บทที่ 5

1165 Words
อิงฟ้ามองตามรถสปอร์ตราคาแพงที่แล่นออกจากหน้าบ้านของเธออย่างรวดเร็ว จนกระทั่งลับสายตาไปแล้ว จึงยอมเดินเข้าไปในตัวบ้าน ใบหน้างามแย้มยิ้มหวาน ดวงตาคู่สวยเปล่งประกาย ขณะนึกถึงเทพบุตรที่เพิ่งจากไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา หญิงสาวเทิดทูนให้รามินเป็นพระเอกขี่ม้าขาว ที่เข้ามาช่วยเธอก่อนจะถูกคนชั่วเหล่านั้นทำร้ายไปมากกว่านี้ นับตั้งแต่สูญเสียบิดาไป เพิ่งมีรามินเป็นผู้ชายคนแรกที่ปกป้องเธอ และปฏิบัติต่อเธอด้วยกริยานุ่มนวลอ่อนโยน จึงไม่แปลกที่หัวใจดวงน้อยจะตกหลุมรัก สวามิภักดิ์ให้กับรามิน ทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก “น้องอิง ใครมาส่งน้องอิงหรือลูก ใช่กรินหรือเปล่าจ๊ะ แล้วรถของน้องอิงหายไปไหน” ลลิน อดีตนางเอกชื่อดังของวงการบันเทิงไทยในวัยล่วงเข้าสี่สิบปีตอนปลาย ซึ่งยังคงความสวยไม่สร่าง ได้เอ่ยถามในทันทีที่เห็นร่างบอบบางของลูกสาวเดินตรงเข้ามาในบ้าน นางได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน พอมองออกมาจากหน้าต่างห้องนอน ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าใครมาส่งลูกสาวของเธอ ระยะทางจากห้องนอนมายังประตูรั้วหน้าบ้านค่อนข้างไกล ทำให้นางมองเห็นคนมาส่งลูกสาวไม่ชัด แต่กระนั้นนางก็มั่นใจว่าไม่ใช่กรินที่มาส่งอิงฟ้า และที่ทำให้นางสงสัยมากที่สุดคือรถยนต์ของลูกสายหายไปไหน รอยยิ้มหวานที่ยังคงประดับอยู่บนใบหน้างามในก่อนหน้านี้ มีอันต้องจากหายไปในทันที เมื่อเจอกับน้ำเสียงดุๆ ของมารดาที่เอ่ยถามรัวเป็นชุด “คุณแม่เห็นด้วยหรือคะ ว่าใครมาส่งน้องอิง” ขณะเอ่ยถามมารดา อิงฟ้าก็เดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว และนั่นทำให้ผู้เป็นมารดายังไม่เห็นรอยพกช้ำจากการถูกทำร้าย “แม่เห็นไม่ชัดว่าใครมาส่งน้องอิง แต่แม่มั่นใจว่าไม่ใช่กริน บอกแม่มาว่าน้องอิงคบกับใครอยู่ ใครมาส่งน้องอิง แล้วไปงานเลี้ยงในวันนี้น้องอิงทำตัวเหลวไหลจนขับรถกลับบ้านไม่ได้ใช่ไหม” ลลินเดินตามลูกสาวมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกัน แต่มองเห็นหน้าลูกสาวไม่ชัดนัก เพราะอีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้างุดมองมือเล็กของตัวเอง อิงฟ้าถอนหายใจยาวกับน้ำเสียงดุห้วนของมารดา ไม่อยากบอกเรื่องที่ตนเองถูกทำร้ายให้มารดาทราบ เพราะไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง แต่ก็คงปิดบังท่านไม่ได้แล้ว ใบหน้างามค่อยๆ เงยขึ้นมองสบตากับมารดา กำลังจะเอ่ยบอกความจริงกับท่าน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดสักที “คุณแม่คะ...” “น้องอิง หน้าไปโดนอะไรมาลูก ทำไมเป็นรอยแดงช้ำ ตรงมุมปากก็บวมด้วย” ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามเสียงหลง เบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าของลูกสาวชัดๆ พร้อมกันนั้นก็ถลามาทรุดตัวลงนั่งชิดกับร่างบอบบาง เอื้อมมือไปจับใบหน้างามของลูกสาว เพื่อสำรวจว่าถูกมีรอยบวมช้ำไปมากกว่านี้หรือเปล่า อิงฟ้าจับมือมารดามากุมไว้ ก่อนจะเอ่ยบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา “คุณแม่คะ น้องอิงถูกคนร้ายขับรถปาดหน้าตอนจะกลับบ้าน พวกมันลงมาทำร้ายน้องอิง ตบหน้าน้องอิง และกำลังจะอุ้มไปขึ้นรถของพวกมัน แต่โชคดี คุณรามินมาช่วยน้องอิงไว้ก่อนค่ะ” แม้ลูกสาวบอกว่ามีพลเมืองดีมาช่วยไว้ทัน กระนั้นลลินก็ยังคงเบิกตากว้าง เอ่ยถามซ้ำด้วยความตกใจ “น้องอิงเป็นยังไงบ้าง ถูกพวกมันทำร้ายตรงไหน น้องอิงเจ็บมากไหมลูก เดี๋ยวแม่จะพาน้องอิงไปหาหมอนะลูก” อิงฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ เอ่ยตอบให้มารดาสบายใจ “น้องอิงแค่ระบมตามตัวนิดหน่อยค่ะ พวกมันตบหน้าน้องอิง ไม่ได้ทำร้ายไปมากกว่านี้ เพราะมีคนมาช่วยน้องอิงไว้ได้ทันค่ะ” “โธ่...น้องอิงของแม่ ขวัญเอ๋ย ขวัญมา” ลลินเอ่ยปลอบประโลมเรียกขวัญ กอดร่างบอบบางของลูกสาวไว้แน่น รู้ว่าลูกสาวคงตกใจหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ ขณะถูกรุมทำร้าย อิงฟ้าซบหน้าลงกับอกอบอุ่นของมารดา ก่อนจะผละออก เอ่ยย้ำให้มารดารู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก “น้องอิงไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะคุณแม่” “คนที่มาส่งน้องอิงเป็นคนช่วยน้องอิงไว้ใช่ไหมลูก” ลลินเอ่ยถามต่อ รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ออกไปรับลูกสาว ตอนได้ยินเสียงรถยนต์จอดหน้าบ้าน ไม่เช่นนั้นนางคงได้เห็นหน้าคนที่ช่วยลูกสาวของนางไว้ “ค่ะ คุณแม่ นอกจากช่วยน้องอิงแล้ว เขาช่วยทำแผลเช็ดคราบเลือดให้น้องอิงด้วย ส่วนรถยนต์ของน้องอิง เขาบอกว่าจะให้ลูกน้องขับมาส่งให้พรุ่งนี้ค่ะ” อิงฟ้าพยักหน้ารับ น้ำเสียงที่เอ่ยถึงรามินเต็มไปด้วยความชื่นชม ดวงตาเป็นประกายแห่งรักทุกครั้งที่พูดถึงวีรบุรุษผู้หล่อเหลาคนนี้ “แม่อยากขอบคุณคนที่ช่วยน้องอิง ทำไมน้องอิงไม่เชิญเขาเข้ามาในบ้านของเราก่อน น้องอิงมีเบอร์โทรศัพท์ หรือรู้ที่อยู่ของเขาไหมลูก แม่จะได้ไปขอบคุณเขาที่ช่วยลูกสาวของแม่ให้ปลอดภัยจากคนชั่ว” ลลินอยากทำเช่นนั้นจริงๆ อยากหากระเช้าผลไม้ หรือเครื่องดื่มบำรุงร่างกายสักกระเช้าไปไหว้ขอบคุณพลเมืองดีเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของเขา อิงฟ้าตีหน้าเศร้า เอ่ยตอบมารดาเสียงแผ่วเบาอย่างแสนเสียดาย “น้องอิงลืมถามเขาค่ะคุณแม่” “เบอร์โทรศัพท์เขา น้องอิงก็ไม่ได้ถามไว้หรือลูก” “ไม่ค่ะ คุณแม่” อิงฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ “น้องอิงน่าจะถามเบอร์โทรศัพท์ไว้ก็ยังดี” ผู้เป็นมารดาเอ่ยบอกแกมตำหนิลูกสาวไปในตัว อิงฟ้าพยักหน้ารับในความสะเพร่าของตนเอง “นั่นนะสิคะคุณแม่ น้องอิงน่าจะขอเบอร์โทรเขาไว้ น้องอิงรู้แค่ชื่อของเขา ไม่รู้ว่าน้องอิงจะตามหาเขาพบไหม น้องอิงอยากไปขอบคุณเขาเหมือนกันค่ะ” “เสียดายที่เราไม่มีโอกาสไปขอบคุณความมีน้ำใจของเขา เดี๋ยวนี้คนดีๆ หายาก คงไม่มีใครยอมเสี่ยงชีวิตมาช่วยเราในยามวิกาลเช่นนี้” “ใช่ค่ะคุณแม่ น้องอิงถึงยกให้คุณรามินเป็นฮีโร่ของน้องอิง” น้ำเสียงที่เอ่ยถึงวีรบุรุษเต็มไปด้วยความเทิดทูน ใบหน้างามแย้มยิ้มหวาน ดวงตาเป็นประกายในทุกครั้งเมื่อนึกถึงรามิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD