-บทที่-3 เราเลิกกันเถอะ
“สารเลวทั้งสองคน ฮือ ๆ สาเจ็บ เจ็บมาก พี่ทำไมใจร้ายกับสานัก สาทำอะไรให้ถึงต้องทำแบบนี้กับสา ทำไมต้องทำร้ายหัวใจสายับเยินแบบนี้ด้วย ฮือ ๆ” วันวิสามองคนรักสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“คนดี พี่ขอโทษ” ชายหนุ่มไม่ขอแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เรื่องนี้เป็นเขาที่ผิด ถึงแม้ฐาปนีย์จะยั่วยวน แต่หากเขามั่นคงในความรักเพียงพอ เขาคงไม่ตกลงไปในหลุมกับดักนั้น คงไม่มีอะไรกับอีกคนจนเรื่องมันเลยเถิดมาแบบนี้
หากเขารักคู่หมั้นมากพอ เขาคงไม่มีอะไรกับฐาปนีย์ ทุก ๆ อย่างมันเป็นเพราะเขาทั้งนั้น เพราะเขาคนเดียว
“ในเมื่อพี่ไม่รักสาแล้ว เราก็เลิกกันเถอะนะคะ สารทนอยู่กับคนที่นอกใจสาไปมีอะไรกับคนอื่นไม่ได้ สาทำไม่ลง สากอดพี่ไม่ลง และสาก็ไม่ยอมให้พี่กอดด้วย มือพี่ ขยี้ขยำนีมาแล้ว ปากพี่ก็จูบนีมาแล้ว จะจูบปากหรือจูบตรงนั้น มันก็คือสิ่งชั่วร้าย นีทำใจไม่ได้” หญิงสาวร้องไห้อย่างน่าสงสาร
ได้ยินถ้อยคำบอกเลิก ปกรณ์ชาวาบ ปวดหนึบไปทั้งใจ เขาทำใจปล่อยเธอไปไม่ได้เลยจริง ๆ
“ไม่ พี่ไม่เลิก” ชายหนุ่มดันทุรัง
“ทำไมไม่เลิกกับสา ในเมื่อพี่กล้าหักหลังความรักของสา สารักพี่ ไม่เคยคิดนอกใจ ไม่เคยมองผู้ชายคนไหน ทุก ๆ วันสามีแต่พี่ แต่พี่ช่างกล้า กล้าทรยศหัวใจของสา ทางที่ดีเราเลิกกันเถอะ สาเหนื่อย สาเจ็บ พอกันทีความรักห่วย ๆ ของพี่ พี่เอาไปให้ยัยนีเลย สาไม่ต้องการ” หญิงสาวกล้ำกลืนฝืนทนความเจ็บปวด แต่น้ำตาเจ้ากรรมกลับไม่ยอมฟัง ยังคงประจานความอ่อนแอให้คนสมเพช
น้ำตาที่ไหลเอ่อราวกับน้ำป่าบาดลึกจิตใจของปกรณ์ เขาเลวมากจริง ๆ ที่ทำให้คนรักเสียใจขนาดนี้
“สา พี่ไม่เลิกนะสา พี่รักสา รักมาก พี่ผิด พี่มันเลว พี่หักห้ามใจไม่ได้ พี่ขอโทษ” ชายหนุ่มยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย ถึงจะสายเกินไปแล้วก็ตาม
เห็นความเจ็บปวดแสนสาหัสของคนรัก ชายหนุ่มก็เจ็บปวดใจไม่ต่างกัน แต่เขามันชั่ว เขานอกใจเธอ ทรยศหักหลังต่อความรักที่เธอมีให้ ใช้ความเหงาและความห่างเป็นข้ออ้างในการนอกใจ ใช้การเชื่อใจของคนรักทำลายความรักและความไว้วางใจจากแฟนสาวจนหมดสิ้น
หากเขาจะไปหาแฟนสาวย่อมทำได้อยู่แล้ว เพราะคอนโดของเธอก็อยู่กรุงเทพฯ แม้จะคนละเขต แต่ใช่ว่าจะไกลอ้อมโลก ต่อให้อีกคนไม่มีเวลาว่าง เขาก็ไปหาก็ได้ แต่ทว่า เขากลับถือโอกาสช่วงที่คนรักทำงานหนัก ไปผูกสัมพันธ์กับเพื่อนของแฟนแทน นี่เขาเป็นคนรักประสาอะไร แล้วสัญญากับเธอ ว่าจะรักและปกป้องตลอดไปเพื่ออะไร
การที่เขาห่างเรื่องอย่างว่ากับวันวิสา พอฐาปนีย์ยั่วยวน บวกกับกลิ่นกายใหม่ ๆ และลีลาบนเตียงดุเดือดถูกใจ มันก็ทำให้เขาหลงมัวเมา จนหลงลืมคนรัก กระทั่งลากยาวความสัมพันธ์นี้มานานเกือบปี
โดยลืมไปว่า หากคนรักรู้ความจริง จะเสียใจแค่ไหน และสิ่งที่เขาปกปิดมานาน มันก็มาถึงจนได้
อีกทั้งเขายังปากเสีย พูดถึงคนรักอย่างย่ามใจราวกับเป็นของตาย หากหญิงสาวรับรู้ว่าเขากับฐาปนีย์มีอะไรกัน เขาจะยินดีและมีความสุขที่แฟนสาวได้รู้ว่าเขาหลงและติดใจเพื่อนแฟนแค่ไหน นี่เขาพูดไปได้ยังไง ตัณหาราคะมันทำให้เขาเป็นถึงขนาดนี้เลยหรือไง
ทำไมเพิ่งมารู้ตัววันนี้ ทำไมถึงไม่รู้ตัวก่อนหน้านั้น เขาจะได้ตัดความสัมพันธ์กับฐาปนีย์ คนรักของเขาจะได้ไม่เสียใจ ทำไมเขาถึงเลวนัก
“ไหน ๆ สาก็รู้แล้ว พี่กรณ์ก็บอกสาไปสิคะ ว่าเรามีอะไรกันมาจะครบปีแล้ว เราเอากันทุกคืน คืนละหลายรอบ แถมบอกกับนีว่า สาเอาไม่มัน บอกไปสิคะพี่กรณ์” ฐาปนีย์บอกเสียงเยาะ ๆ ในที่สุด เธอก็ชนะวันวิสาสักที
“ฐาปนีย์ เธอหยุดพูดนะ” ชายหนุ่มตะคอกชู้รัก
“ทำไมคะ ไหนบอกกับนีว่าขาดนีไม่ได้ แต่พอมันมา ก็เปลี่ยนคำพูดใหม่หรือคะ นีไม่ยอมหรอก นีเอากับพี่ทุกคืน บางวันก็เอากันอยู่ในบริษัท ทุกคนต่างรับรู้ว่านีเป็นเมียพี่กรณ์ อย่าหวังว่านีจะยอมถอยง่าย ๆ”
เธอมองดูเพื่อนรักที่มีดีมากกว่าด้วยความชิงชัง ตลอดเวลาหลายสิบปีที่เธอเดินเคียงข้างกายวันวิสา เธอได้แต่เก็บความอิจฉาริษยาเอาไว้ในใจ ทั้งที่ความจริงแล้ว อยากจะบีบคอให้ตายไปหลายที
เกลียดใบหน้าสวยจัดนั่น เกลียดที่ผู้ชายเอาแต่สนใจมัน เกลียด เธอเกลียด! ยิ่งนานวันออร่าความโดดเด่นของวันวิสา ยิ่งทำให้เธอดูหม่นหมอง เหมือนคนไร้ค่า เธอสู้อีกคนไม่ได้แม้แต่น้อย ผู้ชายทุกคนจะหลงเสน่ห์วันวิสา แม้กระทั่งปกรณ์
แต่โดดเด่นกว่าแล้วยังไง ร่ำรวยกว่าแล้วยังไง ในเมื่อสุดท้ายแล้วนังวันวิสาก็พ่ายแพ้ให่แก่เธอจนได้ คู่หมั้นของมันยอมมีอะไรกับเธอจนหลงใหลติดใจมานานหลายเดือน ถึงจะเป็นเรื่องเซ็กส์ก็เถอะ
ทุกค่ำคืนปกรณ์ต้องมีอะไรกับเธอครั้งละสามถึงสี่รอบ หากเธอไม่มาหาเขาจะเป็นคนไปคอนโดเธอเอง คิดดูละกันว่ารักและหลงเธอแค่ไหน ทั้งอึด ทั้งทน เอาทั้งคืนไม่มีแผ่ว แถมยังรสจัดจ้าน จนอยากตะโกนให้นังเพื่อนรักรู้ใจแทบขาด อยากบอกกับมันว่า ผัวของมันแซ่บมากแค่ไหน คิดแล้วสะใจจริงๆ
“สา เธอรู้ไหม ว่าพี่กรณ์เขาแซ่บแค่ไหน เธอเคยถูกพี่กรณ์เอาทั้งคืนหรือเปล่า” ฐาปนีย์เยาะเย้ย
“ฉันบอกให้เธอหยุดไง” ปกรณ์ตะคอกหน้าดำคร่ำเครียด เขาแทบจะบีบคอชู้รักให้ตายคามือ
“ไม่หยุด เหอะ แกคงไม่รู้สินะ หอยของฉัน คู่หมั้นที่แกรักจะเป็นจะตายเขาก็เลียให้ฉัน นมฉันเขาทั้งดูดทั้งขยำ บอกกับฉันทุกคืนว่าติดใจเหลือเกิน แกอะ สู้ฉันไม่ได้สักนิด”
“พูดไม่ฟัง”
เพียะ!!
ปกรณ์ตบหน้าฐาปนีย์จนหน้าหัน
“พี่กรณ์ นี่พี่ตบหน้านีหรือคะ ทำไมคะ ทนฟังไม่ได้หรือไง พี่อย่าลืมสิ ว่าพี่พูดกับนีจริง ๆ พี่จะโกหกยัยสาหรือคะ”
“สามันโง่ โง่ที่ไม่เคยระแคะระคายเลยว่าถูกพี่นอกใจ เอาเป็นว่า เชิญอยู่ด้วยกันไปเถอะนะคะ สาจะหลีกทางให้ ส่วนนี่ แหวนหมั้น เอาคืนไปเลย สาไม่ต้องการของผู้ชายใจโลเลแบบพี่กรณ์อีกแล้ว” หญิงสาวถอนแหวนหมั้นแล้วปาใส่หน้าแฟนหนุ่มก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน
ถึงจะไร้สิ้นเรี่ยวแรง แต่ในเมื่อเธอมาเองได้ก็กลับเองได้ ไม่จำเป็นต้องง้อให้เสียศักดิ์ศรี ในเมื่อทุกอย่างมันสูญสิ้นแล้ว เธอจะอยู่ไปทำไม
ถึงจะเสียใจปางตายแต่เธอจะไม่ลดทอนคุณค่าของตัวเองเป็นอันขาด สิ่งที่เสียไปแล้วก็ช่างมันเถอะ ถือว่าทำให้มีประสบการณ์ล่ะกัน ต่อไปวันหน้าจะได้รู้ทันผู้ชายเลว ๆ แบบนี้
“สะ สา พี่ขอโทษ สาให้อภัยพี่เถอะนะ พี่สัญญาว่า ต่อจากนี้พี่จะไม่ทำให้สาเสียใจอีกแล้ว”