งที่ม๊านอนป่วยอยู่ข้างบน!...มันเกินไป!" นัยน์ตาคู่คมสีน้ำตาลเข้มของชายสัญชาติตะวันตก บวกรับกับสันจมูกโด่งเพ่งมองหญิงสาวอย่างสมเพช
ที่ริอาจก้าวขาเข้ามาในครอบครัวคนอื่น เพราะหวังสุขสบายแค่เพียงเรื่องเดียว แต่กลายเป็นว่ากำลังทับถมความรู้สึกมารดาเขาทางอ้อม
"ป๊าก็บอกลูกไปแล้วไงฟอเรสต์! ให้หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว! ลูกจะเข้าใจยังไงก็ช่างเถอะ"
"จะให้ผมทนเห็นเด็กคนนี้ต้องเดินเข้าออกในบ้านหลังเดียวกัน มันน่ารังเกียจขนาดไหนป๊า!" มือใหญ่ร่ายล้อมด้วยเส้นเลือดแข็งขึง ยกชี้ตราหน้าตอนหญิงสาวข้างนอกมองเข้ามา
"ต่อให้ลูกจะโวยวายยังไง ป๊าก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด แล้วก็เงียบสักที ถ้าใครมาได้ยินมันจะไปถึงหูม๊าเราอีก!" ฟรองซัวส์ทิ้งกายบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งอย่างเหนื่อยใจ ยกมือกุมขมับกับท่าทีของลูกชาย
"งั้นผมจะเตือนอะไรไว้สักอย่าง..."
"....." ฝ่ายเป็นพ่อรีบเหลียวมองรู้สึกกังวัลในทันที
"ถ้าเด็กคนนั้นยังหน้าด้านอยู่ได้ ก็อย่าหาว่าผมใจร้ายแล้วกัน!" สิ้นน้ำเสียงดุดันจากฟอเรสต์ เขาทิ้งให้บิดาอยู่ในห้องเพียงลำพัง
รีบเดินปรี่ตรงไปที่ด้านหลังหญิงสาวบนโซฟา สวมชุดกระโปรงตีตราของบ้านเด็กกำพร้าแห่งนึง
"มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอกนะ ฉันขอเตือนไว้ก่อน" เสียงเข้มก่นขู่ใกล้กกหูบาง จะยกมือใหญ่ข้างนึงตบไหล่มนแต่ต้องชะงักไว้ เพราะรู้สึกขยะแขยงเกินจะสัมผัส
"คะคุณพูดเรื่องอะไรคะ?" ปลาวาฬเอ่ยถามเสียงอ่อน รู้สึกกลัวกับท่าทีคนในครอบครัว ที่ไปขอรับเธอมาอุปการะดูแล
หลังอายุพ้นนิติภาวะต้องออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ซึ่งพอดีกับที่เธอสอบติดคณะแพทย์มหาวิทยาลัยดังได้
"หน้าตาอย่างเธอมันหลอกฉันไม่ได้หรอก!"
"ปลาวาฬไม่เข้าใจ" ปลายผมดกสีทองอ่อนปัดผ่านแก้มเนียน ราวกับสัญชาตญาณบางอย่างให้นึกกลัว
"พ่อว่าลูกไปทำงานก่อนเถอะฟอเรสต์ อย่าทำอะไรให้มันแย่ตอนนี้เลย" ฟรองซัวส์เดินตามลูกชายออกมา เห็นได้ชัดว่าควรเป็นท่านต้องจัดการให้เขาอยู่ห่างจากเธอ
"มันคงไม่มีจะแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ แต่บอกไว้ก่อน..เรายังต้องเจอกันอีกเยอะ!"
"อย่าไปสนใจคำพูดพี่เขานะปลาวาฬ คนเคยเป็นลูกคนเดียวหน่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยก็เข้าใจเอง" น้ำเสียงอบอุ่นบอก หลังลูกชายทิ้งคำพูดได้น่าตกใจสำหรับเด็กสาว กำลังจะออกเผชิญโลกภายนอก
"...ค่ะ" ดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนเหลียวมองตามหลังร่างกำยำอย่างกล้าๆ กลัวๆ
@ สนามมวยแห่งนึง
ตุ๊บ! ผลั๊วะ!
"วันนี้ครูอารมณ์ไหนว่ะ ต่อยตั้งแต่เช้ายังไม่หยุดพักเลยนะ" นักมวยฝึกหัดคนนึงพูดขึ้น หลังพากันยืนดูฟอเรสต์ระเบิดอารมณ์ ปล่อยหมัดหนักใส่กระสอบทรายครั้งแล้วครั้งเล่า
"หรือว่าครูอยากได้คู่ชกว่ะ?" เจแปนหนึ่งในทีมฝึกหัดพูดอย่างสงสัย
"งั้นมึงก็ไปลองคนแรกดีไหม?" คราวนี้คือเสียงมูอัส นักมวยดีกรีแชมป์โลก นับเป็นเพื่อนสนิทคนนึงของฟอเรสต์
"อย่าดีกว่าครับ ยังไม่อยากตายตอนนี้"
"กูนึกว่าจะได้เชียร์มวยอยู่แล้วเชียว" คนบอกยกมือไล่พวกรุ่นน้องแยกย้าย ส่วนเขาเดินตรงไปทักทายด้านบนสังเวียน
"สนใจอยากออกกำลังกาย?" น้ำเสียงเข้มถามขึ้นทันที เพียงแค่ได้ยินฝีเท้าเดินก็รู้ว่าใคร
ร่างกำยำรีบดึงเอาผ้าขนหนูบนราวกั้นมาซับเม็ดเหงื่อ แม้สวมเพียงแค่กางเกงตัวเดียวยังรู้สึกร้อนระอุอยู่
"เปลี่ยนไปแฮงค์เอาท์กับกูดีกว่าป่ะคืนนี้ ไอคาเรนก็รอเจอมึงอยู่นะ"
"ได้สิ กูก็อยากหาอะไรทำก่อนกลับบ้านพอดี" มุมปากหยักสีเข้มยกยิ้มร้าย ยิ่งกว่ามีแผนการณ์อะไรในหัวไว้สำหรับกำจัดต้นเหตุเรื่องเมื่อเช้าได้
...............................