“กับข้าวมื้อนี้อร่อยมากเลย ว่าไหมครับคนสวย” เอ่ยพลางตักข้าวเข้าปากตัวเอง พร้อมตักอาหารให้คนตัวเล็ก แม้ว่าเธอจะเขี่ยออกข้างจานแต่ก็ยังจะหน้าด้านตักให้
“อร่อยกับผีน่ะสิ” หล่อนตอบพลางตักคำข้าวเข้าปากเหมือนกัน
“ผีอะไรจะหล่อจะสวยขนาดนี้ครับ ว่าไหม ถ้าเป็นผีก็คงเป็นผีนางฟ้ากับผีเทพบุตรแน่ ๆ เลย หึหึ”
นภสินธุ์ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองนั้นเอ่ยคำหวานเกี้ยวสาวเจ้าตรงหน้าไม่มีหยุด ตั้งแต่เป็นหนุ่มมา ชายหนุ่มไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้ เพราะที่ผ่านมา การทำแบบนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ตอนนี้เห็นจะไม่ไร้สาระเสียแล้วสิ จากคนที่ไม่เคยทำตัวไร้สาระกลับมาทำแบบนี้ได้ แสดงว่าเขานั้นเริ่มจริงจังแล้ว ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ว่าตัวเองนั้นหลงลืมความเป็นตัวเองที่ผ่านมา
“เพลียจิต!"
“น่ารักจัง”
เอ่ยเสียงนุ่มมองคนตัวเล็กด้วยความหมายหลากหลาย บางครั้งหล่อนก็ดูเป็นผู้ใหญ่ บางครั้งก็ดูเหมือนเด็กสาวแรกแย้ม ใบหน้าที่แดงระเรื่อของหล่อนแดงเพราะความเขินอายหรือเพราะความโกรธกันแน่หนา... หล่อนเงียบไม่ต่อความยาวสาวความยืดอีก ยิ่งพูดก็ยิ่งยาว หล่อนจึงเลือกที่จะเงียบแล้วปล่อยให้คุณหมอช่างพูดพูดคนเดียว แต่แปลก ทำไมหัวใจหล่อนต้องเต้นแรงผิดจังหวะด้วย ร้อนหรือว่าตื่นเต้น หรือว่าจะหวั่นไหวไปกับคำพูดกะล่อนของชายตรงหน้ากันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ยังไงเสีย ครองโสดมาจนอายุขนาดนี้แล้ว จะมาหลงเล่ห์กลของผู้ชายกะล่อนแบบนภสินธุ์มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ...ต้องตา
“น่ารักจัง”
เอ่ยเสียงนุ่มมองคนตัวเล็กด้วยความหมายหลากหลาย บางครั้งหล่อนก็ดูเป็นผู้ใหญ่ บางครั้งก็ดูเหมือนเด็กสาวแรกแย้ม ใบหน้าที่แดงระเรื่อของหล่อนแดงเพราะความเขินอายหรือเพราะความโกรธกันแน่หนา...
หล่อนเงียบไม่ต่อความยาวสาวความยืดอีก ยิ่งพูดก็ยิ่งยาว หล่อนจึงเลือกที่จะเงียบแล้วปล่อยให้คุณหมอช่างพูดพูดคนเดียว แต่แปลก ทำไมหัวใจหล่อนต้องเต้นแรงผิดจังหวะด้วย ร้อนหรือว่าตื่นเต้น หรือว่าจะหวั่นไหวไปกับคำพูดกะล่อนของชายตรงหน้ากันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ยังไงเสีย ครองโสดมาจนอายุขนาดนี้แล้ว จะมาหลงเล่ห์กลของผู้ชายกะล่อนแบบนภสินธุ์มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ...ต้องตา
“ทานสิครับ ทานเสร็จ เราจะได้คุยเรื่องงานของเรา และผมจะพาคุณไปตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วย ส่วนเชื้อราผมจะรักษาให้หายขาดแน่นอนครับ”
หมอหนุ่มเอ่ยพลางตักอาหารเข้าปาก และตักกับข้าวใส่จานให้คนตัวเล็กอีก แม้ว่าหล่อนจะยังไม่ได้ตักเข้าปากสักคำก็เถอะ แต่ชายหนุ่มอยากดูแลเทกแคร์คนตัวเล็ก อยากเห็นความสุข เห็นยิ้มของเธอ แม้ว่าตอนนี้ต้องตาจะยังต่อต้าน แต่นภสินธุ์เชื่อด้วยชั้นเชิงเล่ห์เหลี่ยมของเขานั้นจะทำให้เจ้าหล่อนโอนอ่อน ไหวเอนตามแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ๆ นี้แหละ หล่อนต้องตกปากรับคำรักของเขาแน่แท้เลย
“ขอบคุณค่ะ” ขอบคุณเขาที่เทกแคร์ แม้ไม่ต้องการก็เถอะ แต่มันเป็นมารยาทที่ควรจะพูดออกมา เธอจึงรีบก้มหน้าก้มตาทานข้าวให้อิ่ม แล้วจะได้รีบไปทำธุระที่รออยู่อีกมากมาย
“ทานเยอะ ๆ นะแม่ของลูกผม”
ต้องตาจ้องมองคนตัวโตตาดุทันที เธอไม่ชอบที่เขาพูดอะไรแบบนี้ด้วย แต่ห้ามแล้วชายหนุ่มก็ไม่ฟัง จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
"เฮ้อ! เชิญคุณเถอะ อยากพูด อยากทึกทักอะไรก็เชิญแต่ใจคุณเถอะค่ะ แต่ตอนนี้รีบกินแล้วรีบไปทำธุระที่เหลือของเราเถอะค่ะ ดิฉันต้องกลับไปรายงานผู้การที่แบงก์อีกนะคะคุณนภสินธุ์”
“ผมจะอธิบายให้ผู้การคุณฟังเอง เพราะวันนี้ผมตั้งใจจะพาคุณไปตรวจร่างกายแบบละเอียด เตรียมตัวจะท้องลูกของเราด้วยครับ” คนหน้ามึนเอ่ย แล้วตักข้าวคำโต ๆ ใส่ปากอีกคำ
คนบ้า
*!
ฉันบอกเมื่อไรว่าจะเป็นแม่ของลูกคุณ คนผีทะเล
!
คนหน้าไม่อาย
!*ค่อนขอดชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความหงุดหงิด
“ขมวดคิ้วแบบนี้แสดงว่าคิดชื่อลูกเราอยู่ใช่ไหมครับ แต่ก่อนจะคิดชื่อลูก เราไปทำให้เขาเกิดกันดีกว่าครับ” ทุกอิริยาบถของต้องตาอยู่ในการจับตาของเขาตลอดเวลา และตอนนี้ก็เช่นกัน
“บ้า! กินเถอะค่ะ เราจะได้ไปโรงพยาบาลต่อ ฉันไม่ได้ว่างพอมาต่อปากต่อคำ เล่นลิ้นกับคุณทั้งวันนะ”
“เอ้า! ผมไปเล่นลิ้นคุณตอนไหนครับ ผมยังไม่ได้ไปจูบปากกอดเกี่ยวดึงลิ้นคุณเลยนะ และเท่าที่จำได้ เรายังไม่เคยจูบกัน” หมอหนุ่มเอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก
“ฉันจะกลับ” ว่าพลางดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกระเป๋า
“สิบล้าน” นภสินธุ์เอ่ยลอย ๆ ขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กจะหนีกลับ
“โธ่เว้ย!" ต้องตาร้องออกมาด้วยความหงุดหงิดพร้อมทิ้งกระเป๋าของตัวเองลง ทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ตัวเดิมแรง ๆ อย่างคนจำยอม