“SURPRISE!! (เซอร์ไพรส์!!)”
“เป็นบ้าหรือไง!?” ความขี้เล่นของเขากำลังทำฉันเป็นบ้า
“ใช่ ฮ่าๆ” ฉันผลักไหล่เขาให้หลีก แม้ว่าก่อนหน้านี้เสียงที่เขาทำฟังดูไม่ต่างจากตอนที่เขาเป็นเกอร์ก็ตาม
ระหว่างเป็น JOKER กับเป็นเกอร์ ไม่ว่าจะความหนักเบาของเสียง หรือความเข้ม หนักแน่น บวกรวมกับภาพลักษณะและบุคลิกที่เหมือนพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นคนละคนกัน ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังพอแยกออก...
“พอเป็นฉันเธอก็ผลักไสไล่ส่ง...” แม้จะหันหลังเดินออกมาแล้ว แต่เขาก็ยังจงใจส่งเสียงเพื่อรั้งให้กลับไปต่อปากต่อคำด้วย
“ละ แล้วถ้าเป็นเราล่ะ...สวยจะผลักเราหรือเปล่า” ใช้สองเสียงราวกับจะปั่นประสาทความคิด แต่นับว่ามันคือความคิดที่โง่สุดๆ ยิ่งเขาทำมันก็ยิ่งตอกย้ำความจริงชัดมากยิ่งขึ้นว่าตัวตนของเขาเป็นใคร
“พูดด้วย ไม่พูดด้วย...” ยิ่งเขายังทำเสียงสลับกันอย่างต่อเนื่องแบบนี้ฉันยิ่งหลุดยิ้มด้วยความชอบใจ
เอาสิ JOKER แสดงตัวตนออกมาให้เห็นมากกว่านี้...
“สวยจะทิ้งเราไปจริงๆ น่ะเหรอ?”
แต่ไม่นานมันก็จบลง...
กึก!
“เฮ้ย! ตรงนั้นนั่นใครอ่ะ!!” เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้นจากด้านข้างตัวตึกมาจากบริเวณบ่อน้ำ
สมองสั่งให้หน้าหันขวับไปยังต้นเสียงพร้อมเพรียงกับปีศาจร้ายซึ่งตกเป็นเป้าสายตาก่อนใคร
“เฮ้ย! พี่ตี๋ผมเจอ JOKER มันอยู่กับผู้หญิง ใครไม่รู้พี่”
“หึๆ ฮ่ะๆ....” แทนที่เขาจะตกใจต่อการถูกพบเจอจากคนแปลกหน้า เปล่าเลย เขากลับหัวเราะเยาะ พลางกางแขนออกอย่างท้าทาย “COME ON!”
เขามันบ้า!
“Welcome to my life…อะ”
ฟึ่บ! หมับ!
เสียงตะโกนประกาศตัวอย่างท้าทายสะดุดในช่วงท้ายประโยค เมื่อมือข้างหนึ่งของเขาถูกคว้าไว้แล้วกระชากอย่างแรง
“อย่าบ้าให้มันมากนักเลย…” ฉันว่าเขาโดยไม่หันไปมอง
สองเท้าเร่งจ้ำเดินไวเพื่อฉุดตัวเขาหนีไปจากการถูกตามล่าตัว ก่อนเริ่มเปลี่ยนเป็นวิ่งเมื่อบุคคลซึ่งถูกลากตัวมานั้นให้ความร่วมมือยอมโอนเอนมาตามแรง
ความเงียบและความสงบสุขเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากการถูกเจอตัว เสียงฝีเท้าหนักของผู้คนดังก้องไปทั่วบริเวณท่ามกลางความมืด พวกเขาพกไฟฉายให้แสงสว่าง ในขณะที่ฉันกับปีศาจตัวตลกไม่มี
ไม่ว่าจะวิ่งวนพาตัวเขาหลบซ่อนไปทางไหน ที่ตรงนั้นก็คล้ายกับถูกดักไปหมด
“หาตัวมันให้เจอ! ก่อนที่มันจะทำร้ายผู้หญิงคนนั้นอีก!!” ฉันได้ยินเสียงสั่งของพี่ตี๋ดังก้องไปทั่วใต้หอพักและเสียงฝีเท้านับสิบคู่ที่วิ่งผ่านเราสองคน ขณะก้มๆ เงยๆ หลบซ่อนตัวไปตามช่องว่างระหว่างโต๊ะ
ครั้งแรกของการถูกไล่ล่าและการหลบหนี ทำฉันตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนดูหนังสยองขวัญเรื่องโปรด ฉันจับมือ JOKER แน่นมาก เพื่อคุมไม่ให้เขาคิดทำตัวแผลงๆ ประกาศศักดาท้าคนคนพวกนั้นอีก
ตึก! ตึก! ตึก!
เมื่อเสียงฝีเท้าของคำกลุ่มหนึ่งวิ่งผ่านเลยไป ฉันจึงอาศัยจังหวะนั้นดึงตัว JOKER ตรงไปยังล็อกเกอร์เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ใกล้ที่สุด และพาตัวเราทั้งคู่เขาไปหลบอยู่ภายในจนกว่าสถานการณ์ด้านนอกจะสงบลง
ภายในพื้นที่คับแคบของล็อกเกอร์ทำเราต้องเบียดอัดกันอยู่ภายใน โชคดีที่ฉันตัวเล็กและเขาเองก็ไม่ได้ตัวใหญ่เกินพื้นที่เลยทำให้ระยะห่างระหว่างเรายังพอเหลือพื้นที่ให้ขยับตัวได้
ฉันถอนหายใจเมื่อรู้สึกว่าเราปลอดภัย แต่อีกฝ่ายดันหลุดหัวเราะหึๆ ในลำคอ ความไม่กลัวอะไรเลยแถมยังเห็นเป็นเรื่องสนุกตลอดเวลาของเขา เอาเข้าจริงมันก็น่าโมโหนะ
“นายหัวเราะอะไร?”
“หัวเราะเธอ” ฉันกลอกตาและพยายามมองหน้าเขาผ่านความมือในช่องล็อกเกอร์ คงเพราะฉันไม่พูด JOKER จึงใช้โอกาสตอนนั้นถามออกมาเอง “ลงทุนช่วยขนาดนี้ เพราะอยากช่วยฉันหรืออยากช่วยคนที่เธอคิดว่าฉันเป็นล่ะ คุณผู้หญิง?”
“มันก็แค่การช่วยเหลือ อย่าถามเยอะนักเลยน่า...อ๊ะ”
กึก!
“ถ้างั้นฉันจะตอบแทนที่เธอช่วย...” คำพูดตัดความรำคาญถูกทำให้เงียบลง เมื่ออีกฝ่ายส่งเสียงแย้งขณะกดฝ่ามือลงกับผนังล็อกเกอร์อย่างเงียบเชียบ
ช่วงลำตัวรู้สึกถึงแรงบดเบียดจากอีกฝ่ายที่พยายามขยับเข้ามาแนบชิด ฉันไม่รู้ว่าเราใกล้กันมากแค่ไหนเพราะความมืด รู้แค่ว่าฉันรู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่เป่าลดลงมาขณะอีกฝ่ายเอ่ยปากพูด
“ด้วยร่างกายดีไหม?”
“พูดบ้าอะไร ถอยไปอย่ามาเบียด...อื้อ!” เสียงต่อว่าและปฏิเสธถูกทำให้เงียบ เมื่อมือของเขาพุ่งเข้าปิดปากฉันอย่างรวดเร็ว
“ชู่ว์...” คนตัวสูงกว่านิดหน่อยส่งเสียงปรามให้เงียบ จังหวะเดียวกันนั้นด้านนอกล็อกเกอร์ก็มีเสียงฝีเท้าของผู้คนดังขึ้น แสงจากไฟฉายที่ลอดผ่านช่องเล็กของล็อกเกอร์ทำให้เห็นว่าใบหน้าของ JOKER เวลานี้อยู่ห่างออกไปเพียงแค่การโฉบเฉี่ยวปลายจมูก
ฉันขึงตาดุเขาในอาการตกใจนิดๆ ขณะคนตัวสูงยอมลดมือลงอย่างช้าๆ และกระซิบ
“ถ้าเสียงดังจนถูกจับได้ เธอจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทันที รู้ใช่ไหมคุณผู้หญิง?”
ยามเป็น JOKER เขาไม่ยอมเรียกชื่อฉันเลยสักครั้งเมื่ออยู่ในสภานการณ์คับขันหรือเวลาเผชิญหน้ากันตรงๆ
“ เงียบเสียงไว้ คงจะดีกว่า... ”
ฉันเห็นหน้าเขาไม่ถึงวินาที ตัดสลับไปมาอยู่เช่นนั้น เมื่อเจ้าของกระบอกไฟฉายด้านนอกพยายามสาดไฟส่องหาร่างของเราทั้งคู่ผ่านตัวล็อกเกอร์อย่างเอาเป็นเอาตาย
“เจอไหม!?”
นอกจากเสียงฝีเท้าฉันก็ยังได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันด้านนอก
“ไม่เจอเลยพี่ตี๋ หรือว่า JOKER มันจะเป็นปีศาจจริงๆ” สิ้นเสียงของเด็กรุ่นน้อง ผู้ที่ถูกกล่าวถึงก็หลุดหัวเราะในลำคอคล้ายกับชอบใจ และการที่เขาทำแบบนั้นมันเลยทำให้คนภายนอกหยุดเสียงพูดคุยลงฉับพลัน และมาพร้อมกับแสงไฟจากกระบอกไฟฉายที่ลอดผ่านเข้ามาภายในช่องล็อกเกอร์อีกครั้ง
ฉันอาศัยจังหวะในช่วงที่เรามองเห็นหน้ากัน ขึงตาปรามให้อีกฝ่ายหยุดเสียงหัวเราะโง่ๆ นั่นลง แต่เหมือนผู้ชายคนนี้จะมีสารเอ็นโดนฟินในร่างกายมากเกินไป
“หึๆ ฮ่ะๆ...” แต่ยิ่งปรามเขาก็ทำท่าคล้ายกับจะหลุดหัวเราะตามประสาตัวตลกดังขึ้น
“พี่ตี๋ได้ยินเสียงอะไรป่ะ?” และมันก็เริ่มดังจนคนด้านนอกเริ่มเกิดความสงสัย “ เสียงมันดังมาจากล็อกเกอร์พวกนี้... ”
กึงง!!
เสียงทุบประตูล็อกเกอร์ที่คนด้านนอกเป็นผู้กระทำ ทำฉันสะดุ้งเฮือกอย่างลุ้นระทึก แสงของไฟฉายที่สอดเข้ามาเพื่อส่องหาเราทั้งคู่ก็เช่นกัน
“เนี่ย เสียงมันดังไม่หยุดเลย หรือว่า JOKER มันจะแอบอยู่แถวล็อกเกอร์วะพี่”
“พี่ลองแนบหูฟังทีละตู้ดิ” มนุษย์ล้วนแล้วแต่มีความสงสัยและความฉลาดติดตัวมาตั้งแต่เกิด ฉันไม่รู้หรอกว่าคนภายนอกกำลังทำอะไร รู้แค่ว่ามีบางสิ่งบางอย่างกระทบกับประตูล็อกเกอร์จากภายนอกเท่านั้น
ในเมื่อหยุดความสงสารของคนภายนอกไม่ได้ ฉันก็ควรจะหยุดต้นเหตุของความสงสัยภายในล็อกเกอร์ซะ!
“นี่...” ฉันกระซิบเรียกปีศาจตรงหน้าที่พยายามกักกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองให้เงยมอง โดยอาศัยแสงไฟอันน้อยนิดในการจับจ้องท่วงท่าอีกฝ่าย ก่อนอาศัยจังหวะในช่วงที่เขาเงยหน้าขึ้นโน้มใบหน้าเขาไปใกล้ และหยุดเสียงหัวเราะน่ารำคาญนั่นลงด้วยริมฝีปาก
ซึ่งมันได้ผลเสียงหัวเราะของเขาเงียบหายไปเมื่อผิวปากของเราเบียดเข้าหากันจนแนบสนิทจนเหลือแค่ความเงียบกลืนกินบรรยากาศรอบกาย...
“เหมือนเสียงจะเงียบไปแล้ว...” หูได้ยินเสียงคนภายนอกซึ่งฟังคล้ายกับว่าพวกเขากำลังจะหมดข้อสงสัยเรื่องล็อกเกอร์ เมื่อเป็นเช่นนั้นฉันจึงผละริมฝีปากออกไป ทว่า...
JOKER กลับไม่ยอมหยุดง่ายๆ และเป็นฝ่ายโน้มหน้าเข้ามาแล้วกระซิบ
“คุณไม่น่าตัดสินใจทำแบบนั้นเลยนะ คุณผู้หญิง...”
“เงียบไปเถอะนะ....อื้อ”