8

1121 Words
และแน่นอนว่าเขาคือฮีโร่ในสายตา ในความรู้สึกของเธอ เบญจมินทร์เป็นคนสุภาพมาก ๆ เขาพูดน้อยแต่ทำเยอะ งานในส่วนไหนที่ทำไม่ทัน เขาจะลงมาทำด้วยตัวของเขาเองจนเสร็จสิ้น และมีหลายงาน หลายชิ้นที่เขาขอแรงจากเธอ ซึ่งเธอก็ตอบรับ ช่วยเขาทุกงานด้วยความเต็มใจ เธอกับเบญจมินทร์พัฒนาความสัมพันธ์จากพี่น้องที่เขามอบให้ในที่ทำงาน ก่อนจะเลื่อนขั้นเป็นคนรู้ใจในที่สุด เมื่อในวันหนึ่งเขาชวนเธอออกไปกินข้าวที่ร้านข้างบริษัทหลังเสร็จงานชิ้นใหญ่ ก่อนจะบอกกับเธอว่าเขาชอบเธอ อยากขอคบหาเธอ คบกันแบบที่ไม่ใช่แค่แฟน แต่เขาจริงจังถึงขั้นอยากแต่งงานด้วย เขาอยากมีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น โดยมีเธออยู่กับเขาไปตลอดชีวิต วสุกัญญาที่มีเขาอยู่เต็มทุกห้องของหัวใจอยู่แล้วจะปฏิเสธเขาอย่างนั้นหรือ เธอตอบตกลงคบหากับเขาหลังจากนั่งเงียบไปหลายนาที จากนั้นอีกเกือบปีเธอกับเขาก็ตกลงจดทะเบียนสมรสและย้ายไปอยู่ด้วยกัน เธอรู้ตอนหลังจากหลงรักเขาไปแล้วว่าเบญจมินทร์มาจากครอบครัวที่มีฐานะ และเธอก็ไม่ได้ชอบเขาเพราะเรื่องนี้เลย เธอชอบนิสัยของเขา บุคลิกสุขุมรอบคอบและนิสัยที่อบอุ่นใจดีใจกว้าง นั่นต่างหากที่ทำให้เธอรักเขาหมดหัวใจ เบญจมินทร์เคยจะพาเธอไปพบกับครอบครัวของเขา แต่แล้วก็ถูกที่บ้านของเขาปฏิเสธไม่ให้เข้าบ้าน วสุกัญญารู้ตัวเองดีว่าเธอมาจากครอบครัวแตกแยกและโตมาแบบไม่ค่อยอบอุ่นนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้มีชีวิตที่เหลวแหลก เธอใฝ่ดี เธออยากมีชีวิตที่ดี ๆ อยากมีครอบครัวที่ดี ๆ เธอไม่เคยเรียกร้องอยากไปพบครอบครัวของเขาอีกเมื่อรู้ว่าทางนั้นไม่ยินดีที่จะรับรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของเบญจมินทร์ เธออยากยืนหยัดเคียงข้างเขา แต่แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่วาดฝันเอาไว้ จนต้องฝืนใจขอหย่าขาดจากเขา เมื่อทุกอย่างมาถึงทางตัน คิดมาถึงตรงนี้เสียงโทรศัพท์ของใครสักคนก็แผดเสียงดังขึ้น เบญจมินทร์ไม่ได้สนใจเสียงนั่น สายตาของเขาจับจ้องมองอยู่ที่เธอ รอคอยคำตอบจากเธอ วสุกัญญาเม้มปากน้อย ๆ พาตัวเองออกจากเรื่องราวในอดีตแล้วมองไปยังโทรศัพท์ของเขาแทนการสบตาตอบเขา “รับสายเถอะค่ะ เดี๋ยวยัยรินจะตื่นขึ้นมาอีก” “ไม่ใช่สายสำคัญ” เขาบอกพร้อมกับเดินไปหยิบขึ้นมาดู คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเพียงนิดเดียว เมื่อมองจ้องที่หน้าจอแล้วเลื่อนมือปาดไปมา เป็นการตัดสายสนทนาและปิดโทรศัพท์ในขั้นตอนต่อจากนั้น ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหา วสุกัญญาขยับออกห่าง รู้สึกได้ว่าเขากำลังคุกคามเธอ “พี่ไม่มีทางยอมให้หนูไปแต่งงานกับคนอื่นหรอกนะ” “แต่คุณทำได้อย่างนั้นหรือ” “แล้วใครผลักไสไล่ส่งให้พี่ทำแบบนั้น หนูลืมไปแล้วหรือยังไง” วสุกัญญาเบือนหน้าหนี ไม่อยากให้เขารื้อฟื้นเรื่องในอดีตอีก แต่แล้วก็ตกหลุมพรางของเขา เมื่อพูดตอบโต้ด้วยเรื่องที่เป็นรอยบาดหมางในหัวใจของเธอเอง เบญจมินทร์ยื่นมือออกมาจับที่ข้อมือของเธอแล้วดึงเข้าไปหาเขา ใบหน้าของเธออยู่ห่างจากเขาไม่มาก แล้วเสียงขรึมก็กระซิบถามอย่างคนที่เจ็บปวดใจไม่ต่างกันกับเธอ “ผลักไสพี่ไปจากหนูทำไม ทำทำไม บอกพี่สิ” “อย่าทำแบบนี้ค่ะ” เบญจมินทร์เห็นท่าทีต่อต้าน รวมถึงคำพูดไม่ไยดีแล้ว ก็รู้สึกอยากยั่วเธอกลับไปบ้าง “เมื่อก่อนตอนเราอยู่ด้วยกัน พี่ทำมากกว่านี้อีกนะ หนูจำได้ไหม” วสุกัญญาร้อนไปหมดทั้งหน้า เธอช้อนตาขึ้นมองเขาพบแววตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายวาววับก็เข้าใจได้ในทันทีถึงคำพูดสองแง่สองง่ามของเบญจมินทร์ เธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเสียหน่อย เขาพูดมันออกมาได้อย่างไร “หยุดพูดจาคุกคามฉันสักที” เมื่อไม่มีใครยอมใคร อารมณ์ของเบญจมินทร์ก็กลับมาคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง เขาออกแรงดึงเธอให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา รัดแขนโอบรอบลำตัวของเธอ พร้อมกับยื่นหน้าลงหาเสียใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน “จำคำพูดของพี่เอาไว้นะว่าพี่ไม่มีวันปล่อยหนู ไปแต่งงานกับใครที่ไหนทั้งนั้น ส่วนไอ้เรื่องปัญญาอ่อนที่เคยหลอกพี่ว่าจะไปแต่งงานกับคนอื่นก็หามุกใหม่ได้แล้ว พี่รู้ว่าหนูไม่แต่งงานกับไอ้หมอเวรนั่นหรอก ถ้าแต่งก็แต่งตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ไม่ทิ้งเวลาให้นานขนาดนี้แน่ ๆ” “คุณไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตของฉัน” วสุกัญญาออกแรงกระชากแขนของตัวเองออกจากมือของเขาจนหลุดแล้วเดินหนีแต่เบญจมินทร์ก็ตามเข้ามาดักที่เบื้องหน้าของเธอ “พี่ให้เวลาหนูมาหกปีแล้ว และหลังจากนี้ก็เป็นเวลาของพี่บ้าง พี่ต้องการลูก ต้องการหนู คิดหรือว่าเงื่อนไขที่ให้พี่ทำนั่น พี่จะยอมตลอดไปน่ะ” “แต่คุณแต่งงานแล้ว มีภรรยาอยู่แล้วนะ น่าจะนึกถึงหัวอกเธอบ้าง” “พี่นึกถึงหัวอกของเมียพี่เสมอ อยากรู้ไหมว่าเมียชื่ออะไร วสุกัญญาไง คุ้นไหมชื่อนี้” เธอไม่อยากคุยกับเขาอีก เลยหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไป ข่มอารมณ์ตัวเองเป็นนาน โดยมีเด็กหญิงสวรินทร์นอนคั่นกั้นอยู่ตรงกลาง เบญจมินทร์เดินตามเข้ามานอนยังนอนฟากของเขาในเวลาต่อมา รู้ดีว่าคืนนี้คงไม่มีใครได้นอนหลับเป็นแน่ เพิ่งมีปากเสียงกันแบบนั้น ใครล่ะจะหลับได้ลง เสียงกรนเบา ๆ เงียบลงพักใหญ่ก่อนที่เจ้าของเสียงจะรู้สึกตัวตื่นในที่สุด วสุกัญญาพบว่าตัวของเธอกำลังนอนพาดอยู่บนแผ่นอกของใครสักคน แล้วมันจะเป็นแผงอกของใครได้ ถ้าไม่ใช่ของเบญจมินทร์ ส่วนลูกที่นอนกั้นกลางอยู่เหตุใดจึงได้ย้ายไปนอนที่อีกฟากของเขาแล้ว ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าเบญจมินทร์นอนคั่นกลางระหว่างเธอกับลูกสาว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD