มาเฟียร้ายขังรัก
บทที่ 5. พบเจอ
รถยนต์คันหรูสองคันที่คลานเข้ามาจอดในวัดยามบ่าย ดึงความสนใจจากพราวมุกที่กำลังช่วยป้าบัวยกน้ำดื่มไปเสิร์ฟให้กับแขกที่มาร่วมงานต้องหันไปมอง
กลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำที่เดินตามหลังผู้ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำหากแต่ดูภูมิฐานกว่า ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเจ้านายของคนพวกนั้น หลายต่อหลายคนต่างหันไปมองเขาด้วยความสนใจ เพราะนอกจากเขาจะมีผู้ติดตามเหมือนผู้มีอิทธิพลแล้ว หน้าตาของเขายังหล่อเหลาและดูดีมากทีเดียว หากแต่คนที่กำลังถูกจับจ้องจากสายตาทุกคู่นั้น กลับจ้องมองมายังพราวมุกเพียงคนเดียวตั้งแต่ก้าวลงมาจากรถคันหรู
"รดา" เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ ในลำคอ จับจ้องร่างบางที่กำลังมองมาที่เขาเช่นเดียวกันนิ่งนาน
แม้ว่าใบหน้าของพราวมุกไม่ถึงกับเหมือนรินรดาเลยเสียทีเดียว แต่ก็มีความคล้ายคลึงอยู่มากจนทำให้นักรบอดเปรียบเทียบเธอกับรินรดาไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นความคิดขัดแย้งก็ยังเกิดขึ้นภายในใจของเขา
' ผู้หญิงใจแตกคนนี้ ไม่ควรเลยสักนิด ที่จะมีหน้าตาคล้ายรินรดาของเขา'
นักรบพยักหน้าให้ลูกน้องด้วยใบหน้านิ่งขรึม พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นหน้าโลงศพ นางบัวที่เดินตามเข้ามารับเอาพวงหรีดจากชายชุดดำ และนำมันไปตั้งใกล้กันกับโลงศพของนายอธิปทันที
มือใหญ่รับธูปจากพราวมุกที่ลอบสังเกตเขาอยู่เงียบ ๆ และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่สองสายตาประสานกันคล้ายกำลังหยั่งเชิง ก่อนที่นักรบจะยื่นธูปกลับคืนให้หญิงสาวนำมันไปปักลงในกระถาง
สายตาคมกวาดมองพราวมุกนิ่งนาน หากแต่แฝงความดูแคลนอยู่ในนั้น และท่าทางของเขาก็ทำให้พราวมุกหน้าตึง รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าผู้ชายคนนี้ขึ้นมาทันทีอย่างไม่มีสาเหตุ
"มีปัญหาอะไรสงสัยรึเปล่าคะ"
พราวมุกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างไม่คิดบิดบัง มีใครบ้างที่พอใจ หากถูกมองด้วยสายตาไร้มารยาทแบบนั้น
"ไว้เจอกันใหม่ พราวมุก"
นักรบตอบเสียงเย็น เหยียดยิ้มขึ้นตรงมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากศาลาพร้อมกับลูกน้องที่ห้อมล้อมทั้งหน้าหลัง ทิ้งความสงสัยค้างคาใจให้พราวมุกคิดตามในคำตอบของเขา
"เขาเป็นใครคะ ป้ารู้จักเขาไหม"
พราวมุกเอ่ยถามเอากับนางบัว และคำตอบที่ได้รับก็คืออาการส่ายหัว
"ไม่ทราบเหมือนกันค่ะคุณมุก ป้าก็เพิ่งจะเคยเห็นเขาเป็นครั้งแรก"
พราวมุกมองตามนักรบที่ก้าวเข้าไปนั่งในรถด้วยความสงสัยที่ดูเหมือนจะยิ่งมีมากขึ้น ขณะนั้นสองสายตาสบประสานกันอีกครั้งหนึ่ง คิ้วเข้มที่เลิกขึ้นสูง ยิ่งทำให้พราวมุกหวาดหวั่นภายในใจขึ้นมาเฉย ๆ พร้อมกับตั้งคำถามกับตัวเองว่า เขาคนนี้ต้องการอะไรกันแน่
ภายในรถคันหรู
นักรบตัดสินใจจรดปากกาเซ็นชื่อของตัวเองลงไปในสัญญาจำนองอย่างไม่คิดลังเล ริมฝีปากหนาสีเข้มแย้มยิ้มออมาอย่างร้ายกาจ แววตาคมประดุจเหยี่ยวพราวระยับ ขณะทอดสายมองรูปของพราวมุก และสัญญาจำนองในมืออีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยเรียกเลขาคนสนิทในนาทีต่อมา
"เวศน์"
"ครับนาย"
เลขาหนุ่มที่นั่งอยู่ทางเบาะด้านหน้าข้างคนขับเอ่ยเอี้ยวตัวกลับมาและถามทันที บ่งบอกว่าเขาพร้อมที่จะรับคำสั่งของผู้เป็นนาย
ฉันต้องการตัวลูกสาวนายอธิป จัดการให้เงียบที่สุด"
"ครับนาย ผมจะรีบจัดการให้"
นักรบยิ้มเย็น มองรูปภาพของพราวมุกด้วยประกายตาแข็งกร้าว ก็แค่หน้าเหมือนแฟนเก่า อย่าสำคัญตัวผิด เธอเป็นได้แค่ที่รองรับอารมณ์ของเขาเท่านั้น
พราวมุกเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มควันที่ลอยขึ้นไปบนอากาศเหนือปล่องเมรุด้วยความรู้สึกเศร้าใจ เสียใจ และสุดท้าย อาลัยอาวรณ์อย่างสุดซึ้ง เธอไม่สามารถทำใจยอมรับการจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับของบิดาได้
จะให้เธอทำใจได้ยังไง ในเมื่อสาเหตุการตายของผู้เป็นพ่อยังคลุมเครืออยู่แบบนี้
นางบัววางมือลงบนบ่าบอบบางที่สั่นน้อย ๆ จากแงสะอื้นไห้ขณะกอดภาพหน้าศพของบิดาบังเกิดเกล้าในอ้อมแขน
"ทำใจเถอะนะคะคุณมุก คุณท่านไปดีแล้ว"
นางบัวเอ่ยปลอบ ทั้งที่จิตใจของตัวเองนั้นก็รู้สึกหดหู่ไม่ต่างกันนัก
"ป้าบัวแน่ใจได้ยังไงคะ ว่าพ่อจะไปดี"
พราวมุกเอ่ยถามเสียงสะอื้น เธอไม่คิดว่าพ่อของเธอจะไปดีหรือไปสบายอย่างที่ใครต่อใครพากันบอก เธอยังคงเชื่อว่า พ่อของเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย แม้ตำรวจจะสรุปคดีไปแล้วก็ตามที และหญิงสาวก็แน่ใจเหลือเกินว่า เรื่องนี้ผู้หญิงคนนั้นของพ่อต้องมีส่วนรู้เห็นด้วย
"มุกจะรอวันที่คนทำชั่วได้รับผลกรรมที่มันทำไว้"
พราวมุกบอกกับตัวเสียงกร้าว มือบางกำเข้าหากันแน่น ก่อนจะหันขวับไปมองผู้คนในชุดดำที่เดินสวนผ่านไปมา เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจ้องมอง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครเท่านั้น
"คุณมุกมองหาใครคะ"
ป้าบัวเอ่ยถาม เมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวดูแปลกพิกล
"เปล่าหรอกค่ะป้า"
พราวมุกบอกปัด เพื่อให้ป้าบัวสบายใจ แต่กระนั้นก็ยังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณวัดอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมามองกลุ่มควันที่ยังคงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ใบหน้างามที่ตอนนี้ซีดเซียว หันหลังเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่เพื่อกลับบ้านตามแรงจับจูงของนางบัว และจะกลับมาเพื่อเก็บอัฐิอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
เมื่อรถของพราวมุกเคลื่อนออกจากบริเวณวัดไปแล้ว ชายฉกรรจ์สองคนก็เดินออกมาจากที่ซ่อนด้วยท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ หนึ่งในนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก และกรอกเสียงลงไปทันทีที่คนปลายสายกดรับ
"เจอแล้วครับเสี่ย เป็นลูกสาวของมันแน่นนอน ได้ยินว่าเพิ่งจะเรียนจบกลับมาจากทางเหนือ สวยครับ เสี่ยต้องชอบแน่ ได้ครับ ผมจะรีบจัดการทันที"