ครั้งนี้พรรับฟ้ายอมที่จะรับนัดเขตตะวันเสียที
"มันถึงเวลาแล้ว" พรรับฟ้าพูดกับตัวเองเมื่อเห็นข้อความไลน์ที่เขตตะวันส่งมาชวนเธอออกไปเดทอีกแล้ว
"สวัสดีครับคุณฟ้า หวังว่าคราวนี้คงไม่ใจร้ายปฏิเสธผมอีกนะครับ อยากเจอคุณจริงๆ" เขตตะวันดักทาง
"ได้ค่ะมารับฟ้าที่บ้านนะคะ"เธอตอบรับ
เมื่อเขตตะวันมาถึงบ้านพรรับฟ้า
"สวัสดีครับน้านภาวันนี้ผมนัดกับคุณฟ้าไว้ครับ ขออนุญาตพาไปทานข้าวดูหนังนะครับ รับรองไม่ดึกมากครับ" เขตตะวันรู้จักเข้าตามตรอกออกตามประตูให้ผู้ใหญ่ว่างใจ
"ได้สิจ๊ะไปกับตะวันน้าไม่ห่วงมากหรอก"
"มาแล้วค่ะ" พรรับฟ้าเดินลงมาที่ห้องรับแขกเจอกับเขตตะวันที่นั่งรอพอดี
เขตตะวันมองตาค้างกับเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ชุดกางเกงรัดรูปดูเปรี้ยวตามสมัย และดูเธอไม่อายที่จะโชว์สัดส่วนและหน้าอกหน้าใจเลย
"วันนี้คุณฟ้าสวยเป็นพิเศษเลยนะครับ" เขตตะวันออกปากชม
"แล้วทุกทีไม่เคยสวยเลยหรือคะ" เธอยอกย้อนแกมหยอกเย้า
"สวยครับแต่วันนี้พิเศษ"
"ก็ไปกับคนพิเศษนี่คะ" เธอหยอดเขาบ้าง
หนุ่มสาวมีท่าทางสนใจกันไม่น้อยทำเอานภาปลื้มที่เรือน่าจะล่มในหนองแน่นอน
"ขับรถดีๆนะพ่อตะวัน" ปริมบอก
"ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะดุแลคุณฟ้าเป็นอย่างดี"
................................................................................................................
เขตตะวันพาพรรับฟ้าไปดูหนังเสร็จแล้วมาต่อมื้อค่ำที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรูเขาจองโต๊ะไว้บรรยากาศใต้แสงเทียนดูโรแมนติคมาก
เมื่อทั้งสองคนทานอาหารไปได้สักพักก็มีนักดนตรีมาสีไวโอลินเพิ่มอรรถรสในการดินเนอร์ครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี และเขาก็ได้เซอร์ไพรส์เธอด้วยช่อดอกลิลลี่สีขาว
มันดูน่าจะเป็นตัวแทนขอความรักที่บริสุทธิ์แต่ทว่ามันดูไม่บริสุทธิ์ใจสำหรับพรรับฟ้า
"ถ้านายไม่เป็นคนสารเลวรักสนุกฉันก็คงจะหลงใหลไปกับที่ที่นายทำอยู่หรอกนะเขตตะวัน เสียดายความรักจากคนอย่างนายมันไม่มีอยู่จริง" พรรับฟ้าคิดในใจ
"ชอบไหมครับคุณฟ้า" เขตตะวันถามและมองเธออย่างหลงใหล สายตาของเขาที่มองมายังพรรับฟ้าไม่เหมือนสายตาที่เคยมองฟ้าขวัญหรือผู้หญิงคนอื่นๆ กับคนอื่นคือความอยากได้แต่กับคนนี้มันคือการอยากได้หัวใจของเธอ
"ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะ"
"ถ้าคุณฟ้ายังไม่เบื่อเราไปนั่งดื่มต่อสักที่ดีไหมครับผมอยากชวนคุณฟ้าเต้นรำ"
"ได้สิคะ ฟ้ามีเวลาให้คุณทั้งคืน"
คำตอบของเธอทำให้เขตตะวันใจเต้นไม่น้อย
ทั้งสองมาต่อที่ผับใจกลางกรุง เมื่อจัดแจงได้ที่นั่งสั่งเครื่องดื่มกันแล้วต่างก็ชวนกันคุยสนุกตามฤทธิ์แอลกอฮอล์เล็กน้อย ทั้งเขาและเธอดื่มแค่ค็อกเทลไม่ดื่มเครื่องดื่มหนัก
พรรับฟ้าชวนเขาคุยเพื่อทำความรู้จักกันมากขึ้นและรู้ความเป็นตัวเขามากขึ้น แต่เขตตะวันไม่ค่อยได้รู้จักเธอมากนักเพราะเธอไม่มีรายละเอียดอะไรกับตัวพรรับฟ้ามากนัก ยิ่งเล่ายิ่งฟังดูคล้ายฟ้าขวัญเสียมากกว่า
"คุณตะวันไม่มีแฟนหรือคะ" เธอถามเขาตรงๆ
"โสดสนิทครับ" เขายืนยัน
"โสดเพราะไปเรื่อยๆไม่ลงหลักปักฐานกับใครหรือเปล่าคะ น่าจะมีสาวอกหักเพราะคุณเยอะอยู่นะคะ"
"พูดอะไรแบบนั้นครับผมไม่ได้เจ้าชู้ขนาดนั้นหรอก"
"แต่ก็มีคนตายเพราะคุณ" เธอพูดเสียงเบา
"อะไรนะครับเสียงเพลงดังได้ยินไม่ค่อยถนัด"
"ไม่มีอะไรค่ะ เราออกไปเต้นรำกันดีกว่า" เธอชวนเขาเมื่อดีเจเปิดเพลงช้าซึ้ง
แรกๆก็เขตตะวันแค่โอบเอวเธอเล็กน้อยแล้วเต้นเพราะยังเว้นระยะให้เธออยู่เดี๋ยวจะตกใจว่าเข้าจู่โจม แต่เป็นพรรับฟ้าเองที่โน้มคอเขาเข้ามากอดด้วยสองมือ สักพักก็ค่อยซบที่ไหล่เขาแล้วค่อยๆย้ำเท้าไปตามจังหวะเพลงเรื่อยๆ ทำให้เขตตะวันรู้สึกว่าเธอเองก็คงมีใจให้เขาอยู่ไม่น้อย เธอมีอะไรหลายอย่างที่ดึงดูดเขาทำให้เขาไม่คิดจะโยนเธอเป็นของเล่นเหมือนคนอื่นๆที่เขาทำมา
เพลงผ่านไปเรื่อยๆเธอก็กอดคอเขาแน่นขึ้นแล้วจ้องตา แววตาที่มีความหมายทำให้เขตตะวันเคลิบเคลิ้ม
"รักฟ้านานๆนะคะ" เธอพูดพร้อมเขย่งตัวขึ้นไปจูบที่แก้มของเขา แต่พอเขาจะจูบกลับบ้างเธอกลับเบี่ยงตัวหลบ
"จบเพลงนี้แล้วกลับกันดีกว่าค่ะ" เธอชวนกลับทำให้ฝันเขาสลายกลางทาง
....................................................................................................................
หลังจากเดทแรกของเขตตะวันและพรรับฟ้าผ่านไป จากนั้นก็เริ่มมีครั้งที่ สอง สาม สี่ ต่อมาเรื่อยๆ สร้างความสุขให้กับเขตตะวันมาก จนมีอยู่วันหนึ่งที่ทำให้เขาเห็นอะไรในตัวเธอมากขึ้นเห็นมากกว่าความสวยที่เธอมี
เขตตะวันพาพรรับฟ้าไปทานอาหาร ดูหนังตามปกติที่เคยพาไปแต่วันนี้เธอขอแวะไปถวายสังฆทานที่วัดและมาต่อที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าสาเหตุก็เพราะว่าเธอฝันว่า ธิดาแม่ของฟ้าขวัญทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลถึงลูกสาวซึ่งก็คือเธอที่อยู่ในร่างของพรรับฟ้า แต่แปลกที่เธอรู้สึกอิ่มเอมในบุญนั้นจริงๆ จึงทำให้เธอคิดได้ว่าเธอยังไม่เคยอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้าของร่างกายที่เธอใช้อยู่นี้เลย ไม่รู้ว่าป่านนี้จิตวิญญาณของเธอยังอยู่หรือไม่